xs
xsm
sm
md
lg

แสนสิริทุ่ม 60 ล้านยกระดับความปลอดภัยลูกบ้าน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ทวิชา ตระกูลยิ่งยง
แสนสิริ” ทุ่ม 60 ล้าน ยกระดับรักษาความปลอดภัยภายในโครงการด้วยระบบดิจิทัล พร้อมเพิ่มหน่วยธุรกิจ LIV-24 ดูแล ความปลอดภัยจากศูนย์ควบคุมตลอด 24 ชั่วโมง เผยเปิดให้บริการแล้ว 27 โครงการ ปี 63 ตั้งเป้าให้บริการเพิ่มอีก 47 โครงการในปี 63

นายทวิชา ตระกูลยิ่งยง ประธานผู้บริหารสายงานเทคโนโลยี บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แสนสิริเล็งเห็นความสำคัญของนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขับเคลื่อนธุรกิจอย่างครอบคลุม ตั้งแต่ การพัฒนาโครงการ (Product) การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน (Process) การสร้างสรรค์บริการ (Service) พร้อมเตรียมนำเทคโนโลยีแห่งอนาคต เช่น Facial Recognition ระบบการจัดเก็บและจดจำใบหน้าของบุคคลที่เข้ามาในโครงการ, Sansiri’s First Smart Home Model ที่รวบรวมเทคโนโลยีเพื่อสร้างความสะดวกสบายให้แก่ลูกบ้าน

รวมถึงความปลอดภัยและช่วยประหยัดพลังงาน พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของลูกบ้าน และ Digital Security Service การบริหารความปลอดภัยด้วยการเอาระบบดิจิทัลมาแทนที่การทำงานแบบเดิมในโครงการแนวราบและแนวสูงของแสนสิริภายในไตรมาส 4 นี้ ตามแนวคิด ‘บ้านที่ได้มากกว่าบ้าน’ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้าน ‘ความปลอดภัย’ ซึ่งนับเป็น 1 ใน 5 ปัจจัยที่ลูกค้าให้ความสำคัญสูงสุดในการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยของแสนสิริ

โดยช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาแสนสิริได้เปิดหน่วยธุรกิจ Smart Command Centre ในการบริหารโครงการแบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ (Preventive Maintenance) โดยสามารถตรวจจับเหตุการณ์ที่ไม่ปกติภายในโครงการ ด้วย CCTV และเข้าแก้ไขได้ทันท่วงที จำนวน 21 ครั้ง และแจ้งเตือนการบำรุงรักษาเชิงป้องกันของระบบต่าง ๆ ภายในอาคาร ด้วยเทคโนโลยี IoT ก่อนที่ระบบจะชำรุด จำนวน 13 ครั้ง พร้อมช่วยประหยัดเงินค่าซ่อมแซมได้กว่า 1 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นจุดขายที่สร้างความแตกต่างให้กับแสนสิริกับคู่แข่ง

ล่าสุดยังได้ใช้งบลงทุนกว่า 60 ล้านบาท รีแบรนด์จาก Smart Command Centre สู่ ‘LIV-24’ (LIV ย่อมาจาก Living)ซึ่งเป็นหน่วยธุรกิจใหม่ของ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ในการให้บริการมาตรฐานที่อยู่อาศัย ด้านเทคโนโลยีความปลอดภัย พร้อมยกระดับความปลอดภัยตลอด24 ชั่วโมงให้กับลูกบ้านในโครงการ โดยตั้งเป้าให้ครอบคลุม 47 โครงการทั้งแนวสูงและแนวรายของบริษัทภายในปี 2563 จากปีนี้ที่ดำเนินการแล้ว 27 โครงการ โดยในช่วง 2 ปีแรกแสนสิริจะเป็นผู้ออำค่าใช่จ่ายทั้งหมด ส่วนในปีที่ 3 เป็นต้นไปลูกบ้านจะเสียค่าบริการเพิ่ม 2-3 บาทต่อตร.ม (แนวสูง) /ตร.ว.(แนวราบ)ในค่าส่วนกลางของโครงการ

นอกจากนี้ ในอนาคต ยังมีแผนการต่อยอดขอบข่ายการทำงานทั้งในด้านของการบริหารความปลอดภัย ที่จะเพิ่มการเชื่อมต่อข้อมูลจากระบบ Visitor Management System ที่ใช้ในการจัดเก็บข้อมูลของผู้มาติดต่อทั้งหมด และระบบ Face Recognition ที่สามารถจัดเก็บภาพใบหน้า ลายนิ้วมือ และข้อมูลของผู้รับเหมา และในส่วนของ IoT Facility Management จะนำมาใช้ในการบริหารจัดการซื้อขายพลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ (Smart Grid) และการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance) เพิ่มเติม


กำลังโหลดความคิดเห็น