xs
xsm
sm
md
lg

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองนักท่องเที่ยวจีนไตรมาส 4/62 ฟื้นกลับมาบวก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินสถานการณ์นักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยส่งสัญญาณกลับมาฟื้นตัวดีขึ้น โดยนักท่องเที่ยวจีนเริ่มกลับมาเติบโตเป็นบวกอีกครั้งในเดือน ก.ค. และต่อเนื่องมายังเดือน ส.ค.2562 ซึ่งมีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยกลับมาแตะที่ 1 ล้านคนอีกครั้ง ทำให้ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2562 จำนวนนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยหดตัว 0.8% (YoY) ซึ่งเป็นอัตราการหดตัวที่ชะลอลงจากในช่วงก่อนหน้า

ขณะที่ในช่วงที่เหลือของปี 2562 ตลาดนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยน่าจะยังรักษาระดับการฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง เนื่องจากตลาดมีปัจจัยหนุนชั่วคราวอย่างมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวที่รัฐบาลได้มีการต่ออายุมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียม VOA จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2563 ช่วงวันหยุดยาววันชาติจีน (ระหว่างวันที่ 1-7 ตุลาคม 2562) และการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยวยังได้รับอานิสงส์จากเหตุการณ์การชุมนุมประท้วงในฮ่องกงที่ยังมีต่อเนื่อง จากปัจจัยต่างๆ ข้างต้นประกอบกับภายใต้สถานการณ์ในประเทศที่เอื้อต่อการเดินทางท่องเที่ยว ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า จากที่ตลาดนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยในช่วง 8 เดือนที่หดตัว น่าจะทำให้ทั้งปี 2562 จำนวนนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยเติบโตได้ตามที่คาดการณ์ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยทั้งปี 2562 อยู่ที่ประมาณ 10.80-10.99 ล้านคน เติบโตประมาณ 2.6%-4.4% จากปี 2561

สถานการณ์นักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยส่งสัญญาณกลับมาฟื้นตัวดีขึ้น ทั้งนี้ การขยายตัวที่เป็นบวกของนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยเริ่มเห็นในช่วงเดือน ก.ค.และเดือน ส.ค.2562 ซึ่งเป็นช่วงของการปิดภาคการศึกษาและนักท่องเที่ยวจีนนิยมเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ โดยข้อมูลของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่า ในเดือน ส.ค.2562 ที่ผ่านมา จำนวน ประเด็นสำคัญ โดยนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยกลับมาแตะที่ 1.0 ล้านคน ซึ่งการฟื้นตัวของตลาดนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยมาจากหลายปัจจัย ทั้งจากการที่ภาครัฐได้ต่ออายุมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียม Visa on Arrival การกระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวในจีนจากหน่วยงานภาครัฐ นอกจากนี้ การท่องเที่ยวไทยยังได้รับอานิสงส์จากเหตุการณ์ชุมนุมประท้วงในฮ่องกง ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวจีนมีการปรับเปลี่ยนจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวไปยังประเทศอื่นๆ รวมถึงประเทศไทย ทำให้ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2562 นักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยมีจำนวน 7.7 ล้านคน หดตัวที่ 0.8% (YoY) ซึ่งเป็นอัตราการหดตัวที่ชะลอลงจากในช่วงก่อนหน้า

โดยการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยในช่วงที่เหลือของปี 2562 ได้ปัจจัยหนุนจากเรื่องมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียม VOA เหตุการณ์ประท้วงในฮ่องกง และช่วงวันหยุดยาววันชาติจีน

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ในช่วงที่เหลือของปี 2562 ตลาดนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยน่าจะยังรักษาระดับการฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง เนื่องจากตลาดมีปัจจัยหนุนชั่วคราวอย่างมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวที่รัฐบาลได้มีการต่ออายุมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียม VOA จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2563 และในช่วงวันหยุดยาววันชาติจีน (ระหว่างวันที่ 1-7 ตุลาคม 2562) ซึ่งบรรยากาศของตลาดนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยน่าจะกลับมาดีอีกครั้ง โดยคาดว่าในช่วงเทศกาลวันหยุดยาววันชาติจีน นักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยน่าจะมีจำนวนประมาณ 2.4 แสนคน เติบโตประมาณ 18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ตลาดนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยหดตัวแรง นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยวยังได้รับอานิสงส์จากเหตุการณ์การชุมนุมประท้วงในฮ่องกงที่ยังมีต่อเนื่อง

จากปัจจัยต่างๆ ข้างต้น ประกอบกับภายใต้สถานการณ์ในประเทศที่เอื้อต่อการเดินทางท่องเที่ยว ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า จากที่ตลาดนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยในช่วง 8 เดือนที่หดตัว น่าจะทำให้ทั้งปี 2562 จำนวนนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยเติบโตได้ตามที่คาดการณ์ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยทั้งปี 2562 อยู่ที่ประมาณ 10.80-10.99 ล้านคน เติบโตประมาณ 2.6%-4.4% จากปี 2561 ซึ่งกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมากับบริษัทนำเที่ยวน่าจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น สำหรับการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวจีน คาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 5.34-5.44 แสนล้านบาท ขยายตัวประมาณ 2.8%-4.6% จากปี 2561 (ตัวเลขคาดการณ์รายได้นักท่องเที่ยวมีการทบทวนใหม่ตามรายได้ในปี 2561 ของทางการที่ปรับลดลงจากเดิม)

ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจจีนและค่าเงินหยวนที่ยังไม่เอื้อ บวกกับการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวและพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวจีนที่เปลี่ยนไป ทำให้การรักษาการเติบโตต่อเนื่องของตลาดนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยในระยะข้างหน้า โดยเฉพาะในปี 2563 มีความท้าทายมากขึ้น

ด้านทิศทางการเติบโตของตลาดนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยยังขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายด้าน โดยเฉพาะปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้อย่างทิศทางของเศรษฐกิจจีนในระยะข้างหน้ายังมีความอ่อนไหว และยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เมื่อเศรษฐกิจจีนในไตรมาส 2 ของปี 2562 เติบโต 6.2% ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่ต่ำสุดในรอบ 27 ปี ขณะที่คาดว่าแนวโน้มเศรษฐกิจจีนในช่วงที่เหลือของปีนี้จะชะลอลง และประเด็นเรื่องค่าเงินหยวน จะมีผลต่อการเลือกจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวและการใช้จ่ายระหว่างเดินทางท่องเที่ยวในไทยของนักท่องเที่ยวบางกลุ่ม

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยที่ท้าทายและเริ่มเห็นเทรนด์การเปลี่ยนแปลงมากขึ้น คือ การแข่งขันด้านการท่องเที่ยวระหว่างประเทศที่หน่วยงานภาครัฐและธุรกิจท่องเที่ยวในหลายประเทศยังคงให้ความสำคัญในการเจาะตลาดนักท่องเที่ยวจีน ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจีนมีแหล่งท่องเที่ยวทางเลือกที่หลากหลายขึ้น จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า ในระยะหลังการทำตลาดจึงมีความท้าทายและแตกต่างไปจากเดิม แม้ว่าในภาพรวมประเทศไทยยังเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาเที่ยวสูง (ไม่รวมฮ่องกงและมาเก๊า)

เห็นได้ว่า ภายหลังจากเหตุการณ์ที่ จ. ภูเก็ต ตลาดนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยชะลอตัว แม้ภาครัฐได้ออกมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียม Visa on Arrival (เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.2561-วันที่ 30 เม.ย.2563) เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวและเอื้อต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีน แต่การฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยในครั้งนี้เป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่ในบางประเทศจำนวนนักท่องเที่ยวจีนยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เช่น ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ที่มีอัตราการเติบโตด้วยตัวเลข 2 หลัก โดยเฉพาะในระยะหลังจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวญี่ปุ่นสูงกว่าไทยในบางเดือน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวที่เข้มข้น

ทั้งนี้ เพื่อให้ประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของนักท่องเที่ยวจีน และรักษาฐานตลาดให้เติบโตอย่างยั่งยืน แน่นอนว่าหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวต้องมีการปรับตัว ในส่วนของปัจจัยที่น่าจะดำเนินการได้ เช่น การดูแลให้ความสำคัญในคุณภาพของบริการและมาตรฐานความปลอดภัย ซึ่งจากการรวบรวมข้อมูลสะท้อนให้เห็นว่า นักท่องเที่ยวจีนให้ความสำคัญในเรื่องของความปลอดภัยระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวมากที่สุด และมีผลต่อการตัดสินใจเลือกจุดหมายปลายทางท่องเที่ยว นอกจากนี้ การพัฒนาระบบโครงข่ายคมนาคมให้เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยว เพื่อการเดินทางที่สะดวกของนักท่องเที่ยวและช่วยกระจายจำนวนนักท่องเที่ยวไปยังแหล่งท่องเที่ยว จากเดิมที่จะกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่เขตเมือง รวมถึงการกำหนดมาตรการรักษาและอนุรักษ์สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติในแหล่งท่องเที่ยว เพื่อให้เกิดความสมดุลและไม่ทำลายทรัพยากรทางธรรมชาติ


กำลังโหลดความคิดเห็น