เมื่อวันที่ 3 เม.ย.59 พระเมธีธรรมาจารย์ (ประสาร จนฺทสาโร) เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย (ศพศ) กล่าวถึงความคืบหน้าที่คณะสงฆ์ภาคใต้ ภาคอีสาน หลายจังหวัด ประกาศอุกเขปนียกรรม (ขับออกจากหมู่สงฆ์) พระสุวิทย์ ธีรธมฺโม หรือพระพุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม เนื่องจากเป็นผู้ว่ายากสอนยาก นำความเสื่อมเสียมายังคณะสงฆ์ ว่า ภายใน 2 วันนี้ ภาคีเครือข่ายองค์กรชาวพุทธ จะนัดประชุมเพื่อกำหนดวันและเวลาทำพิธีประกาศอุเขปนียกรรมพระพุทธะอิสระ พร้อมกันทั่วประเทศ
รวมถึงหารือเรื่องการร่างหนังสือและรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีกับพระพุทธะอิสระ ใน 2 ข้อหา คือ ละเมิด พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2535 มาตรา 44 ทวิ ที่บัญญัติว่า ผู้ใดหมิ่นประมาทดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายสมเด็จพระสังฆราช ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 44 ตรี ที่บัญญัติว่า ผู้ใดใส่ความคณะสงฆ์หรือคณะสงฆ์อื่นอันก่อให้เกิดความเสื่อมเสียหรือความแตกแยก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ด้าน พระมหาศิริศักดิ์ สิริวุฑฺฒิปญฺญาเมธี รองประธานสภานิสิต และสมัชชาพระนิสิตพิทักษ์พระกิจการพระศาสนา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) วิทยาเขตขอนแก่น เปิดเผยว่า มจร.วิทยาเขตขอนแก่น ได้ออกประกาศแสดงจุดยืนร่วมกับองค์กรพิทักษ์พระพุทธศาสนาภาคใต้ ขอประกาศลงอุกเขปนียกรรมพระพุทธะอิสระ เนื่องจากเป็นผู้ว่ายากสอนยาก แก้ยาก มีพฤติกรรมยุสงฆ์ให้แตกกัน ประจบสอพลอฆราวาส ยอมให้ฆราวาสบงการชี้นำเพื่อทำลายให้เกิดความเสียหายแก่พระพุทธศาสนา ดังนั้น สภานิสิตและสมัชชาพระนิสิตฯ จึงขอร่วมประกาศลงอุกเขปนียกรรมแด่พระรูปดังกล่าว เพื่อนำความสงบสุขเรียบร้อยดีงามมาสู่พระพุทธศาสนา ซึ่งในส่วนของคณะสงฆ์ จ.ขอนแก่น ได้ประกาศชัดเจนแล้วว่า จะประกาศอุกเขปนียกรรมแก่พระพุทธะอิสระ โดยการประกาศลงอุกเขปนียกรรมนี้ หมายถึงจะไม่ฉันร่วม ไม่ให้อยู่ร่วม และไม่ให้มีสิทธิเช่นเดียวกับภิกษุสงฆ์ทั่วไป
"อยากให้สาธุชนและพุทธบริษัทได้รับรู้ถึงที่มาที่ไป สาเหตุสำคัญที่ทำให้คณะสงฆ์ภาคใต้ ประกาศลงอุกเขปนียกรรมพระพุทธะอิสระ ซึ่งขณะนี้มีคณะสงฆ์จากหลายจังหวัดในภาคอีสาน เตรียมที่จะเข้าร่วมแล้ว โดยในส่วนของวัดใน จ.ขอนแก่น หากร่วมประกาศลงอุกเขปนียกรรมพระพุทธะอิสระแล้ว ขอให้ส่งรายชื่อไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เพื่อรวบรวมรายชื่อเสนอต่อรัฐบาล ให้รับรู้ว่าคณะสงฆ์ไม่ยินดีร่วมวงหัตบาท ไม่ร่วมฉัน ไม่อยู่ร่วม และไม่ให้สิทธิพระพุทธะอิสระ เช่นเดียวกับพระภิกษุสงฆ์" พระมหาศิริศักดิ์ กล่าว
ขณะที่ นายเมธาพันธ์ โพธิธีรโรจน์ เลขาธิการสมาคมนักวิชาการเพื่อพระพุทธศาสนา (สนพ.) กล่าวถึงเรื่องการท้าดีเบตระหว่างตนและพระพุทธะอิสระ ว่า ไม่อยากให้รัฐบาลเป็นเจ้าภาพในการถ่ายทอดสด เพราะตนเชื่อว่ารัฐบาลไม่เอาด้วยอยู่แล้ว ดังนั้น จึงอยากให้สื่อโทรทัศน์รับเป็นเจ้าภาพในเรื่องดังกล่าว ส่วนประเด็นการดีเบต ขอยืนยันจะดีเบตใน 4 ประเด็น ได้แก่ เรื่องการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช เรื่องลิขิตสมเด็จพระสังฆราช เรื่องงบอุดหนุนสมเด็จพระสังฆราช และเรื่องการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนา
รวมถึงหารือเรื่องการร่างหนังสือและรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีกับพระพุทธะอิสระ ใน 2 ข้อหา คือ ละเมิด พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2535 มาตรา 44 ทวิ ที่บัญญัติว่า ผู้ใดหมิ่นประมาทดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายสมเด็จพระสังฆราช ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 44 ตรี ที่บัญญัติว่า ผู้ใดใส่ความคณะสงฆ์หรือคณะสงฆ์อื่นอันก่อให้เกิดความเสื่อมเสียหรือความแตกแยก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ด้าน พระมหาศิริศักดิ์ สิริวุฑฺฒิปญฺญาเมธี รองประธานสภานิสิต และสมัชชาพระนิสิตพิทักษ์พระกิจการพระศาสนา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) วิทยาเขตขอนแก่น เปิดเผยว่า มจร.วิทยาเขตขอนแก่น ได้ออกประกาศแสดงจุดยืนร่วมกับองค์กรพิทักษ์พระพุทธศาสนาภาคใต้ ขอประกาศลงอุกเขปนียกรรมพระพุทธะอิสระ เนื่องจากเป็นผู้ว่ายากสอนยาก แก้ยาก มีพฤติกรรมยุสงฆ์ให้แตกกัน ประจบสอพลอฆราวาส ยอมให้ฆราวาสบงการชี้นำเพื่อทำลายให้เกิดความเสียหายแก่พระพุทธศาสนา ดังนั้น สภานิสิตและสมัชชาพระนิสิตฯ จึงขอร่วมประกาศลงอุกเขปนียกรรมแด่พระรูปดังกล่าว เพื่อนำความสงบสุขเรียบร้อยดีงามมาสู่พระพุทธศาสนา ซึ่งในส่วนของคณะสงฆ์ จ.ขอนแก่น ได้ประกาศชัดเจนแล้วว่า จะประกาศอุกเขปนียกรรมแก่พระพุทธะอิสระ โดยการประกาศลงอุกเขปนียกรรมนี้ หมายถึงจะไม่ฉันร่วม ไม่ให้อยู่ร่วม และไม่ให้มีสิทธิเช่นเดียวกับภิกษุสงฆ์ทั่วไป
"อยากให้สาธุชนและพุทธบริษัทได้รับรู้ถึงที่มาที่ไป สาเหตุสำคัญที่ทำให้คณะสงฆ์ภาคใต้ ประกาศลงอุกเขปนียกรรมพระพุทธะอิสระ ซึ่งขณะนี้มีคณะสงฆ์จากหลายจังหวัดในภาคอีสาน เตรียมที่จะเข้าร่วมแล้ว โดยในส่วนของวัดใน จ.ขอนแก่น หากร่วมประกาศลงอุกเขปนียกรรมพระพุทธะอิสระแล้ว ขอให้ส่งรายชื่อไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เพื่อรวบรวมรายชื่อเสนอต่อรัฐบาล ให้รับรู้ว่าคณะสงฆ์ไม่ยินดีร่วมวงหัตบาท ไม่ร่วมฉัน ไม่อยู่ร่วม และไม่ให้สิทธิพระพุทธะอิสระ เช่นเดียวกับพระภิกษุสงฆ์" พระมหาศิริศักดิ์ กล่าว
ขณะที่ นายเมธาพันธ์ โพธิธีรโรจน์ เลขาธิการสมาคมนักวิชาการเพื่อพระพุทธศาสนา (สนพ.) กล่าวถึงเรื่องการท้าดีเบตระหว่างตนและพระพุทธะอิสระ ว่า ไม่อยากให้รัฐบาลเป็นเจ้าภาพในการถ่ายทอดสด เพราะตนเชื่อว่ารัฐบาลไม่เอาด้วยอยู่แล้ว ดังนั้น จึงอยากให้สื่อโทรทัศน์รับเป็นเจ้าภาพในเรื่องดังกล่าว ส่วนประเด็นการดีเบต ขอยืนยันจะดีเบตใน 4 ประเด็น ได้แก่ เรื่องการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช เรื่องลิขิตสมเด็จพระสังฆราช เรื่องงบอุดหนุนสมเด็จพระสังฆราช และเรื่องการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนา