xs
xsm
sm
md
lg

พสกนิกรพร้อมน้อมนำแนวพระราชดำริ 'ร.๙' ปรับใช้ในการดำเนินชีวิต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บรรยากาศการไว้อาลัยและกราบสักการะพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง วันนี้ (19 มี.ค.) ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 137 ตลอดทั้งวันยังมีพสกนิกรทุกหมู่เหล่าจากทั่วสารทิศของประเทศไทย เดินทางมารอต่อแถวเข้าถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้ อย่างไม่ขาดสาย

นางลำยอง ดีประพันธ์ อายุ 59 ปี ซึ่งเดินทางมาพร้อมกับนางวันเพ็ญ เตียระกุล อายุ 65 ชาวดอนเมือง จ. กรุงเทพฯ กล่าวว่า มาสักการะพระบรมศพเป็นครั้งที่ 2 แล้ว และตั้งใจจะมาอีกเรื่อยๆ จนถึงวันถวายพระเพลิงพระบรมศพ ความรู้สึกที่ได้ขึ้นกราบสักการะพระบรมศพนั้น เต็มไปด้วยความภูมิใจ รู้สึกหายเหนื่อยขึ้นมาปลิดทิ้งทุกครั้งที่ได้ขึ้นมาสักการะพระบรมศพ ตนเคยมีโอกาสได้เฝ้าฯ รับเสด็จในหลวง ร.9 ถึง 2 ครั้งด้วยกัน คือเมื่อตอนที่ในหลวง ร.9 เสด็จฯ ไปทรงเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์ในหลวงรัชกาลที่ 5 ซึ่งมีสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในพระบาทสมเด็จพระปรมิทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยเสด็จด้วย ตอนนั้นเห็นทั้ง 2 พระองค์แล้วรู้สึกขนลุกซู่ขึ้นมาทันที ในหลวง ร.9 ทรงมีพระพักตร์อิ่มเอิบเหมือนดังที่เราเห็นในช่วงข่าวในพระราชสำนักเลย ส่วนพระราชินี ก็ทรงโบกพระหัตถ์ แย้มพระโอษฐ์ให้พสกนิกรตลอด รู้สึกประทับใจมากที่สุด และอีกครั้งคือตอนที่ในหลวง ร.9 เสด็จฯ มาทรงเยี่ยมพระอาการประชวรสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากร กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ที่โรงพยาบาลศิริราช ความรู้สึกตอนนั้นก็เหมือนกับครั้งแรกที่ได้ชื่นชมพระบารมีพระองค์ ขนลุกซู่ ปลื้มปีติมาก หลังจากนี้ถึงแม้ไม่มีในหลวง ร.9 แล้ว แต่ตนและครอบครัวก็จะน้อมนำคำสอนในหลวง ร.9 เรื่องความพอเพียงมาเป็นหลักยึดในการดำเนินชีวิตต่อไป จะสอนลูกสอนหลานให้ใช้จ่ายอย่างพอเพียง มีเท่าไรก็ใช้เท่านั้น มีความสุขในสิ่งที่มี

นายประเสริฐ บุญสบ อายุ 44 ปี เลขานุการคณะกรรมการหมู่บ้านคลองบอน ต.เกาะยาวใหญ่ อ.เกาะยาว จ.พังงา ที่พาสมาชิกอาสาสมัครประจำหมู่บ้าน (อสม.) 60 คน มารับรางวัล อสม.ดีเด่นระดับประเทศที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 20 มีนาคม จึงถือโอกาสเดินทางมากราบสักการะพระบรมศพด้วย เล่าว่า ทุกคนอยากมาแสดงความอาลัยในหลวง ร.9 เป็นครั้งสุดท้าย ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระราชทานแนวพระราชดำริเรื่องการพึ่งพาตนเองให้ทุกหมู่บ้าน โดยหมู่บ้านเราก็ได้น้อมนำแนวคิดนี้มาใช้ทำให้ชุมชนเข้มแช็ง อยู่กันด้วยความมีน้ำใจ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่

"จำได้ว่าเมื่อปี 2516 ในหลวง ร.9 เสด็จมาเยี่ยมทุกข์สุขของชาวบ้านในหมู่บ้านเรา และพระราชทานแนวคิดการพึ่งพาตนเอง ซึ่งพวกเรายึดเป็นหลักในการดำเนินชีวิตมาโดยตลอดจนได้รับรางวัลหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงอยู่เย็นเป็นสุข ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพทำสวนยาง ปลูกข้าว ประมง และท่องเที่ยว เน้นใช้ชีวิตแบบพอเพียง มีการออมทรัพย์ เลี้ยงสัตว์ ปลูกพืชผักไว้กินเอง มีวิถีชุมชนเข้มแข็ง ไม่ค่อยมีคดีอาชญากรรม ไม่มีการลักขโมย พวกเราดูแลความปลอดภัยในหมู่บ้านกันเอง นอกจากนี้ ยังรวมกลุ่มทำจิตอาสา อย่างลงแขกเกี่ยวข้าว บ้านไหนมีงานแต่งก็ไปช่วยกัน เรียกว่าแทบไม่ต้องซื้อหาอะไรหรือจ้างแรงงานเลย อยู่แบบนี้ก็มีความสุขดี" นายประเสริฐ กล่าว

นางประดับ สังสุข อายุ 52 ปี นางสุภาพ ศรชู อายุ 55 ปี ชาวนา ต.สวนหลวง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช เดินทางด้วยเครื่องบินมากับญาติพี่น้องรวมทั้งหมด 12 คน กล่าวพร้อมกันว่า ออกจากนครศรีธรรมราชตั้งแต่บ่าย 2 โมงของเมื่อวาน แล้วมาพักที่บ้านของหลานสาว และวันนี้ได้กราบพระบรมศพช่วงสายๆ โดยมาเป็นครั้งที่ 2 ครั้งแรกมาสักการะหลังจากสวรรคตได้เดือนกว่าๆ ครั้งนั้นนั่งรถไฟมาใช้เวลา 17 ชั่วโมง แม้จะใช้เวลาเดินทางนานและลำบาก แต่ตั้งใจอยากมาให้ได้ อยากมาให้เร็วที่สุด รักพระองค์มาก บอกไม่ได้ว่ารักมากแค่ไหน เพราะพระองค์ดีมาก ดีทุกอย่างไม่มีที่ติ นึกถึงก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้น้ำตาไหล ภูมิใจที่ได้เกิดมาในแผ่นดินรัชกาลที่ 9 ภูมิใจที่ได้มีพ่อของแผ่นดินที่ประเสริฐมากขนาดนี้

"ที่นครศรีธรรมราชพระองค์ทรงช่วยแก้ไขปัญหาน้ำผ่านโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ทรงสร้างประตูแยกน้ำไม่ให้น้ำเค็มเข้ามา ทำให้ชาวบ้านมีน้ำจืดใช้ในการเกษตร จากที่ทำนาได้ปีละครั้งเดียวเพราะไม่มีน้ำ ทุกวันนี้ทำได้ปีละ 3-4 ครั้ง นอกจากนี้ ยังได้น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ ปลูกพืชผสมผสาน เลี้ยงไก่ ทำให้มีรายได้มากขึ้น มีเงินหมุนเวียนไว้ใช้สอย มีเงินส่งลูกเรียน จากเมื่อก่อนถ้าครอบครัวไหนมีลูกเยอะ จะไม่มีเงินส่งลูกเรียนได้ทุกคน แต่ทุกวันนี้ มีเงินมีรายได้ส่งลูกเรียนได้ทุกคนแล้ว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อพวกเรามาก ทำให้เรามีความเป็นอยู่ที่ดีและมีความสุข หลังจากนี้ ถ้ามีโอกาสก็จะมากราบสักการะพระบรมศพอีก" นางประดับ และ นางสุภาพ กล่าว

ด้านนางไฉน สะหิรัญ อายุ 75 ปี ชาวบางละมุง จ.ชลบุรี นั่งรถตู้มาพร้อมครอบครัว โดยออกตั้งแต่ตี 4 กล่าวว่า ตั้งใจมาสักการะพระบรมศพเป็นครั้งแรก สมเจตนาที่ได้มาแล้ว ทั้งนี้ ตนเคยรับเสด็จฯ ในหลวง รัชกาลที่ 9 สมัยเมื่ออายุ 20 ปีกว่าๆ พระองค์เสด็จฯ ไปวัดหลวงพ่อโสธร ทรงโบกพระหัตถ์ทักทายประชาชน ครั้งนั้นดีใจมาก ยังจดจำได้ดีจนถึงทุกวันนี้ การได้มากราบสักการะพระบรมศพครั้งนี้เป็นบุญกับชีวิตแล้ว พระองค์ทรงมีพระราชจริยวัตรที่เป็นแบบอย่างมากมาย ตนก็ได้น้อมนำมาสั่งสอนลูกหลานให้ปฏิบัติตามพระองค์ โดยเฉพาะเรื่องความพอเพียงพอประมาณ ถ้าเราพอใจในสิ่งที่เรามีอยู่ เราก็จะมีความสุข
กำลังโหลดความคิดเห็น