วันนี้ (12 ก.ย.) เวลา 12.10 น. นายไพโจน์ สมศรี อายุ 41 ปี พนักงานขับรถบริษัทขนส่งสัตว์เลี้ยง ได้เดินทางมาที่สถานีตำรวจภูธรโพธิ์กลาง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา เพื่อให้ปากคำเกี่ยวกับคดีทารุณกรรมสัตว์ ที่ทางปศุสัตว์จังหวัดนครราชสีมา แจ้งความร้องทุกข์นักศึกษาแพทย์วางยาสุนัขเสียชีวิตเรียกเงินค่าประกัน
เบื้องต้น นายไพโรจน์ เปิดเผยว่า ได้รับว่าจ้างจากบริษัทรับส่งสัตว์เลี้ยง ในราคา 2,500 บาท เพื่อมาส่งสุนัข ที่จังหวัดนครราชสีมา โดยทางบริษัทย้ำว่า ให้ดูแลสุนัขตัวนี้ให้ดี เพราะลูกค้าทำประกันไว้ในราคาสูงถึง 50,000 บาท โดยเป็นประกันอุบัติเหตุ ทำให้ตนต้องตั้งใจบริการให้ดีที่สุด ต่อมาช่วงที่ไปรับนักศึกษาแพทย์มาจากโรงแรมที่กรุงเทพมหานคร รู้สึกว่านักศึกษาแพทย์จะมีท่าทีเร่งรีบ พร้อมกับหอบกระเป๋าสุนัขวิ่งมาขึ้นรถของตน โดยให้นั่งด้านหน้ารถกับตนเองตลอด แต่ลักษณะกระเป๋าสุนัขจะหันข้างที่สามารถเปิดล้วงเข้าไปได้ไปหาเจ้าของ ดังนั้นตนจึงไม่รู้ว่าจะมีการล้วงเข้าไปป้อนยาให้สุนัขหรือไม่
ทั้งนี้ มีการพูดคุยและบอกกับตนว่าได้ให้ยาแก้เมารถกับสุนัขมา ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกใจ แต่เนื่องจากเจ้าของสุนัขอ้างว่าตนเองเรียนแพทย์มาจึงเชื่อ จนกระทั่งมาถึงบริเวณอำเภอปักธงชัย จึงลงจอดที่ปั้มน้ำมัน ช่วงนี้นักศึกษาแพทย์ได้นำสุนัขลงไปจากรถนานประมาณ 20 นาที และเมื่อถึงอำเภอโชคชัย ทางนักศึกษาแพทย์ได้เปิดสุนัขให้ดูว่า มีอาการท้องอืด ซึมเศร้า จึงให้ตนกลับรถนำสุนัขมาที่โรงพยาบาลสัตว์เซ็นเตอร์แพท อำเภอเมืองนครราชสีมา และพบว่าสุนัขได้ตายแล้ว พร้อมกับเรียกร้องให้บริษัทขนส่งสัตว์เลี้ยง จ่ายเงินค่าประกันจำนวน 50,000 บาท ซึ่งทางบริษัทชี้แจงว่าไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขการประกันอุบัติเหตุ พร้อมกับขอให้ผ่าพิสูจน์ซากสุนัข และเห็นว่ามีความผิดปกติ คือพบยาอยู่ในกระเพาะสุนัขจำนวนมาก ต่อมาทางนักศึกษาแพทย์เจ้าของสุนัขยอมความไม่เอาเงินค่าประกัน แต่ขอให้คืนเงินค่าขนส่งไป จำนวน 2,500 บาทแทน ซึ่งได้คืนเงินไปเรียบร้อยแล้ว และตนไม่ได้ติดใจเอาความอะไรทั้งนั้น ส่วนที่เดินทางมาวันนี้ เพราะทาง สภ.โพธิ์กลาง นัดมาสอบปากคำ คดีทารุณกรรมสัตว์ ที่ทางสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดนครราชสีมา แจ้งความร้องทุกข์ไว้เท่านั้น
เบื้องต้น นายไพโรจน์ เปิดเผยว่า ได้รับว่าจ้างจากบริษัทรับส่งสัตว์เลี้ยง ในราคา 2,500 บาท เพื่อมาส่งสุนัข ที่จังหวัดนครราชสีมา โดยทางบริษัทย้ำว่า ให้ดูแลสุนัขตัวนี้ให้ดี เพราะลูกค้าทำประกันไว้ในราคาสูงถึง 50,000 บาท โดยเป็นประกันอุบัติเหตุ ทำให้ตนต้องตั้งใจบริการให้ดีที่สุด ต่อมาช่วงที่ไปรับนักศึกษาแพทย์มาจากโรงแรมที่กรุงเทพมหานคร รู้สึกว่านักศึกษาแพทย์จะมีท่าทีเร่งรีบ พร้อมกับหอบกระเป๋าสุนัขวิ่งมาขึ้นรถของตน โดยให้นั่งด้านหน้ารถกับตนเองตลอด แต่ลักษณะกระเป๋าสุนัขจะหันข้างที่สามารถเปิดล้วงเข้าไปได้ไปหาเจ้าของ ดังนั้นตนจึงไม่รู้ว่าจะมีการล้วงเข้าไปป้อนยาให้สุนัขหรือไม่
ทั้งนี้ มีการพูดคุยและบอกกับตนว่าได้ให้ยาแก้เมารถกับสุนัขมา ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกใจ แต่เนื่องจากเจ้าของสุนัขอ้างว่าตนเองเรียนแพทย์มาจึงเชื่อ จนกระทั่งมาถึงบริเวณอำเภอปักธงชัย จึงลงจอดที่ปั้มน้ำมัน ช่วงนี้นักศึกษาแพทย์ได้นำสุนัขลงไปจากรถนานประมาณ 20 นาที และเมื่อถึงอำเภอโชคชัย ทางนักศึกษาแพทย์ได้เปิดสุนัขให้ดูว่า มีอาการท้องอืด ซึมเศร้า จึงให้ตนกลับรถนำสุนัขมาที่โรงพยาบาลสัตว์เซ็นเตอร์แพท อำเภอเมืองนครราชสีมา และพบว่าสุนัขได้ตายแล้ว พร้อมกับเรียกร้องให้บริษัทขนส่งสัตว์เลี้ยง จ่ายเงินค่าประกันจำนวน 50,000 บาท ซึ่งทางบริษัทชี้แจงว่าไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขการประกันอุบัติเหตุ พร้อมกับขอให้ผ่าพิสูจน์ซากสุนัข และเห็นว่ามีความผิดปกติ คือพบยาอยู่ในกระเพาะสุนัขจำนวนมาก ต่อมาทางนักศึกษาแพทย์เจ้าของสุนัขยอมความไม่เอาเงินค่าประกัน แต่ขอให้คืนเงินค่าขนส่งไป จำนวน 2,500 บาทแทน ซึ่งได้คืนเงินไปเรียบร้อยแล้ว และตนไม่ได้ติดใจเอาความอะไรทั้งนั้น ส่วนที่เดินทางมาวันนี้ เพราะทาง สภ.โพธิ์กลาง นัดมาสอบปากคำ คดีทารุณกรรมสัตว์ ที่ทางสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดนครราชสีมา แจ้งความร้องทุกข์ไว้เท่านั้น