วันนี้ (17 ก.ย.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งอยู่ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ในช่วงรอ กกต.ชุดใหม่ ยืนยันว่า ยังจะส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง ใน 2 ประเด็น ว่าขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ กรณีตัดอำนาจการเลือกตั้งท้องถิ่นของ กกต.และการตัดอำนาจของ กกต.แต่ละคนในการสั่งให้ยุติการเลือกตั้งในหน่วยที่มีปัญหา โดยจะนำเรื่องเข้าที่ประชุม กกต.ในวันอังคารที่ 19 กันยายนนี้ เพื่อขอมติในการส่งทั้ง 2 ประเด็นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย
โดย กกต.เคยส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยทั้ง 2 ประเด็นมาแล้ว ก่อนที่จะมีการนำร่างกฎหมายขึ้นทูลเกล้าฯ แต่เนื่องจากรัฐธรรมนูญ ไม่อนุญาตให้ กกต.ยื่นต่อศาลโดยตรง เพราะยังเป็นร่างกฎหมายที่กำหนดให้ยื่นผ่านนายกรัฐมนตรี และช่องทางของสภานิติบัญญัติแห่งชาติเท่านั้น ศาลรัฐธรรมนูญ จึงไม่ได้รับไว้วินิจฉัย ดังนั้น เมื่อมีการประกาศใช้เป็นกฎหมายแล้ว กกต.จึงจะใช้สิทธิยื่นในฐานะองค์กรอีกครั้ง โดยไม่มีประเด็นเรื่องเซ็ตซีโร่ กกต.รวมอยู่ด้วย
นายสมชัย ย้ำถึงสถานะของ กกต.ว่า แม้กฎหมายจะให้พ้นวาระไปแล้ว แต่ยังคงให้อยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อจนกว่าจะมี กกต.ชุดใหม่ ดังนั้น การทำหน้าที่ของกกต.จึงเป็นการทำหน้าที่เต็มไม่ใช่การรักษาการ / ส่วน กกต.จังหวัด นั้น ได้สิ้นสภาพไปทันทีหลังกฎหมายมีผลบังคับใช้ โดยได้รับเงินเดือนถึงวันที่ 11 กันยายนเท่านั้น ทั้งนี้ คาดว่า จากกระบวนการสรรหาตั้งแต่เริ่มต้น จนไปสิ้นสุดที่การลงมติรับรองของสภา น่าจะได้ กกต.ชุดใหม่ในช่วงระหว่างวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ถึง 15 มีนาคม ปี2561
ด้านสำนักวิจัยซูเปอร์โพล ชมรมขับเคลื่อนวิชาการเพื่อวิจัยความสุขชุมชน เปิดเผยผลสำรวจเรื่องการเลือกตั้ง พบว่า มีประชาชนที่ตอบแบบสอบถามเกินครึ่ง หรือร้อยละ 55.1 ต้องการเลือกตั้งในเดือนกันยายน 2561 ขณะที่ร้อยละ 44.9 อยากให้เลือกตั้งหลังจากนั้นเป็นต้นไป
โดย กกต.เคยส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยทั้ง 2 ประเด็นมาแล้ว ก่อนที่จะมีการนำร่างกฎหมายขึ้นทูลเกล้าฯ แต่เนื่องจากรัฐธรรมนูญ ไม่อนุญาตให้ กกต.ยื่นต่อศาลโดยตรง เพราะยังเป็นร่างกฎหมายที่กำหนดให้ยื่นผ่านนายกรัฐมนตรี และช่องทางของสภานิติบัญญัติแห่งชาติเท่านั้น ศาลรัฐธรรมนูญ จึงไม่ได้รับไว้วินิจฉัย ดังนั้น เมื่อมีการประกาศใช้เป็นกฎหมายแล้ว กกต.จึงจะใช้สิทธิยื่นในฐานะองค์กรอีกครั้ง โดยไม่มีประเด็นเรื่องเซ็ตซีโร่ กกต.รวมอยู่ด้วย
นายสมชัย ย้ำถึงสถานะของ กกต.ว่า แม้กฎหมายจะให้พ้นวาระไปแล้ว แต่ยังคงให้อยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อจนกว่าจะมี กกต.ชุดใหม่ ดังนั้น การทำหน้าที่ของกกต.จึงเป็นการทำหน้าที่เต็มไม่ใช่การรักษาการ / ส่วน กกต.จังหวัด นั้น ได้สิ้นสภาพไปทันทีหลังกฎหมายมีผลบังคับใช้ โดยได้รับเงินเดือนถึงวันที่ 11 กันยายนเท่านั้น ทั้งนี้ คาดว่า จากกระบวนการสรรหาตั้งแต่เริ่มต้น จนไปสิ้นสุดที่การลงมติรับรองของสภา น่าจะได้ กกต.ชุดใหม่ในช่วงระหว่างวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ถึง 15 มีนาคม ปี2561
ด้านสำนักวิจัยซูเปอร์โพล ชมรมขับเคลื่อนวิชาการเพื่อวิจัยความสุขชุมชน เปิดเผยผลสำรวจเรื่องการเลือกตั้ง พบว่า มีประชาชนที่ตอบแบบสอบถามเกินครึ่ง หรือร้อยละ 55.1 ต้องการเลือกตั้งในเดือนกันยายน 2561 ขณะที่ร้อยละ 44.9 อยากให้เลือกตั้งหลังจากนั้นเป็นต้นไป