กรณีเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง (ปค.) บุกเข้าตรวจสอบสถานบริการ “นาตารีอาบอบนวด”ซึ่งนอกจากจะพบมีการนำชาวต่างด้าวและผู้มีอายุต่ำกว่า 18 ปี มาค้าประเวณีแล้ว ยังตรวจสอบบัญชีรายชื่อของเจ้าหน้าที่ตำรวจและอีกหลายหน่วยงานที่รับส่วยจากสถานบริการแห่งนี้นั้น
เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เปิดเผยว่า ป.ป.ท. จะเข้าไปตรวจสอบการประกอบกิจการว่า มีเปิดบริการได้อย่างไร และมีการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่หรือไม่ รวมทั้งตรวจสอบผู้ที่มีรายชื่อในบัญชีส่วย เพื่อระบุให้ได้ว่าเป็นใคร อยู่หน่วยงานใด และมีการรับส่วยจริงหรือไม่ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
รายงานข่าวระบุว่า บัญชีการจ่ายส่วยลักษณะดังกล่าว สามารถตรวจสอบเพื่อเอาผิดวินัยได้ง่ายกว่าการลงโทษทางอาญา เพราะโทษอาญาต้องพิสูจน์ให้ชัดเจนโดยปราศจากข้อสงสัย แต่อาจมีปัญหาเพราะการจ่ายส่วยระบุเพียงชื่อย่อหรือชื่อต้นสังกัด ถ้าไม่มีพยานบุคคลยืนยันจะเชื่อมโยงเอาผิดอาญาได้ยาก
ทั้งนี้ในส่วนผู้บังคับบัญชาตามหน่วยงานที่มีชื่อปรากฏในบัญชีส่วย ต้องตรวจสอบให้ได้ข้อเท็จจริง เพราะหากไม่ดำเนินการใดๆ หัวหน้าหน่วยงานต้องรับผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะกทม.ซึ่งมีบทบาทเกี่ยวข้องกับการออกใบอนุญาตเรื่องอาคารสถานที่ เพราะอาจมีการต่อเติม และใช้เสียงดังรบกวนพื้นที่ใกล้เคียง หากเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ไม่รู้เห็นเป็นใจ สถานบริการเหล่านี้จะไม่สามารถเปิดบริการได้
ด้าน พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. ระบุว่า พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. ได้รายงานผลการจับกุมมายัง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) แล้ว รวมถึงพฤติการณ์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เบื้องต้นมีการย้าย 4 นายตำรวจ สน.ห้วยขวาง ไปช่วยราชการที่ ศปก.บก.น.1 และตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อหาสาเหตุกรณีที่มีเจ้าหน้าที่จากนอกหน่วยเข้าไปจับกุมผู้กระทำความผิดในสถานบริการ พื้นที่ สน.ห้วยขวาง ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร และใครต้องรับผิดชอบ
ส่วนการพบบัญชีรายชื่อและจำนวนตัวเลขการส่งส่วย ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าบัญชีที่ระบุผู้รับเงินเป็นใครบ้าง โดยจะรายงานให้ผบ.ตร.ทราบเพื่อพิจารณาว่า จำเป็นต้องตั้งชุดคณะกรรมการตรวจสอบระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่ต่อไป จะมีข้อย้ำเตือนถึง พล.ต.ท.ศานิตย์ ว่า หากมีการปล่อยปละละเลย และไม่สอดส่องดูแล ให้สถานอาบอบนวด สถานบริการในลักษณะนี้ ผบ.ตร.จะพิจารณาดำเนินการกับผู้บังคับบัญชาในทุกระดับชั้น
ขณะที่ น.ส.ใสศรี หิรัฐประเสริฐวุฒิ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตดินแดง เปิดเผยว่า ได้สั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงกรณีมีการระบุชื่อเจ้าหน้าที่ กทม. รับส่วยในเรื่องนี้แล้ว อย่างไรก็ตามจากการพิจารณาในเบื้องต้น ยังไม่เห็นเหตุที่จะต้องมีการรับส่วยจากสถานบริการแห่งนี้ เนื่องจากสถานบริการ “นาตารี” มีใบสถานประกอบการถูกต้อง
เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เปิดเผยว่า ป.ป.ท. จะเข้าไปตรวจสอบการประกอบกิจการว่า มีเปิดบริการได้อย่างไร และมีการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่หรือไม่ รวมทั้งตรวจสอบผู้ที่มีรายชื่อในบัญชีส่วย เพื่อระบุให้ได้ว่าเป็นใคร อยู่หน่วยงานใด และมีการรับส่วยจริงหรือไม่ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
รายงานข่าวระบุว่า บัญชีการจ่ายส่วยลักษณะดังกล่าว สามารถตรวจสอบเพื่อเอาผิดวินัยได้ง่ายกว่าการลงโทษทางอาญา เพราะโทษอาญาต้องพิสูจน์ให้ชัดเจนโดยปราศจากข้อสงสัย แต่อาจมีปัญหาเพราะการจ่ายส่วยระบุเพียงชื่อย่อหรือชื่อต้นสังกัด ถ้าไม่มีพยานบุคคลยืนยันจะเชื่อมโยงเอาผิดอาญาได้ยาก
ทั้งนี้ในส่วนผู้บังคับบัญชาตามหน่วยงานที่มีชื่อปรากฏในบัญชีส่วย ต้องตรวจสอบให้ได้ข้อเท็จจริง เพราะหากไม่ดำเนินการใดๆ หัวหน้าหน่วยงานต้องรับผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะกทม.ซึ่งมีบทบาทเกี่ยวข้องกับการออกใบอนุญาตเรื่องอาคารสถานที่ เพราะอาจมีการต่อเติม และใช้เสียงดังรบกวนพื้นที่ใกล้เคียง หากเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ไม่รู้เห็นเป็นใจ สถานบริการเหล่านี้จะไม่สามารถเปิดบริการได้
ด้าน พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. ระบุว่า พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. ได้รายงานผลการจับกุมมายัง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) แล้ว รวมถึงพฤติการณ์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เบื้องต้นมีการย้าย 4 นายตำรวจ สน.ห้วยขวาง ไปช่วยราชการที่ ศปก.บก.น.1 และตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อหาสาเหตุกรณีที่มีเจ้าหน้าที่จากนอกหน่วยเข้าไปจับกุมผู้กระทำความผิดในสถานบริการ พื้นที่ สน.ห้วยขวาง ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร และใครต้องรับผิดชอบ
ส่วนการพบบัญชีรายชื่อและจำนวนตัวเลขการส่งส่วย ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าบัญชีที่ระบุผู้รับเงินเป็นใครบ้าง โดยจะรายงานให้ผบ.ตร.ทราบเพื่อพิจารณาว่า จำเป็นต้องตั้งชุดคณะกรรมการตรวจสอบระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่ต่อไป จะมีข้อย้ำเตือนถึง พล.ต.ท.ศานิตย์ ว่า หากมีการปล่อยปละละเลย และไม่สอดส่องดูแล ให้สถานอาบอบนวด สถานบริการในลักษณะนี้ ผบ.ตร.จะพิจารณาดำเนินการกับผู้บังคับบัญชาในทุกระดับชั้น
ขณะที่ น.ส.ใสศรี หิรัฐประเสริฐวุฒิ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตดินแดง เปิดเผยว่า ได้สั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงกรณีมีการระบุชื่อเจ้าหน้าที่ กทม. รับส่วยในเรื่องนี้แล้ว อย่างไรก็ตามจากการพิจารณาในเบื้องต้น ยังไม่เห็นเหตุที่จะต้องมีการรับส่วยจากสถานบริการแห่งนี้ เนื่องจากสถานบริการ “นาตารี” มีใบสถานประกอบการถูกต้อง