นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า ตั้งแต่เข้ามารับหน้าที่ได้ประชุมผู้บริหารของกระทรวงยุติธรรม มาแล้ว 2 ครั้ง ซึ่งครอบคลุมเรื่องภารกิจของกระทรวงและกรม รวมทั้งการสั่งการให้เร่งรัดขับเคลื่อนการทำงานที่เกี่ยวข้องกับการอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชน เช่น กรณีตัดไม้พะยูงที่ จ.มหาสารคาม ซึ่งไม่ได้ช่วยเหลือเฉพาะเรื่องทางกฎหมาย เรื่องการให้ความรู้กับประชาชนด้านกฎหมาย และการเข้าถึงระบบการคุ้มครองช่วยเหลือซึ่งให้กระทำในวงกว้างทุกพื้นที่ โดยต้องทำงานเชิงรุกอย่างรวดเร็วในการช่วยเหลือประชาชน ขณะที่การผลักดันกฎหมายสำคัญที่จะช่วยแก้ไขปัญหาความไม่เป็นธรรมที่ประชาชนได้รับ โดยกำลังจะนำร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการทำให้ สูญหาย เข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติ(สนช.)เร็วๆ นี้ เรื่องนี้จะเป็นหลักประกันสิทธิเสรีภาพของ ประชาชนและทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องระมัดระวังในการทำงาน ที่สำคัญจะทำให้ประเทศไทยมีมาตรฐานการปฏิบัติที่นานาชาติยอมรับ
นายสุวพันธ์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรอบการทำงานของกระทรวงยุติธรรมได้ทำความเข้าใจกับผู้บริหารของกระทรวงว่า ในปี 60 ให้กระทรวงยุติธรรมวางกรอบการทำงานที่มุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์ ทั้งในเรื่องการปฏิรูปประเทศ และภารกิจตามประเด็นยุทธศาสตร์ เพื่อให้สอดคล้องกับที่นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีได้หารือเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. ทุกกรมจะต้องเอาใจใส่ต่องานตามแผนปฏิรูปประเทศ ซึ่งกระทรวงยุติธรรมเกี่ยวข้องโดยตรงกับการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่บัญญัติไว้ ต้องระบุงานตามประเด็นยุทธศาสตร์ที่จะให้เกิดผลสัมฤทธิ์ในปี 60 เพื่อจะได้เร่งรัดขับเคลื่อนอย่างมีเป้าหมายทั้งระดับ กระทรวงและระดับรัฐบาล ซึ่งได้มอบให้กรมต่างๆชี้แจงรายละเอียดของการทำงานตามกรอบที่ว่านี้ให้สังคมได้รับรู้ เข้าใจ สามารถเข้าถึงสิทธิและได้รับประโยชน์จากงานของกระทรวงยุติธรรมอย่างทั่วถึง.
สำหรับงานด้านการต่อต้านการทุจริตได้หารือกับเลขาธิการ ป.ป.ท.มาตลอด ได้มอบนโยบายไปแล้วว่าให้ยึดถือแนวทางเดิมที่อดีตรัฐมนตรีว่าการได้วางไว้ เรื่องที่ค้างอยู่ให้เร่งดำเนินการ เรื่องใหม่ที่เข้ามาให้ยึดหลักความถูกต้อง ตรวจสอบอย่างจริงจัง รวดเร็ว เร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของตน และทำงานอย่างบูรณาการกับหน่วยงานภาคี ได้แก่ ป.ป.ช. สตง. โดยให้ถือว่าเรื่องนี้เป็นนโยบายหลักของรัฐบาล
นายสุวพันธ์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรอบการทำงานของกระทรวงยุติธรรมได้ทำความเข้าใจกับผู้บริหารของกระทรวงว่า ในปี 60 ให้กระทรวงยุติธรรมวางกรอบการทำงานที่มุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์ ทั้งในเรื่องการปฏิรูปประเทศ และภารกิจตามประเด็นยุทธศาสตร์ เพื่อให้สอดคล้องกับที่นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีได้หารือเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. ทุกกรมจะต้องเอาใจใส่ต่องานตามแผนปฏิรูปประเทศ ซึ่งกระทรวงยุติธรรมเกี่ยวข้องโดยตรงกับการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่บัญญัติไว้ ต้องระบุงานตามประเด็นยุทธศาสตร์ที่จะให้เกิดผลสัมฤทธิ์ในปี 60 เพื่อจะได้เร่งรัดขับเคลื่อนอย่างมีเป้าหมายทั้งระดับ กระทรวงและระดับรัฐบาล ซึ่งได้มอบให้กรมต่างๆชี้แจงรายละเอียดของการทำงานตามกรอบที่ว่านี้ให้สังคมได้รับรู้ เข้าใจ สามารถเข้าถึงสิทธิและได้รับประโยชน์จากงานของกระทรวงยุติธรรมอย่างทั่วถึง.
สำหรับงานด้านการต่อต้านการทุจริตได้หารือกับเลขาธิการ ป.ป.ท.มาตลอด ได้มอบนโยบายไปแล้วว่าให้ยึดถือแนวทางเดิมที่อดีตรัฐมนตรีว่าการได้วางไว้ เรื่องที่ค้างอยู่ให้เร่งดำเนินการ เรื่องใหม่ที่เข้ามาให้ยึดหลักความถูกต้อง ตรวจสอบอย่างจริงจัง รวดเร็ว เร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของตน และทำงานอย่างบูรณาการกับหน่วยงานภาคี ได้แก่ ป.ป.ช. สตง. โดยให้ถือว่าเรื่องนี้เป็นนโยบายหลักของรัฐบาล
