หุ้นไทยปิดตลาด +15.31 จุด โบรก ฯ ชี้ Sentiment ตลาดหุ้นต่างประเทศหนุน และปัจจัยบวกจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน และมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว ประเมินกรอบการลงทุนพรุ่งนี้แนวต้านที่ 1,580-1,590 จุด และ แนวรับ 1,549-1,500 จุด
หุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 21 มิ.ย. 2565 ปรับตัวเพิ่มขึ้น +15.31 จุด หรือ +0.98% โดยปิดตลาดที่ 1,574.52 จุด มูลค่าการซื้อขาย 54,668.08 ล้านบาท โดยภาพรวมการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนี ฯ ปรับตัวตามต่างประเทศ โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,576.05 จุด ขณะเดียวกันก็ปรับตัวลดลงต่ำสุด 1,563.14 จุด
ขณะที่หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 1,005 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลงจำนวน 505 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลงจำนวน 650 หลักทรัพย์
ด้านปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า +1,954.49 ล้านบาท และ นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิกว่า +3.54 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิกว่า -1,545.85 ล้านบาท และ บัญชี บล. ขายสุทธิกว่า -412.19 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
1.PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,247.42 ล้านบาท ปิดที่ 33.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
2.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,941.86 ล้านบาท ปิดที่ 163.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท
3.AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,796.89 ล้านบาท ปิดที่ 69.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
4.BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,785.20 ล้านบาท ปิดที่ 12.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท
5.BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,727.13 ล้านบาท ปิดที่ 24.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.PTTEPปิดที่ 163.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท หรือ 2.84%
2.JMTปิดที่ 74.75 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ4.18%
3.SCCปิดที่ 363.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ0.83%
4.JMARTปิดที่ 55.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ4.76%
5.SCBปิดที่ 105.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ1.94%
ส่วนดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.ADVANCปิดที่ 201.00 บาท ลดลง 2.00 บาทหรือ 0.99%
2.MTCปิดที่ 43.00 บาท ลดลง 0.50 บาทหรือ 1.15%
3.GPSCปิดที่65.50 บาท ลดลง 0.50 บาทหรือ 0.76%
4.KEXปิดที่24.10 บาท ลดลง 0.40 บาทหรือ 1.63%
5.PLANBปิดที่ 6.90 บาท ลดลง 0.25 บาทหรือ 3.50%
ด้านดัชนี SET100 ปิดที่ 2,171.79 จุด เพิ่มขึ้น 20.01 จุด หรือ 0.93% ส่วนดัชนี SET50 ปิดที่ 954.71 จุด เพิ่มขึ้น 8.37 จุด หรือ 0.88% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 606.10 จุด เพิ่มขึ้น 6.91 จุด หรือ 1.15%
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้รีบาวด์ตาม Sentiment ตลาดหุ้นในต่างประเทศ นอกจากนั้น ยังได้รับจิตวิทยาเชิงบวกจากแนวโน้มกำลังซื้อในประเทศที่จะดีขึ้น หลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างเร่งด่วน เช่น ตรึงราคาขายปลีกก๊าซ NGV,การคงราคาขายปลีกก๊าซ NGV ให้กับผู้ขับขี่รถแท็กซี่อีก 3 เดือน, การกำหนดราคาขายปลีกก๊าซ LPG 408 บาทต่อถัง 15 กก.3 เดือน และขยายเวลาช่วยเหลือส่วนลดราคาก๊าซ LPG แก่ร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหารที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไม่เกิน 100 บาท/ราย/เดือน ออกไปอีก 3 เดือน อีกทั้งยังเห็นชอบมาตรการหนุนการท่องเที่ยวเมืองหลัก เมืองรอง และขยายเวลาเราเที่ยวด้วยกันเฟส 4 ปัจจัยดังกล่าวส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มค้าปลีก และกลุ่มท่องเที่ยว อย่าง CENTEL, ERW
ขณะที่ ครม.ยังได้ขอความร่วมมือจากผู้ค้าน้ำมันคงค่าการตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่มดีเซลหมุนเร็วไม่เกิน 1.40 บาท/ลิตร ส่วนมาตรการขอความร่วมมือกลุ่มโรงกลั่นน้ำมันและโรงแยกก๊าซนำส่งกำไรส่วนหนึ่งเข้ากองทุนน้ำมันและลดราคาขายปลีกน้ำมันในช่วงวิกฤติน้ำมันแพง คาดว่าจะมีการหารือกันในช่วงปลายสัปดาห์นี้ ซึ่งน่าจะกระทบกับหุ้นกลุ่มโรงกลั่นในระยะถัดไป ส่วนแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ นายกรภัทร คาดว่า ตลาดฯ น่าจะแกว่งตัวในกรอบ ให้แนวรับไว้ที่ 1,549-1,500 จุด และแนวต้าน 1,580-1,590 จุด
