xs
xsm
sm
md
lg

ก.เกษตรฯ ถกแผนรับมือน้ำเค็ม ห่วงสวนผลไม้ได้รับผลกระทบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายโอฬาร พิทักษ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า การประชุมวันนี้จะเป็นการหารือกับกรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมตัวแทนของแต่ละจังหวัด เพื่อรับทราบปัญหาสถานการณ์น้ำเค็มในพื้นที่ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทั้งในอดีต และปัจจุบัน หลังจากนั้นจะนำข้อมูลทั้งหมดมาประเมิน และหาแนวทางช่วยเหลือ และป้องกันปัญหาในระยะยาวต่อไป

นายโอฬาร ระบุว่า ปัจจุบันสถานการณ์น้ำภาคเหนือดีขึ้น ขณะที่ภาคกลางยังคงทรงตัว หากฝนยังทิ้งช่วงต่อไปมีแนวโน้มว่า ค่าความเค็มอาจสูงขึ้น พร้อมยอมรับว่า ยังห่วงพื้นที่ปลูกทุเรียน จ.นนทบุรี กว่า 4,000 ไร่ ที่ต้องเฝ้าระวังไม่ให้ได้รับผลกระทบจากน้ำเค็ม

สำหรับพื้นที่เสี่ยงน้ำเค็มรุก ทั้ง 10 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ราชบุรี ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา นครปฐม และปทุมธานี ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 3,000 ไร่ 200 ครัวเรือน

ทั้งนี้ จ.สมุทรปราการ มีพื้นที่ทางการเกษตรประมาณ 5,363 ไร่ เป็นนาข้าว สวนมะม่วง สวนไม้ดอกไม้ประดับ ล่าสุด อ.พระประแดง มีค่าความเค็มอยู่ที่ 8 กรัมต่อลิตร ด้านกรุงเทพมหานคร ฝั่งธนบุรี ค่าความเค็มอยู่ที่ 0.99 กรัมต่อลิตร จ.นนทบุรี ที่สถานีท่าน้ำนนท์ ค่าความเค็มอยู่ที่ 2.8 กรัมต่อลิตร จ.สมุทรสาคร ค่าความเค็มอยู่ที่ 0.4 กรัมต่อลิตร ทั้งหมดถือว่าอยู่ในระดับเสี่ยงปานกลาง ไปจนถึงระดับปกติ เนื่องจากปริมาณน้ำฝนที่เพิ่มขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ กรมส่งเสริมการเกษตร ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปแนะนำเกษตรกรเพื่อเตรียมความพร้อม โดยแนะนำให้มีการเตรียมขุดสระเพื่อเก็บกักน้ำฝนใช้ในฤดูแล้งแนะนำให้เกษตรกรเตรียมลอกเลนร่องสวนบ่อ ซ่อมประตูระบายน้ำเข้า-ออกสวนพร้อมจัดหาแหล่งน้ำสำรอง และใช้น้ำอย่างประหยัด
กำลังโหลดความคิดเห็น