แม้จะเป็นหุ้นที่ร้อนแรงที่สุดในรอบนี้ เพราะในช่วง 8 วันทำการ ราคาพุ่งขึ้นมา 272.34% แต่หุ้นบริษัท เอ็นเอฟซี จำกัด (มหาชน) หรือ NFC กลับไม่ถูกพูดถึงมากนัก และ ไม่มีมาตรการเตือนใดๆ จากตลาดหลักทรัพย์ ทั้งที่ถูกลากขึ้นชนเพดานสูงสุด 30% เป็นว่าเล่น
เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา หุ้น NFC ยังคลานต้วมเตี้ยมอยู่แถว 1.41 บาท และก่อนหน้าซื้อขายวันละไม่กี่พันบาท
แต่หลังจากนั้น เริ่มมีการลากหุ้นตัวนี้ขึ้นมา แต่มูลค่าการซื้อขายยังอยู่ระดับหมื่นบาท หรือบางวันซื้อขายระดับแสนบาท
จน วันที่ 26 พฤศจิกายน มีแรงซื้อเข้ามาไล่ราคาหุ้นชนเพดานสูงสุด 30% โดยปิดที่ 2.88 บาท มูลค่าการซื้อขายขยับขึ้นระดับ 6 แสนบาท
และลากซิลลิ่งต่ออีก 2 วัน คือ วันที่ 27 พฤศจิกายน วันที่ 30 พฤศจิกายน ส่วนวันที่ 1 ธันวาคม ระหว่างชั่วโมงซื้อขาย ราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 6.15 บาท เกือบชนเพดานสูงสุดเป็นวันที่ 4 ก่อนจะอ่อนตัวลงมาปิดที่ 5.25 บาท เพิ่มขึ้น 39 สตางค์ หรือเพิ่มขึ้น 8.02% มูลค่าซื้อขาย 4.29 ล้านบาท
ใน 8 วันทำการ ราคาหุ้น NFC ปรับตัวขึ้นจากระดับ 1.41 บาท ขึ้นมาปิดที่ 5.25 บาท โดยปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.84 บาท หรือเพิ่มขึ้น 172.34% และเป็นหุ้นที่ราคาปรับตัวขึ้นร้อนแรงที่สุดในช่วงนี้
เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน NFC เพิ่งรายงานความคืบหน้าการแก้ปัญหาการกระจายการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อยให้ตลาดหลักทรัพย์ เพราะสัดส่วนผู้ถือหุ้นรายย่อยของบริษัทมีเพียง 11.92% เท่านั้น ซึ่งต้องกระจายไม่น้อยกว่า 15% ของทุนจดทะเบียน ซึ่ง NFC ดำเนินการมากว่า 2 ปีแล้ว แต่ยังกระจายได้ไม่ตามข้อกำหนด
นอกเหนือจากการรายงานการ แก้ปัญหาการกระจายการถือหุ้นของรายย่อยแล้ว NFC ข่าวการดำเนินงานใดที่มีผลต่อราคาหุ้น แต่หุ้นกลับวิ่งระเบิดเถิดเทิง เพียง 8 วันทำการพุ่งเกือบ 300% และมูลค่าการซื้อขายเริ่มหนาตาขึ้น
เพราะอาจมีแมลงเม่าตามแห่เข้ามาเก็งกำไร ซึ่งเป็นเรื่องอันตราย เนื่องจากไม่รู้ว่า NFC ขึ้นมาด้วยเหตุผลใด มีใครอยู่เบื้องหลังการลากหุ้นหรือไม่ และผลดำเนินงานบริษัทก็ไม่สดใสนัก โดยปี 2562 ขาดทุน 36.90 ล้านบาท และงวด 9 เดือนแรกปีนี้ ขาดทุนสุทธิ 16.85 ล้านบาท
NFC ต้องใช้เวลาฟื้นฟูกิจการยาวนานถึง 15 ปี โดยหุ้นถูกพักการซื้อขายตั้งแต่วันที่ 3 กันยายน 2546 โดยราคาปิดครั้งสุดท้าย 1.36 สตางค์
ตลาดหลักทรัพย์อนุมัติรับหุ้น NFC กลับเข้ามาซื้อขายวันที่ 15 มิถุนายน 2561 โดยการกลับมาซื้อขายวันแรกราคาถูกลากขึ้นอย่างหวือหวา โดยขึ้นไปสูงสุดที่ 17.80 บาท และร่วงลงมาปิดที่ 10.30 บาท
นักเก็งกำไรที่แห่เข้าไปลุย NFC บาดเจ็บหนักกันออกมา ซึ่งหลังจากนั้น ราคาทรุดตัวลงต่อเนื่อง จนต่ำสุดระดับ 1 บาท
หุ้น NFC ตกอยู่ในสภาพตายซากมานานนับปี แต่รอบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีความพยายามปลุกผีหุ้นตัวนี้ขึ้นมา โดยมีการจุดพลุลากราคาอย่างร้อนแรง จนเห็น ความไม่ปกติอย่างชัดเจน
เพราะไม่มีปัจจัยกระตุ้นหุ้นอย่างเป็นรูปธรรม แต่ราคากลับวิ่งฉิว กลายเป็นหุ้นแรงที่สุดในตลาดหุ้นรอบนี้
คงต้อง จับตากันต่อไปว่า NFC จะถูกลากไปถึงไหน จะหมดแรงวิ่งเมื่อไหร่ จะมีแมลงเม่าตามแห่เข้าไปเก็งกำไรกันหรือไม่
และตลาดหลักทรัพย์ฯ จะทนดูการลากหุ้น NFC อีกนานเท่าใด
