พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีรับทราบแผนลดภาระหนี้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาของธนาคารออมสิน หลังจากกระทรวงศึกษาธิการและธนาคารออมสินหารือร่วมกัน จึงเห็นชอบให้ชะลอการฟ้องร้องดำเนินคดีกับข้าราชการครู ธนาคารออมสินได้เปิดลงทะเบียนมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมโครงการ 51,370 ราย มูลหนี้ 72,190 ล้านบาท โดยธนาคารออมสินแก้ปัญหาไปแล้ว 1,076 ราย สินเชื่อวงเงิน 1,290 ล้านบาท เพื่อชะลอการฟ้องร้องและพักหนี้เงินต้น แต่มาตรการดังกล่าวไม่เพียงพอต่อการลดภาระหนี้ครูที่ได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก
ทั้งนี้ จึงเห็นชอบแนวทางให้ธนาคารออมสินปล่อยสินเชื่อใหม่เพิ่มให้ข้าราชการครู โดยใช้เงินทายาทที่จะได้รับในอนาคตเพื่อค้ำประกัน ได้แก่ เงินฌาปนกิจสงเคราะห์ครอบครัว (ช.พ.ค.) หรือเงินบำเหน็จตกทอด เพื่อนำเงินสินเชื่อใหม่มาชำระหนี้เดิมหรือปิดปัญชีเดิม โดยเสียดอกเบี้ยร้อยละ 4 จากปกติต้องจ่ายร้อยละ 5.75-6.70 และกันไว้สำหรับชำระดอกเบี้ยและเงินชำระค่าศพ ช.พ.ค.รายเดือน เพื่อรักษาสถานภาพสมาชิก คาดว่าจะช่วยแก้ปัญหาหนี้ครูได้ประมาณ 283,000 ราย ลดภาระหนี้ครูลงเฉลี่ยรายละ 300,000-600,000 บาท ลดภาระผ่อนรายเดือน 2,000-4,000 บาทต่อเดือน โดยกรมบัญชีกลางจัดทำบันทึกโอนสิทธิ์การรับบำเหน็จตกทอดให้กับธนาคารออมสิน
ทั้งนี้ จึงเห็นชอบแนวทางให้ธนาคารออมสินปล่อยสินเชื่อใหม่เพิ่มให้ข้าราชการครู โดยใช้เงินทายาทที่จะได้รับในอนาคตเพื่อค้ำประกัน ได้แก่ เงินฌาปนกิจสงเคราะห์ครอบครัว (ช.พ.ค.) หรือเงินบำเหน็จตกทอด เพื่อนำเงินสินเชื่อใหม่มาชำระหนี้เดิมหรือปิดปัญชีเดิม โดยเสียดอกเบี้ยร้อยละ 4 จากปกติต้องจ่ายร้อยละ 5.75-6.70 และกันไว้สำหรับชำระดอกเบี้ยและเงินชำระค่าศพ ช.พ.ค.รายเดือน เพื่อรักษาสถานภาพสมาชิก คาดว่าจะช่วยแก้ปัญหาหนี้ครูได้ประมาณ 283,000 ราย ลดภาระหนี้ครูลงเฉลี่ยรายละ 300,000-600,000 บาท ลดภาระผ่อนรายเดือน 2,000-4,000 บาทต่อเดือน โดยกรมบัญชีกลางจัดทำบันทึกโอนสิทธิ์การรับบำเหน็จตกทอดให้กับธนาคารออมสิน
