xs
xsm
sm
md
lg

CKP งวดนี้ฟื้นกำไร 115 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์




"ซีเค พาวเวอร์" งวดนี้ฟื้นกำไร 114.6 ล้านบาท เติบโตขึ้น 454.1 ล้านบาท หรือ 133.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนขาดทุน 339.5 ล้านบาท และมีรายได้รวม 2,101.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 339.0 ล้านบาท หรือ 19.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,762.0 ล้านบาท เพราะโรงไฟฟ้ามีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น ขณะ TRIS คงอันดับเครดิตองค์กร “A คงที่” จากความแข็งแกร่งและความมั่นคงรายได้


นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP เปิดเผยว่า กลุ่ม CKPower ยังคงทำกำไรต่อเนื่องในไตรมาส 1/2564 โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้น 114.6 ล้านบาท เติบโตขึ้น 454.1 ล้านบาท หรือ 133.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 339.5 ล้านบาท และมีรายได้รวม 2,101.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 339.0 ล้านบาท หรือ 19.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,762.0 ล้านบาท

ทั้งนี้ เพราะผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของโรงไฟฟ้าพลังน้ำน้ำงึม 2 และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี โดยรายได้จากการขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังน้ำน้ำงึม 2 เพิ่มขึ้น 383.0 ล้านบาท หรือร้อยละ 101.9 จากมีปริมาณน้ำสะสม ณ ต้นปี 2564 ที่อยู่ในระดับสูงรวมถึงปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำในช่วงไตรมาส 1/2564 ที่มากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี มีผลประกอบการในไตรมาสแรกปีนี้ ดีขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็นอย่างมากจากสถานการณ์ปริมาณน้ำในแม่น้ำโขงที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ส่วนแบ่งกำไรขาดทุนจากเงินลงทุนในกิจการที่ควบคุมร่วมกันและบริษัทร่วมในไตรมาส 1/2564 ซึ่งส่วนใหญ่มาจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี ปรับตัวดีขึ้น 297.3 ล้านบาท หรือ 90.2%

นอกจากนี้ โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมและโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ของบริษัทฯ ก็มีผลประกอบการที่ดีขึ้นในไตรมาส 1/2564 โดยโรงไฟฟ้าบางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น มีผลประกอบการที่ดีขึ้นจากค่าใช้จ่ายทางการเงินที่ลดลง ในขณะที่โรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ภายใต้บริษัท บางเขนชัย จำกัด ของบริษัทฯ ก็มีผลประกอบการดีขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการเปลี่ยนแผงโซลาร์เซลล์ใหม่ ของโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ บางเขนชัย ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3/2563 ทำให้ประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าโดยรวมดีขึ้น ประกอบกับโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินอีกแห่งที่มีกำลังการผลิต 2.67 เมกะวัตต์ เริ่มผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่ผู้ประกอบการภาคเอกชนเมื่อเดือนกันยายน 2563 ส่งผลให้ปริมาณการขายไฟฟ้าในไตรมาส 1/2564 เพิ่มขึ้น

นายธนวัฒน์ กล่าวว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปีนี้เป็นที่น่าพอใจและเป็นไปตามแผนที่ฝ่ายบริหารตั้งเป้าไว้ แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความมั่นคงทางรายได้ของกลุ่ม CKPower สอดคล้องกับผลการจัดอันดับของบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งระบุว่า บริษัทฯ ได้รับการยอมรับในความสามารถในการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาดใหญ่ 2 แห่งใน สปป.ลาว คือ โรงไฟฟ้าพลังน้ำน้ำงึม 2 และโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี ซึ่งสามารถผลิตไฟฟ้าได้ตามแผน โดยทริสเรทติ้ง ได้คงอันดับเครดิตองค์กรที่ระดับ “A คงที่” และคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกันของบริษัทที่ระดับ “A- คงที่” ทั้งนี้ ในไตรมาสที่ 2 บริษัทฯ คาดว่าผลการดำเนินงานจะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากปริมาณน้ำที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นตามฤดูกาล ซึ่งโดยปกติจะเริ่มเข้าสู่หน้าฝนในช่วงปลายไตรมาสที่ 2 โดยคาดว่าจะส่งผลดีกับการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังน้ำทั้ง 2 แห่งของบริษัทฯ

ทั้งนี้ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในปัจจุบัน CKPower และบริษัทในเครือไม่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ โดยบริษัทฯ ยังคงให้การสนับสนุนและช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงชุมชนรอบโรงไฟฟ้าของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศไทย และใน สปป.ลาว ด้วยการสนับสนุนสร้างห้องความดันลบให้แก่โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช และมอบเงินสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุข สปป.ลาว ผ่านสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ นครหลวงเวียงจันทน์ รวมถึงสาธารณสุขแขวงไซยะบุรี สปป.ลาว ในเดือนเมษายน 2564 ที่ผ่านมาเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยบรรเทาวิกฤตในครั้งนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น