xs
xsm
sm
md
lg

หุ้น XO คึกรับผลิตซอสกัญชง เผยดีมานด์พุ่งดันรายได้โตต่อเนื่อง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายจิตติพร จันทรัช กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ XO
ผู้จัดการรายวัน 360 - หุ้น "เอ็กโซติค ฟู้ด" คึก หลังผู้บริหารออกมาบอกชัดดีมานด์ไตรมาสแรกพุ่ง เดินหน้าเพิ่มยอดขายซอสส่งออกปี 64 แถมแนวโน้มตลาดจีนและยุโรปเติบโตสูง ส่วนการผลิตซอสกัญชงหากได้รับอนุญาตเดินหน้าเต็มสูบ เล็งส่งออกตลาดโลก มั่นใจรายได้กำไรปีนี้โตทำนิวไฮต่อเนื่อง โบรกฯ แนะซื้อให้ราคาเป้าหมายหนือ 15 บาท

ราคาหุ้น บริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ XO คึกมาตั้งแต่ต้นปี 64 ราคาเคยพุ่งแตะ14.90 บาท เมื่อ 8 ก.พ.64 หลังผู้บริหารออกมาเผยว่า มีความสนใจจะเข้าไปผลิตซอสกัญชง และราคาหุ้นเทรดในราคานี้มาตลอด จากก่อนหน้าที่ซอสต่างๆ ของ XO ยอดขายเติบโตต่อเนื่อง เพราะการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ผู้คนไม่ออกนอกบ้าน หันมาปรุงอาหารทานเอง ดังนั้น ผลประกอบการปี 2563 XO มีรายได้จากการขาย 1,267.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 276.94 ล้านบาท คิดเป็น 27.95% ขณะผลิตซอสกัญชงนั้นต้องใช้เวลาก่อนจะเดินเครื่องผลิต

นายจิตติพร จันทรัช กรรมการผู้จัดการ XO เผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาแนวทางผลิตสินค้าซอสกัญชง พร้อมมองธุรกิจทำสินค้าเกี่ยวกับกัญชงในกลุ่มอาหารที่อยู่ระหว่างคิดสูตรผสมซอสกัญชง และศึกษาตลาดเพื่อรองรับผลิตภัณฑ์ใหม่ รอเพียงกฎหมายไทยอนุมัติก็ปรับสูตรตามที่กฎหมายกำหนด คาดใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือน สามารถผลิตและส่งให้ลูกค้าพิจารณาและ หลังจากลูกค้ายืนยันสูตรต่างๆ แล้วเสร็จจะใช้เวลา 6-8 อาทิตย์ เพื่อผลิตและส่งออกทุกตลาดทั่วโลก

ส่วนออเดอร์ไตรมาสแรกปี 64 ทำนิวไฮรับกระแส WFH จากโควิด-19 เพราะมียอดคำสั่งซื้อเข้ามาจำนวนมาก ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอส่งออก แม้จะล่าช้ากว่าคาดเล็กน้อยจากปัญหาขาดแคลนเรือส่งออก ทำให้มีบางออเดอร์เลื่อนส่งมอบในไตรมาส 2 ซึ่งภาพรวมของปี 2564 มั่นใจเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้คือรายได้เติบโต 10-15% และกำไรเติบโต 20-25% ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ผลจากกลยุทธ์การขยายตลาดสามารถเดินหน้าตามแผน โดยเริ่มจากตลาดยุโรป ซึ่งเป็นตลาดหลักมีสัดส่วนยอดขาย 80% เพื่อให้สินค้ามีการกระจายได้ครอบคลุมยิ่งขึ้น และอยู่ระหว่างดำเนินการทยอยเพิ่ม Outlet และเริ่มนำสินค้าเข้าไปขายในจีนเพิ่ม คาดจะได้เห็นการเติบโตในสินค้ากลุ่มซอส เพราะเป็นสินค้ากลุ่มหลักของบริษัทฯ มีสัดส่วน 80% ของยอดขายทั้งหมด

บล.โกลเบล็ก แนะนำ "ซื้อ" หุ้น XO ให้ราคาเป้าหมาย 15 บาท/หุ้น คาดผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 63 อ่อนตัวลงจากไตรมาสก่อน แต่เติบโตขึ้นเทียบปีก่อน เนื่องจากอุปทานเรือขนส่งขาดแคลน (กระทบรายได้บริษัทราว 3% จากปกติที่ระดับ 1%) ขณะที่คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะอ่อนตัวเล็กน้อยสู่ 41-42% จากระดับ 42.14% ในไตรมาสก่อน ส่งผลให้เราคาดกำไรสุทธิราว 80-85 ล้านบาท หดตัว 12-16% จากไตรมาสก่อน แต่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญจากปีก่อน พร้อมปรับเพิ่มกำไรปี 63 และ 64 สู่ 317 และ 361 ล้านบาท

พร้อมปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรปี 63 และ 64 จาก 242 ล้านบาท และ 253 ล้านบาท สู่ 317 ล้านบาท และ 336 ล้านบาท เติบโต 130% และ 6% ตามลำดับ โดยได้แรงหนุนจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในยุโรปที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้หลายประเทศประกาศล็อกดาวน์รอบ 2 นอกจากนี้บริษัทมีการจ่ายค่า Listing fee ในประเทศแถบยุโรปเพื่อให้สินค้าของบริษัทมีการกระจายได้ครอบคลุมเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินค้าได้ง่ายยิ่งขึ้น

บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน ประเมินหุ้น XO คาดในไตรมาสแรกปีนี้ทำกําไรสูงสุดนับแต่ก่อตั้งบริษัท ยังคงมุมมองบวก แนะนํา “ซื้อ” จาก TP21F 15.3 บาท เพราะยังเป็นอุตสาหกรรมที่ดี และสอดรับกับกระแสการประกอบอาหารเองในยุโรป และเป็นหุ้น Export ที่ผลกระทบน้อยจากเงินบาทแข็ง (เทียบสหรัฐฯ) จากสัดส่วน 75% ขายเป็นเงินบาทเทียบเงินยูโร ซึ่งได้ประโยชน์เชิงเปรียบเทียบจากบาทอ่อนค่าด้วย อีกทั้งโอกาสจ่ายปันผลที่มากกว่าคาด จากปัจจุบันคาด 0.36 บาท/หุ้น (Yield 3%, Payout 50%) จากฐานะการเงิน Net cash และไม่มีแผนลงทุนใหญ่ คาดกําไรจะกลับมาสู่จุดที่ดีมากและลุ้นทํา All time high ในไตรมาสแรกจากฤดูหนาว โควิด-19 ในรอบที่ 2 หรือรอบที่ 3 ในยุโรป หนุนคําสั่งซื้อกลับมาสูง ขณะที่ราคาหุ้นปรับขึ้นมาแม้มีความคืบหน้าวัคซีนโควิด-19 สะท้อนถึงมุมมองตลาดที่ดีขึ้นจากโอกาสผลประกอบการยังเติบโต แม้ผ่านโควิด-19 และยังซื้อขาย PER21F 15.6 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ 21 เท่า

ฝ่ายวิจัย บล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์แนะ "ซื้อ" หุ้น XO พร้อมให้ราคาเป้าหมาย 16 บาท อิง 2564 PER ที่ 18x (เทียบเท่า -0.5SD below 5-year average PER) และประเมินกำไรสุทธิปี 2564 ที่ 373 ล้านบาท (+19% YoY) ปัจจุบัน XO เทรดอยู่ที่ 2564 PER ที่ 13X (-1SD below 5-yr average) ขณะที่กำไรปี 2564 คาดสถิติสูงสุดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท ทั้งนี้ มองประเด็นดังกล่าวเป็นปัจจัยบวก คาดบริษัทมีศักยภาพในการทำสินค้ากัญชงได้ และหากสำเร็จจะช่วยเพิ่มรายได้และกำไรให้บริษัท เนื่องจากยุโรปเป็นตลาดที่ใหญ่ของสินค้ากัญชง ซึ่งเป็นสินค้าที่ถูกกฎหมาย หากบริษัทผลิตในรูปแบบซอสปรุงรสซึ่งเป็นจุดแข็งของบริษัท และมีสัดส่วนรายได้กลุ่มซอสคิดเป็น 80% ของรายได้รวม และส่งออกไปยุโรปถึง 80% โดยคาดว่าซอสกัญชงจะช่วยเพิ่ม margin ของบริษัท เนื่องจากปัจจุบันยุโรปขายซอสกัญชงสูงกว่าซอสทั่วไปถึง 4-5 เท่า และยุโรปมี Market share ของผลิตภัณฑ์กัญชงสูงถึง 30% ของทั่วโลก คาด gross profit margin ปี 2564 ที่ 41% อีกทั้งการเพิ่มกำลังผลิตซอส รวมถึงการขยายตลาดทั้งผลิตภัณฑ์กัญชงและบุกเข้าไปตลาดจีนและยุโรป คาดจะได้เห็นความชัดเจนครึ่งหลังปี 64


กำลังโหลดความคิดเห็น