หุ้นปิดเช้าร่วง 11.68 จุด เช่นเดียวกับภูมิภาคหลังไร้ปัจจัยบวกใหม่ กลุ่มพลังงานยังกดดันจากราคาน้ำมันต่ำ แนวโน้มภาคบ่ายคาดตลาดคงจะยังพักตัว โดยช่วงสั้นมองดัชนีฯ แถว 1,245-1,270 จุด ค่อนข้างจะเต็มมูลค่า ซึ่งตลาดได้รับแรงพยุงจากสภาพคล่องและมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐฯ
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่ที่ติดลบ หลังจากไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน ขณะที่หุ้นในกลุ่มพลังงานยังกดดันตลาดฯ จากราคาน้ำมันคงยังทรงตัวในระดับต่ำไปอีกพักใหญ่ตามความต้องการใช้น้อยลง ขณะที่อุปทาน (Supply) สูงจนถังสำรองเก็บน้ำมันเริ่มเต็มแล้ว แต่ก็มีบางธุรกิจที่ได้รับผลบวกจากต้นทุนน้ำมันต่ำลง ทั้งธุรกิจถุงมือยางและยางมะตอย อย่าง TASCO เป็นต้น
อย่างไรก็ดี ต้องติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ต่อไป อาจออกมาไม่เป็นไปตามคาด หรืออาจแย่กว่าคาด แนะลงทุนหุ้นปลอดภัย อย่าง กลุ่มโรงไฟฟ้า, กลุ่มสื่อสาร โดยเฉพาะ โรงไฟฟ้าขนาดใหญ่, ADVANC, INTUCH, IVL, SCC, STA, TASCO, EPG เป็นต้น และให้ระวังหุ้นที่มีรายได้จากค่าเช่าเพราะอาจต้องลดลงระยะหนึ่ง นอกจากนี้ ยังต้องติดตามทิศทางตลาดตราสารหนี้ด้วย เพราะยังมีความเสี่ยงจากความผันผวนในประเด็นผิดนัดชำระหนี้หากสถานการณ์แย่ลง แม้ภาครัฐฯ จะเข้ามาช่วยเหลือบ้างแล้วก็ตาม
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดการซื้อขายครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,241.24 จุด ลดลง 11.68 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.93% มูลค่าซื้อขายราว 34,341.80 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายกิจพณกล่าวว่า ตลาดคงจะยังพักตัว โดยช่วงสั้นมองดัชนีฯ แถว 1,245-1,270 จุด ค่อนข้างจะเต็มมูลค่า ซึ่งตลาดฯ ได้รับแรงพยุงจากสภาพคล่องและมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐฯ แต่หากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 มีความยืดเยื้อก็อาจทำให้ตลาดฯ แกว่งไซด์เวย์ได้ พร้อมให้แนวรับ 1,239 จุด ส่วนแนวต้าน 1,250 จุด
