ตะลุยป่าดึกดำบรรพ์ เติมสีสันให้ชีวิต

ในยุคกระแสโลกาภิวัฒน์ “ผู้จัดการท่องเที่ยว” มองไปทางไหน สายตาก็มักจะเจอแต่ความเป็นของใหม่ อินเทรน ความล้ำหน้าทันสมัย จนบางครั้งเจอมากๆก็พาลให้เราพลอยเอียนขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุเหมือนกัน

ครั้นเมื่อได้เจออะไรเก่า ประมาณอารมณ์โบราณๆบ้าง มันก็ช่วยสร้างสีสันให้กับชีวิตไม่น้อยเหมือนกัน สำหรับอารมณ์เก่าๆนี้ก็ไม่เว้นแม้แต่การเจอแฟนเก่า แต่ก็มีเหตุผลว่าเธอต้องมาเจอกับเราคนเดียวนะ ไม่ใช่ว่าเธอพาเขา(หรือมัน)มาเจอเราด้วย หรือไม่ก็เธอพาเจ้าตัวน้อยมาด้วยมันก็จะยิ่งช้ำหนักเข้าไปใหญ่

และเมื่อพูดถึงอารมณ์โบราณๆนี่ ประมาณเดือนที่แล้ว “ผู้จัดการท่องเที่ยว” ไปเดินแถวๆประตูน้ำ เห็นรถขายไอศกรีมเจ้าหนึ่ง ติดป้ายบอกไว้ว่าขาย “ไอติมโบราณ” ด้วยความสงสัยปนอยากลองของเรา จึงเดินเข้าไปสั่งไอติมโบราณมา 1 แท่ง เพื่อพิสูจน์ในหน้าตาและรสชาติ

พอคนขายส่งไอติมโบราณมาให้เท่านั้นแหละ ถึงบางอ้อเลย เพราะไอติมโบราณ ปัดโธ่!!! จริงๆแล้วมันก็คือไอศกรีมตัดแท่งสี่เหลี่ยมเสียบไม้เล็กที่เราชอบกินกันสมัยเด็ก อืม...แต่รสชาติก็หวานมันดี กัดไปดูดไป ภาพในสมัยเด็กๆมันก็ผุดขึ้นมาในหัวสมองเองโดยอัตโนมัติ

ยัง...อารมณ์โบราณๆยังมีต่อ เพราะอีกครั้งหนึ่งไปแถวไหนจำไม่ได้แล้ว บังเอิญไปเจอรถเข็นขายกาแฟโบราณ ก็ด้วยความสงสัยปนอยากลองอีกนั่นแหละ เราก็เข้าไปสั่งกาแฟโบราณ 1 ที่ สักพักคนขายที่หน้าตาดูไม่ค่อยโบราณ ก็นำกาแฟมาให้ “ผู้จัดการท่องเที่ยว” ถามว่ามันโบราณตรงไหน พี่แกคนขายตอบมาว่า ก็มันเป็นกาแฟที่ใส่ถุงชง หรือที่บางคนเรียกว่ากาแฟถุงเท้าที่สมัยก่อนตอนที่กาแฟสำเร็จรูปยังไม่แพร่หลายในเมืองไทย กาแฟถุง ปาท่องโก๋ รถเข็น อาแปะขายกาแฟ นับเป็นความคลาสสิคอย่างหนึ่งของวิถีชีวิตยามเช้าทีเดียว

เฮ้อ...เจออารมณ์โบราณเข้าสองอย่าง “ผู้จัดการท่องเที่ยว” ชักรู้สึกว่า หรือนี่เราจะโบราณไปจริงๆแล้ว เอาเถอะไหนๆก็อารมณ์โบราณกันแล้วนี่ ก็ไปเที่ยวอะไรๆที่มันโบราณๆกันดีกว่า

ไอ้ครั้นจะไปเมืองโบราณก็เคยไปมาแล้ว ดูโบราณสถาน โบราณวัตถุก็ไปมาเยอะอีกเช่นกัน คิดไปคิดมา เราไปเที่ยวป่าโบราณ หรือป่าดึกดำบรรพ์ ที่“หุบป่าตาด” อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี กันดีกว่า

สำหรับหุบป่าตาด นี่ถ้าใครไม่รู้หรือไม่มีข้อมูลมาก่อนก็จะไม่รู้เลยว่า เบื้องหลังของเขาห้วยโศก ขุนเขาหินปูนที่ดูสูงใหญ่แข็งกระด้าง ซึ่งเป็นหนึ่งในขุนเขาที่อยู่ในการดูแลของเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาปลาร้า ที่ภายในจะมีป่าตาดที่มีรูปลักษณ์ดูคล้ายป่าดึกดำบรรพ์ซ่อนตัวอยู่

โดยหุบป่าตาดนั้นอยู่ก่อนทางขึ้นเขาปลาร้าประมาณ 1 กิโลเมตร เมื่อใกล้จะถึงหุบป่าตาดก็จะพบกับสวนของชาวบ้าน ไร่ข้าวโพด แล้วก็ถึงป่าสะเดาอันร่มรื่นที่อยู่ด้านหน้าของทางเข้าป่าตาด ซึ่งมองภายนอกก็จะเห็นเป็นเพียงขุนเขาหินปูนสูงชันธรรมดา แต่หากพอเดินขึ้นบันไดปูนจากพื้นที่ให้บริการนักท่องเที่ยว สักหน่อยก็จะเห็น ปากถ้ำเป็นโพรงมืดมีแสงสว่างรำไรอยู่ปลายโพรง

นั่นแหละใช่เลยถ้ำนี้ คือเส้นทางฝ่าความมืดสู่หุบป่าตาด ในระยะทางประมาณ 100 เมตร เราสามารถเดนฝ่าเข้าไปได้สบายๆ โดยไม่ต้องมีไฟฉายก็เดินได้ แต่ต้องคลำๆทางไปนิด เพราะฉะนั้นทางที่ดีควรพกไฟฉาย เทียน หรือไฟแช็ค ไปด้วยก็จะดี สำหรับคนที่มีไฟฉายส่งได้ไกลๆเมื่อเข้าในถ้ำ ก็น่าลองส่องดูตามเพดานด้วย เพราะจะเห็นว่ามีค้างคาวเกาะอยู่เต็มไปหมด ซึ่งค้างคาวนี่แหละทำให้ถ้ำเข้าสู่หุบป่าตาดเหม็นระยับ เพราะว่าเจ้าค้างคาวทั้งหลายนี่มันขี้กันเกลื่อนเต็มไปหมด ใครที่ไม่ชอบกลิ่นขี้ค้างคาวก็ควรจะรีบเดินให้มันเร็วที่สุด

แต่ว่าพอออกจากปากถ้ำไปแล้ว “ผู้จัดการท่องเที่ยว” ก็ไม่รู้สึกผิดหวังแต่อย่างใด เพราะเมื่อผ่านถ้ำ พ้นความมืดก็จะเจอบันไดปูนทอดยาวลงสู่หุบเขา ที่แทบไม่น่าเชื่อเลยว่า เบื้องหลังของขุนเขาหินปูนจะมีห้องโถงของป่าใหญ่ซ่อนกายอยู่

สำหรับห้องโถงของหุบเขาที่มองเห็นกันแบบโดดเด่นก็จะมีอยู่ 2 ห้อง และต้นไม้ที่เป็นพระเอกในนี้ก็จะเป็นใครไปเสียไม่ได้นอกจาก “ต้นตาด” หรือ “ต๋าว” (Areaga penata) ซึ่งขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก จนเป็นที่มาของชื่อ หุบป่าตาด

ซึ่งต้นตาดนี้เป็นพันธุ์ไม้ที่มีลักษณะคล้ายต้นปาล์ม ใบเป็นแฉกแผ่กว้าง มีลูก ออกมาเป็นทะลาย กลมๆเล็กๆ ซึ่งชาวบ้านแถวนั้นบอกว่า ลูกอ่อนๆสามารถนำไปต้มกินได้ เรื่องนี้จริงเท็จอย่างไร “ผู้จัดการท่องเที่ยว” ยังไม่เคยลองพิสูจน์

แต่ที่ลองพิสูจน์มาแล้ว ก็คือการเดินชมบรรยากาศหุบป่าตาด ซึ่งก็นับว่าให้อารมณ์คล้ายๆกับป่าในหนังเรื่องจูราสสิคปาร์คบางมุมเหมือนกัน แต่ว่าที่นี่ไม่มีไดโนเสาร์มาเดินกวนใจแน่นอน

นอกจากนี้ในหุบป่าตาดก็ยังมี ต้นไม้ที่น่าสนใจอีก อย่างเช่น ต้นกระพง ยมหิน และต้นไทรดูประหลาดๆอีก ซึ่งใครอยากรู้ว่าต้นไหนเป็นอย่างไรก็ต้องไปยืนอ่านป้ายสื่อความหมายในหุบป่าตาดเอาเอง โดยมีทางเดินตัวหนอนที่ดูหลุดอารมณ์ป่าดึกดำบรรพ์นิดหน่อย ปูให้เดินชมป่าตาดในโถงแรก

เมื่อเดินตามทางตัวหนอนไปเรื่อยๆ ทางก็จะไปสิ้นสุดที่โพรงถ้ำ ที่มีลักษณะเป็นช่องประตูขนาดใหญ่เดินทะลุถีงกันได้ แถมบางช่วงมีลมอ่อนๆ พัดผ่านคลายร้อน เป็นระยะๆ ซึ่งในโพรงถ้ำนี้นอกจากมีหินรูปร่างแปลกๆ ให้ชมแล้ว มุมมองที่มองออกจากถ้ำมาเจอกับหุบป่าตาด ก็ถือเป็นมุมมองหนึ่งที่สวยงาม ใครพกกล้องถ่ายรูปไป ไม่น่าพลาดการหามุมถ่ายรูปจากบริเวณนี้

สำหรับองค์ประกอบอื่นๆที่ช่วยเติมเต็มให้หุบป่าตาด น่าเดิน น่าเที่ยวก็คือ พวกเสียงเจื้อยแจ้วของสกุณา และสภาพอากาศที่ร่มรื่น ชุ่มชื้นเดินสบายๆ ไม่มีร้อนกาย

และด้วยความที่หุบป่าตาด มีความน่าสนใจ ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจึงบรรจุให้เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยว Unseen 2 ที่รอให้ผู้ที่รักการท่องเที่ยวเดินทางไปเยือนหุบป่าตาด ป่าดึกดำบรรพ์ หรือป่าโบราณ ซึ่งเมื่อ ที่หากใครไปเยือนก็จะรู้ว่า หุบป่าตาด นับเป็นอีกหนึ่งในของที่ดูโบราณที่มากมายไปด้วยเรื่องราว สีสัน และบรรยากาศที่น่าสนใจไม่น้อย
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

หุบป่าตาด อยู่ภายใต้การดูแลของเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาปลาร้า อยู่ก่อนถึงเขาปลาร้าประมาณ 1 กม. ถูกค้นพบในปี พ.ศ. 2522 สามารถไปตามทางสายหนองฉาง-ลานสักประมาณ 21 กม. ก็จะถึงปากทาเข้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาปลาร้า จากนั้นแยกไปตามถนนคอนกรีตอีกประมาณ 6 กม.

นอกจากหุบป่าตาดแล้ว ที่ อ.ลานสัก ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกอย่างเช่น เขาปลาร้า ซึ่งที่นี่มีภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์ ที่มีอายุกว่า 3,000 ปี ถ้ำเขาฆ้องชัย เป็นถ้ำเขาหินปูนที่มีความงดงามถ้ำหนึ่ง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง มรดกโลกทางธรรมชาติหนึ่งเดียวของเมืองไทย ส่วนใครที่สนใจสถานที่ท่องเที่ยวใน อ.ลานสัก หรือ ใน จ.อุทัยธานี สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ททท.ภาคกลาง เขต 7 โทร. 0-3642-2768