วันนี้ (23 ส.ค.60) เวลา 14.00 น. ที่มณฑลทหารบกที่ 11 มีการซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ของพระราชวงศ์ และราชสกุล ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งการซ้อมริ้วขบวนในวันนี้ ถือเป็นครั้งแรก โดยเป็นการซ้อมริ้วขบวนที่ 2-5
สำหรับริ้วขบวนที่ 2 นั้น เป็นการเชิญพระมหาพิชัยราชรถทรงพระบรมศพเคลื่อนจากวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ผ่านหน้าพระที่นั่งสุทไธสวรรยปราสาท ไปยังมณฑลพระราชพิธีท้องสนามหลวง โดยใช้ถนนสนามไชย ริ้วขบวนที่ 3 อัญเชิญพระบรมโกศพระบรมศพเวียนรอบพระเมรุมาศโดยอุตราวัฏ (เวียนซ้าย) ริ้วขบวนที่ 4 เชิญพระบรมอัฐิและพระสรีรางคารประดิษฐาน ณ พระบรมมหาราชวัง ริ้วขบวนที่ 5 เชิญพระบรมอัฐิโดยพระที่นั่งราเชนทรยานไปยังพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ริ้วขบวนที่ 2 นั้นจะมีความงดงามมากที่สุด และใช้ผู้ร่วมในริ้วขบวนมากที่สุด โดยในพระราชพิธีครั้งนี้จะใช้รูปแบบการเดินเท้าต่อเท้า จากเดิมที่เป็นเปลี่ยนสูงแบบสืบเท้า ทำให้ใช้เวลาเดินจาก 1 ชั่วโมงครึ่ง เป็นเกือบราว 2 ชั่วโมง เพราะการก้าวจะสั้นลง
ทั้งนี้ จะมีการซ้อมการเดินริ้วขบวน ณ พื้นที่จริง 3 ครั้ง ได้แก่ วันที่ 7 ตุลาคม เวลา 07.00 น. วันที่ 12 ตุลาคม เวลา 07.00 น. และ วันที่ 21 ตุลาคม เวลา 07.00 น. การนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมาทรงร่วมการซักซ้อมในครั้งนี้ด้วย
สำหรับบรรยกาศการฝึกซ้อมริ้วขบวนพระอิสริยยศนั้น ถึงแม้สภาพอากาศจะร้อน เต็มไปด้วยแสงแดดที่แผดเผา แต่ก็มิได้ทำให้พระราชวงศ์ และราชสกุล ที่มาร่วมฝึกซ้อมในครั้งนี้ท้อถอยแม้แต่คนเดียว หากแต่ทุกคนกลับมุ่งมั่นและมีความตั้งใจเกินร้อย ที่ครั้งหนึ่งในชีวิตจะได้เข้าร่วมและเป็นส่วนหนึ่งของพระราชพิธีครั้งประวัติศาสตร์ที่ต้องจารึกไว้ในหัวใจของคนไทยตราบนานเท่านาน
สำหรับริ้วขบวนที่ 2 นั้น เป็นการเชิญพระมหาพิชัยราชรถทรงพระบรมศพเคลื่อนจากวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ผ่านหน้าพระที่นั่งสุทไธสวรรยปราสาท ไปยังมณฑลพระราชพิธีท้องสนามหลวง โดยใช้ถนนสนามไชย ริ้วขบวนที่ 3 อัญเชิญพระบรมโกศพระบรมศพเวียนรอบพระเมรุมาศโดยอุตราวัฏ (เวียนซ้าย) ริ้วขบวนที่ 4 เชิญพระบรมอัฐิและพระสรีรางคารประดิษฐาน ณ พระบรมมหาราชวัง ริ้วขบวนที่ 5 เชิญพระบรมอัฐิโดยพระที่นั่งราเชนทรยานไปยังพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ริ้วขบวนที่ 2 นั้นจะมีความงดงามมากที่สุด และใช้ผู้ร่วมในริ้วขบวนมากที่สุด โดยในพระราชพิธีครั้งนี้จะใช้รูปแบบการเดินเท้าต่อเท้า จากเดิมที่เป็นเปลี่ยนสูงแบบสืบเท้า ทำให้ใช้เวลาเดินจาก 1 ชั่วโมงครึ่ง เป็นเกือบราว 2 ชั่วโมง เพราะการก้าวจะสั้นลง
ทั้งนี้ จะมีการซ้อมการเดินริ้วขบวน ณ พื้นที่จริง 3 ครั้ง ได้แก่ วันที่ 7 ตุลาคม เวลา 07.00 น. วันที่ 12 ตุลาคม เวลา 07.00 น. และ วันที่ 21 ตุลาคม เวลา 07.00 น. การนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมาทรงร่วมการซักซ้อมในครั้งนี้ด้วย
สำหรับบรรยกาศการฝึกซ้อมริ้วขบวนพระอิสริยยศนั้น ถึงแม้สภาพอากาศจะร้อน เต็มไปด้วยแสงแดดที่แผดเผา แต่ก็มิได้ทำให้พระราชวงศ์ และราชสกุล ที่มาร่วมฝึกซ้อมในครั้งนี้ท้อถอยแม้แต่คนเดียว หากแต่ทุกคนกลับมุ่งมั่นและมีความตั้งใจเกินร้อย ที่ครั้งหนึ่งในชีวิตจะได้เข้าร่วมและเป็นส่วนหนึ่งของพระราชพิธีครั้งประวัติศาสตร์ที่ต้องจารึกไว้ในหัวใจของคนไทยตราบนานเท่านาน