“ไทยเบฟ” ชวนสายบุญตามรอยเส้นทางศรัทธาแห่งธรรมะ ใน “โครงการท่องเที่ยวโดยชุมชน ตามรอยองค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต” จ.อุดรธานี ดินแดนอีสาน เลืองชื่อเมือง 3 ธรรม (ธรรมะ ธรรมชาติ วัฒนธรรม)
“โครงการท่องเที่ยวโดยชุมชน ตามรอยองค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต” ริเริ่มขึ้นโดยหัวเรือใหญ่ บริษัท ไทยเบฟ เวอเรจ จำกัด (มหาชน) และ มูลนิธิสิริวัฒนภักดี ร่วมกับ กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เพื่อถวายเป็น อาจาริยบูชา แด่องค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ในโอกาสที่ได้รับการยกย่องจากองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก (UNESCO) ให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก สาขาสันติภาพ ในวาระปี พ.ศ. 2563 - 2564 และยังเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 150 ปี ชาตกาล องค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต รวมทั้งเชิญชวนให้พุทธศาสนิกชนได้เดินทางเข้าไปเรียนรู้ประวัติ วัตรปฏิบัติอันงดงาม รวมทั้งปฏิปทา คำสอนขององค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ใน 12 จังหวัด 36 หมุดหมายแห่งทั่วประเทศ และยังเป็นการส่งเสริม สร้างรายได้ และสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจในด้านการท่องเที่ยวให้กับชุมชนได้อย่างยั่งยืน
นายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ ประธานคณะทำงานโครงการท่องเที่ยวโดยชุมชน ตามรอยองค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ให้ข้อมูลว่า “จากดำริของนายฐาปน สิริวัฒนภักดี ที่ได้จัดทำโครงการท่องเที่ยวโดยชุมชนตามรอยองค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต โดยริเริ่มขึ้นเมื่อปี 2562 และยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปีดังกล่าวนับเป็นปีที่สำคัญของวงการพระสงฆ์ไทยที่ UNESCO ได้ประกาศยกย่องเชิดชู องค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก โดยท่านถือเป็นพระอริยสงฆ์รูปที่ 3 ของประเทศไทยที่ได้รับการยกย่องนี้
ไทยเบฟ จึงได้จัดโครงการนี้ขึ้นเพื่อให้ประชาชนและพุทธศาสนิกชนได้เข้าไปศึกษาคำสอนอันดีงาม ซึ่งท่านถือเป็นต้นแบบให้กับพระภิกษุสงฆ์และฆราวาสได้อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานและการภาวนาเจริญสมาธิ ที่ท่านได้จาริกไปเผยแพร่พระพุทธศาสนาในสถานที่ต่างๆ ทั้งภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย และประเทศใกล้เคียง ซึ่งสถานที่เหล่านี้ล้วนเป็นหลักฐานสำคัญ ที่บอกเล่าเรื่องราว และญาณหยั่งรู้อันน่าอัศจรรย์ต่าง ๆ เกี่ยวกับการปฏิบัติธรรมขององค์หลวงปู่มั่น ที่มีคุณค่ายิ่งแก่ผู้ที่เลื่อมใสศรัทธา อีกทั้งยังเป็นการช่วยส่งเสริม และสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจในด้านการท่องเที่ยวโดยชุมชนที่เป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชน
โดยโครงการได้จัดทำใน 12 จังหวัด ที่มีความสำคัญและความเชื่อมโยงกับองค์หลวงปู่มั่น ได้แก่ กรุงเทพมหานครลพบุรี นครนายก เชียงใหม่ อุบลราชธานี นครพนม สกลนคร อุดรธานี หนองคาย เลย หนองบัวลำภู และอำนาจเจริญ ซึ่งยึดหลักในการทำงานร่วมกันระหว่าง บ้าน วัด โรงเรียน ภายใต้หลัก “บวร” และพัฒนาเป็น บริษัท วิสาหกิจชุมชน ราชการ “บวร2” เข้าบูรณาการ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างรายได้ของชุมชนจากโครงการท่องเที่ยวโดยชุมชนที่เป็นการกระจายรายได้เข้าสู่ผู้ประกอบการร้านค้าชุมชน ร้านอาหาร โฮมสเตย์ ผู้ผลิตสินค้าชุมชน ของที่ระลึก และพัฒนาต่อยอดให้มีวิสาหกิจเพื่อสังคมในอนาคต”
สำหรับการตามรอยเส้นทางธรรม ใน จ.อุดรธานี นับเป็นพื้นที่มีความสำคัญที่ท่านได้จาริกมาปฏิบัติธรรมและท่านได้ฝากมรดกธรรมและคำสอนไว้กับชาวบ้านและชุมชนในพื้นที่อย่างมากมาย อาทิ
วัดป่าโนนนิเวศน์ ต.บ้านเลื่อม อ.เมือง หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้มาพำนักและเทศนาสอนธรรมเมื่อปี พ.ศ.2482 – 2483 เป็นเวลา 2 พรรษา ภายในวัดมีอาคารวิหารหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต หลวงปู่ภูมี ฐิตธัมโม ได้จัดสร้างขึ้นในยุคหลังเมื่อ ปี ๒๕๔๓ เพื่อเป็นพิพิธภัณฑ์เก็บรักษาอัฐิธาตุ รวมทั้งเก็บรวบรวมเครื่องอัฐบริขารของหลวงปู่มั่นฯ บางส่วนครั้งที่ท่านได้มาพำนักที่แห่งนี้ และเก็บรักษาอัฐิธาตุของหลวงปู่ภูมี ฐิตธัมโม หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน เพื่อให้ลูกศิษย์และพุทธศาสนิกชนเข้ามากราบไหว้บูชา
สำหรับ วัดป่าสาระวารี (วัดป่าดงมะไฟ) ต.บ้านค้อ อ.บ้านผือ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้มาตั้งวัดป่าสาระวารี (เดิมวัดป่าดงมะไฟ) และท่านได้แกะสลักพระพุทธรูปหิน 1 องค์ ด้วยตัวท่านเอง เพื่อเป็นอนุสรณ์ถึงการถอนความปรารถนาเดิมที่จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า มาเป็นพระสาวกภูมิ ซึ่งท่านอยู่จำพรรษาที่วัดแห่งนี้ 2 พรรษา ในปี พ.ศ.2462 และ พ.ศ.2467 ชาวบ้านค้อได้บำรุงรักษากุฏิของท่านไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่สาธุชนสืบมาจนถึงทุกวันนี้
ส่วน ผาแดง-น้ำตกยูงทอง ต.นายูง อ.นายูง หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้จาริกแสวงหาสถานที่วิเวกในพื้นที่ อ.นายูง-น้ำโสม และได้พบที่สงัดซึ่งมีลักษณะเป็นภูเขาสูง มีหน้าผาหินทรายที่สูงชันเป็นเงื้อมผาและชะโงกหิน บริเวณผาแดงมีหลืบถ้ำเล็ก ๆ ซึ่งท่านเลือกเป็นสถานที่วิปัสสนากัมมัฏฐาน
นอกจากนี้ ในเส้นทางการตามรอยศรัทธาหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ยังมีจุดที่อยากแนะนำให้ประชาชนได้แวะเวียนเข้าไปเยี่ยมชมคือ ชุมชนบ้านนายูง ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ได้มีการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติผสมผสานกับนวัตกรรม กลายเป็นกิจกรรมแอดเวนเจอร์โหนสลิงข้ามอ่างเก็บน้ำ โดยระหว่างที่นักท่องเที่ยวสนุกสนานกับการโหนสลิง ก็จะได้ชื่นชมบัวหลวงที่สวยงาม และเมื่อข้ามไปถึงอีกฟากฝั่งจะได้พบกับฟาร์มเลี้ยงแพะ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถให้อาหารแพะได้ นอกจากกิจกรรมท่องเที่ยวแอดเวนเจอร์และท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมแล้ว บ้านนายูง ม.1 และ ม.9 ยังมีกิจกรรมท่องเที่ยวสวนผลไม้หลากชนิด เช่น เงาะ มังคุด ลองกอง ส้มโอ กลุ่มแปรรูปกล้วย เครื่องจักสาน รวมไปถึงการทอผ้ามัดหมี่ลายนกยูง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของอำเภอนายูง สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจจะเดินทางมาสัมผัสวิถีชีวิตของชาวบ้านนายูง
สำหรับพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั้น มีความโดดเด่นในเรื่อง 3 ธรรม อันได้แก่ 1.ธรรมะ ที่มีความโดดเด่น เรื่องวัด สถานที่ปฏิบัติธรรม ซึ่งถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ประชาชนในเขตภาคอีสานและหลายพื้นที่เคารพนับถือ 2.ธรรมชาติ ที่เป็นอันดับ 1 ของโลกในหลายพื้นที่ เช่น ซากุระเมืองเลย ทะเลบัวแดง จ.อุดรธานี และธรรมที่ 3 คือ วัฒนธรรม เมืองอุดรเป็นเมืองใหญ่ที่เก่าแก่และสำคัญแห่งหนึ่งของภาคอีสาน เมื่อในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางการปกครองของภาคอีสานเหนือ รวมถึงการท่องเที่ยวด้วย เพราะมีสิ่งสำคัญที่น่าสนใจหลากหลาย และยังเป็นดินแดนที่มีอารยธรรมเก่าแก่แห่งหนึ่งของโลก จึงเหมาะแก่การเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง
ร่วมกันน้อมระลึกถึงพระคุณขององค์หลวงปู่มั่น ที่ได้บำเพ็ญคุณประโยชน์อย่างมากมายไว้แก่พระศาสนา และสังคมไทย พร้อมน้อมนำหลักคำสอนมาปฏิบัติสืบต่อไป และยังเป็นการส่งเสริม และสร้างรายได้ และสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจในด้านการท่องเที่ยว โดยชุมชนได้เป็นอย่างดีอีกด้วย นอกจากนี้โครงการจะให้ข้อมูลสำคัญ 36 แห่ง ทั่วประเทศที่หลวงปู่มั่นได้จาริกไปในพื้นที่ต่างๆ ผ่านการประชาสัมพันธ์ทาง www.luangpumun-cbt.org เพื่อให้ประชาชนและผู้ที่ศรัทธาได้ศึกษา พร้อมทั้งข้อมูลสถานที่และแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชนโดยรอบสถานที่เหล่านี้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากอีกด้วย
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline