พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น เผยผลประกอบการไตรมาส 1/67 กวาดรายได้กว่า 416 ล้าน เติบโต 5% พร้อมกำไรสุทธิ 80 ล้าน หลังสร้างรากฐานธุรกิจบริการอสังหาฯ ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำแกร่ง เดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจ 4 ด้าน ขยายบริการใหม่ พัฒนาคน พัฒนาเทคโนโลยี ดูแลสังคมและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย สู่เส้นทางการเติบโตอย่างยั่งยืน
นายสุรินทร์ สหชาติโภคานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PRI กล่าวว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/67 (ม.ค.-มี.ค.) ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 416 ล้านบาท เติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 5% และมีกำไรสุทธิรวมอยู่ที่ 80 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทได้วางรากฐานการสร้างรายได้ต่อเนื่องทุกกลุ่มบริการอสังหาริมทรัพย์ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ และมีการขยายกลุ่มธุรกิจใหม่ๆ จนครบวงจรมากยิ่งขึ้นในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้สามารถดูแลและนำเสนอแพกงานลูกค้าแต่ละครั้งได้อย่างครบวงจร และรับรู้รายได้จากโครงการและประเภทธุรกิจต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่อง
“หลายปีที่ผ่านมาเราเติบโตค่อนข้างก้าวกระโดด เนื่องจากฐานรายได้เดิมของเรายังไม่สูงมาก แต่วันนี้ฐานของเรากว้างขึ้น ใหญ่ขึ้น มาจากหลากหลายธุรกิจมากยิ่งขึ้น การเติบโตของ PRI จากนี้จึงจะเป็นการเติบโตแบบมั่นคงและยั่งยืน อาจจะไม่เติบโตเป็นเท่าตัว ใส่ใจทุกปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับงานบริการอย่างเต็มกำลัง เช่น ในไตรมาส 1/2567 ที่ให้ความสำคัญกับการเพิ่มจำนวนพนักงานเพื่อรับรองงานบริการที่มีจำนวนโครงการในมือเพิ่มขึ้น” นายสุรินทร์ กล่าว
นายสุรินทร์ กล่าวอีกว่า ในช่วงไตรมาส 2/67 บริษัทจะยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าตามแผน Elevate Your Living Experience เร่งขับเคลื่อน 4 ด้าน เพื่อให้ธุรกิจเติบโตไปได้ในทุกมิติ ได้แก่ 1.ขยายบริการใหม่ไร้รอยต่อ (Expanding Our Business Horizon) เพิ่มบริการและธุรกิจใหม่ทั้งกลุ่มบริการต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ตอบโจทย์ความต้องการของระบบนิเวศอสังหาริมทรัพย์และระบบนิเวศบริการในที่อยู่อาศัย และเริ่มเจาะลูกค้ากลุ่ม B2C มากขึ้น ทั้งกลุ่มธุรกิจตกแต่งภายใน ธุรกิจปรับปรุงภูมิทัศน์ 2.ติดปีกทักษะบุคลากร (People Development) จับมือสถาบันการศึกษาที่มีหลักสูตรด้านอสังหาริมทรัพย์ อัปสกิลและรีสกิล (Upskill & Reskil) ให้แก่ทั้งพนักงานปัจจุบัน และพนักงานใหม่ที่จะเข้าทำงาน พร้อมทั้งดำเนินโครงการ Management Trainee อย่างต่อเนื่อง
3.ต่อยอดนวัตกรรมใหม่ (Enhance Innovation + Technology) ให้บริษัท ลิฟเทค แล็บ จำกัด บริษัทร่วมทุนในเครือยกระดับการให้บริการผ่านการพัฒนานวัตกรรมและและการเข้าถึงของข้อมูลผ่านแอปพลิเคชัน Primo Plus โฉมใหม่ พร้อมทั้งพัฒนาแพลตฟอร์มใหม่ๆ อำนวยความสะดวกงานบริการ เช่น แพลตฟอร์มจองแม่บ้านทำความสะอาด แพลตฟอร์มติดตามงานซ่อมบำรุงอัตโนมัติ ตลอดจนแพลตฟอร์มการจัดการผู้มาติดต่อภายในโครงการ (Visitor Management) และ 4.ใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อม (ESG & Sustainability for Future Living) ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้เกิดการจัดการของเสีย (Waste Management) การประหยัดพลังงาน (Energy Saving) ความใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อม ในโครงการที่อยู่อาศัยที่ PRI เข้าไปบริหารจัดการอาคาร
“สินทรัพย์ที่สำคัญที่สุดสำหรับงานบริการ คือ คน ขณะที่สินทรัพย์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ และจะช่วยให้ธุรกิจเติบโตไปได้ คือเทคโนโลยีและนวัตกรรม ภาพรวม 9 เดือนที่เหลือจากนี้ เราจึงจะยังคงเดินหน้าพัฒนาทั้งคนและเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทั้ง B2G, B2B, B2C มากขึ้น มีอัตราการต่อสัญญากับลูกค้าเดิมสูงมากขึ้น และขยายฐานไปสู่ลูกค้าใหม่ๆ ได้ง่ายยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน ก็เดินหน้ามองหาโอกาสการขยายธุรกิจทั้งแบบ Organic Growth และ Inorganic Growth เช่น การร่วมทุน การเข้าซื้อกิจการในกลุ่มธุรกิจที่ส่งเสริมกับธุรกิจเดิมในเครือ ควบคู่ไปกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม” นายสุรินทร์ กล่าว
"บริษัทยังคงเดินหน้าประมูลงานใหม่ๆ ทั้งกลุ่มงานบริการที่ปรึกษา ควบคุมงานก่อสร้าง กลุ่มงานบริหารจัดการอาคารเข้าสู่พอร์ตเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างรายได้ 2,250 ล้านบาทในปีนี้"