เมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้ (14 ก.ย.) นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้าการก่อสร้างพระเมรุมาศจำลอง ที่บริเวณพระลานพระราชวังดุสิต
นายจักกพันธุ์ เปิดเผยว่า ตามที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชวินิจฉัยให้ดำเนนิการก่อสร้างพระเมรุมาศจำลองบนพื้นที่พระลานพระราชวังดุสิต และใน 4 มุมเมืองของกรุงเทพมหานคร รวมถึงในทุกจังหวัด เนื่องจากทรงห่วงใยประชาชนจำนวนมากที่ต้องเดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯ ซี่งในส่วนของกรุงเทพมหานคร จะมีทั้งหมด 9 แห่ง โดยกรุงเทพมหานครรับผิดชอบการก่อสร้างที่บริเวณพระลานพระราชวังดุสิต สำหรับความคืบหน้าในวันนี้หลังดำเนินการก่อสร้างมาได้ประมาณ 1 เดือน คืบหน้าไปแล้ว 50 เปอร์เซ็นต์ โดยการก่อสร้างเป็นงานละเอียดตามแบบของกรมศิลปากร โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จไม่เกินวันที่ 10 ตุลาคมนี้
สำหรับพระเมรุมาศจำลองที่พระลานพระราชวังดุสิต มีความสูง 21 เมตร เทียบเท่าอาคาร 7 ชั้น มีเส้นผ่าศูนย์กลางของฐาน 16 เมตร มียอดบุษบกจำนวน 7 ชั้น
ทั้งนี้ ในส่วนของขั้นตอนวิธีการรองรับประชาชนที่จะเดินทางมาถวายดอกไม้จันทน์ ก่อนสิ้นเดือนกันยายนนี้ ทางกรุงเทพมหานครจะมีการอบรมให้ความรู้ความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่กว่า 2600 คน พร้อมจัดทำคู่มือการปฏิบัติงานให้กับเจ้าหน้าที่ด้วย เพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปตามขึ้นตอนที่ถูกต้อง โดยพื้นที่บริเวณพระลานพระราชวังดุสิต สามารถรองรับประชาชนได้มากกว่า 1,000 คน ซี่งหากมีประชาชนมากเจ้าหน้าที่ก็พร้อมปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกอย่างเต็มความสามารถ
นายจักกพันธุ์ เปิดเผยด้วยว่า ในส่วนของพระเมรุมาศจำลองจะตั้งไว้เป็นเวลา 3 เดือนหลังจากเสร็จสิ้นงานพระราชพิธีจึงจะทำการรื้อถอน
วันเดียวกันนี้ เวลา 09.00 น. หลังได้ตรวจสอบความคืบหน้าแล้วเสร็จ นายจักกพันธุ์ ได้ประกอบพิธีบวงสรวง ก่อนใช้รถเครนยกยอดบุษบก หนัก 5 ตันขึ้นวางบนพระเมรุมาศจำลอง โดยมีคนงานก่อสร้างทุกคนร่วมพิธีดังกล่าวด้วย
สำหรับพระเมรุมาศจำลองในพื้นที่กรุงเทพมหานครอีก 8 แห่ง จะอยู่ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร สำนักงานสลากกินแล่งรัฐบาล(เก่า) ลานนาคราภิรมย์ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สนามกีฬากองทัพอากาศธูปะเตมีย์ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา พุทธมณฑล และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
นายจักกพันธุ์ เปิดเผยว่า ตามที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชวินิจฉัยให้ดำเนนิการก่อสร้างพระเมรุมาศจำลองบนพื้นที่พระลานพระราชวังดุสิต และใน 4 มุมเมืองของกรุงเทพมหานคร รวมถึงในทุกจังหวัด เนื่องจากทรงห่วงใยประชาชนจำนวนมากที่ต้องเดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯ ซี่งในส่วนของกรุงเทพมหานคร จะมีทั้งหมด 9 แห่ง โดยกรุงเทพมหานครรับผิดชอบการก่อสร้างที่บริเวณพระลานพระราชวังดุสิต สำหรับความคืบหน้าในวันนี้หลังดำเนินการก่อสร้างมาได้ประมาณ 1 เดือน คืบหน้าไปแล้ว 50 เปอร์เซ็นต์ โดยการก่อสร้างเป็นงานละเอียดตามแบบของกรมศิลปากร โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จไม่เกินวันที่ 10 ตุลาคมนี้
สำหรับพระเมรุมาศจำลองที่พระลานพระราชวังดุสิต มีความสูง 21 เมตร เทียบเท่าอาคาร 7 ชั้น มีเส้นผ่าศูนย์กลางของฐาน 16 เมตร มียอดบุษบกจำนวน 7 ชั้น
ทั้งนี้ ในส่วนของขั้นตอนวิธีการรองรับประชาชนที่จะเดินทางมาถวายดอกไม้จันทน์ ก่อนสิ้นเดือนกันยายนนี้ ทางกรุงเทพมหานครจะมีการอบรมให้ความรู้ความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่กว่า 2600 คน พร้อมจัดทำคู่มือการปฏิบัติงานให้กับเจ้าหน้าที่ด้วย เพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปตามขึ้นตอนที่ถูกต้อง โดยพื้นที่บริเวณพระลานพระราชวังดุสิต สามารถรองรับประชาชนได้มากกว่า 1,000 คน ซี่งหากมีประชาชนมากเจ้าหน้าที่ก็พร้อมปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกอย่างเต็มความสามารถ
นายจักกพันธุ์ เปิดเผยด้วยว่า ในส่วนของพระเมรุมาศจำลองจะตั้งไว้เป็นเวลา 3 เดือนหลังจากเสร็จสิ้นงานพระราชพิธีจึงจะทำการรื้อถอน
วันเดียวกันนี้ เวลา 09.00 น. หลังได้ตรวจสอบความคืบหน้าแล้วเสร็จ นายจักกพันธุ์ ได้ประกอบพิธีบวงสรวง ก่อนใช้รถเครนยกยอดบุษบก หนัก 5 ตันขึ้นวางบนพระเมรุมาศจำลอง โดยมีคนงานก่อสร้างทุกคนร่วมพิธีดังกล่าวด้วย
สำหรับพระเมรุมาศจำลองในพื้นที่กรุงเทพมหานครอีก 8 แห่ง จะอยู่ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร สำนักงานสลากกินแล่งรัฐบาล(เก่า) ลานนาคราภิรมย์ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สนามกีฬากองทัพอากาศธูปะเตมีย์ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา พุทธมณฑล และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง