โยฮัน ครอยฟ์ ตำนานลูกหนังของทีม "อัศวินสีส้ม" ฮอลแลนด์ เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 68 ปี จากโรคมะเร็ง โดยเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของเขาเปิดเผยข่าวนี้ เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา โดยระบุว่า โยฮัน ครอยฟ์ เสียชีวิตที่เมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน หลังล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา
โยฮัน ครอยฟ์ เป็นผู้ให้กำเนิดสไตล์การเล่นแบบ “โททัลฟุตบอล” เคยพาทีมอายแอ็กซ์คว้าแชมป์พรีเมียร์ดัตช์ 8 สมัย, เอฟเอคัพ เนเธอร์แลนด์ 5 สมัย, ยูโรเปี้ยนคัพ 3 สมัย รวมทั้งพาฟายนอร์ดคว้าแชมป์ลีก 1 สมัย กับแชมป์เอฟเอคัพ 1 สมัย
ส่วนผลงานกับบาร์เซโลน่า สมัยที่เขาเป็นนักเตะคว้าแชมป์ลาลีก้าและโกปา เดล เรย์ อย่างละ 1 สมัย เมื่อขยับขึ้นมารับตำแหน่งโค้ช ก็พาบาร์ซ่าคว้าแชมป์ลาลีก้า 4 สมัยติดต่อกัน ระหว่างปี 1990-1994 และแชมป์ยูโรเปี้ยนคัพ ปี 1992 อีก 1 สมัย ซึ่งเป็นแชมป์ยุโรปสมัยแรกในประวัติศาสตร์ของบาร์ซ่าด้วย
สำหรับผลงานระดับทีมชาติ โยฮัน ครอยฟ์ติดธงฮอลแลนด์รับใช้ชาติ 48 นัด ยิงไป 33 ประตู พาทีมชาติเนเธอร์แลนด์เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกปี 1974 ก่อนพ่ายให้เยอรมนีตะวันตก ส่วนผลงานส่วนบุคคล ครองรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมยุโรป “บัลลงดอร์” 3 สมัย และนักเตะยอดเยี่ยมฟุตบอลโลก 1974
โยฮัน ครอยฟ์ เป็นผู้ให้กำเนิดสไตล์การเล่นแบบ “โททัลฟุตบอล” เคยพาทีมอายแอ็กซ์คว้าแชมป์พรีเมียร์ดัตช์ 8 สมัย, เอฟเอคัพ เนเธอร์แลนด์ 5 สมัย, ยูโรเปี้ยนคัพ 3 สมัย รวมทั้งพาฟายนอร์ดคว้าแชมป์ลีก 1 สมัย กับแชมป์เอฟเอคัพ 1 สมัย
ส่วนผลงานกับบาร์เซโลน่า สมัยที่เขาเป็นนักเตะคว้าแชมป์ลาลีก้าและโกปา เดล เรย์ อย่างละ 1 สมัย เมื่อขยับขึ้นมารับตำแหน่งโค้ช ก็พาบาร์ซ่าคว้าแชมป์ลาลีก้า 4 สมัยติดต่อกัน ระหว่างปี 1990-1994 และแชมป์ยูโรเปี้ยนคัพ ปี 1992 อีก 1 สมัย ซึ่งเป็นแชมป์ยุโรปสมัยแรกในประวัติศาสตร์ของบาร์ซ่าด้วย
สำหรับผลงานระดับทีมชาติ โยฮัน ครอยฟ์ติดธงฮอลแลนด์รับใช้ชาติ 48 นัด ยิงไป 33 ประตู พาทีมชาติเนเธอร์แลนด์เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกปี 1974 ก่อนพ่ายให้เยอรมนีตะวันตก ส่วนผลงานส่วนบุคคล ครองรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมยุโรป “บัลลงดอร์” 3 สมัย และนักเตะยอดเยี่ยมฟุตบอลโลก 1974
