xs
xsm
sm
md
lg

“อี ฟอร์ แอล เอม” เพิ่มทุน 8.05 พันล้านหุ้น ขายผู้ถือหุ้นเดิม 4:1 ที่ 0.05 บาท/หุ้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


EFORL เพิ่มทุน 8.05 พันล้านหุ้น ขายผู้ถือหุ้นเดิม 4:1 ที่ 0.05 บาท/หุ้น โดยมีวัตถุประสงค์นำเงินที่ได้จากการระดมทุนใช้ชำระหนี้ และเป็นเงินทุนหมุนเวียน

บมจ.อี ฟอร์ แอล เอม (EFORL) แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ (24 ก.ย.) อนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2562 ในวันที่ 5 พ.ย.นี้ เพื่อพิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 3.18 พันล้านบาท จากเดิม 2.58 พันล้านบาท โดยออกหุ้นใหม่ 8.05 พันล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 0.075 บาท โดยจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วน 4 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ที่ราคาหุ้นละ 0.05 บาท/หุ้น

ทั้งนี้ บริษัทได้กำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (Record Date) วันที่ 11 พ.ย. 62 และกำหนดวันจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของผู้ถือหุ้นเดิมในวันที่ 2, 3, 4, 6 และ 9 ธ.ค. 62 (5 วันทำการ)

สำหรับวัตถุประสงค์การเพิ่มทุน บริษัทจะนำเงินเพื่อชำระหนี้ประมาณ 200 ล้านบาท และลงทุนในธุรกิจอื่น ตลอดจนใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจหลักของบริษัทประมาณ 202 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้บริษัทมีสภาพคล่องของเงินทุนหมุนเวียนและเพิ่มความแข็งแกร่งทางด้านการเงินของบริษัท รวมถึงมีโครงสร้างทางการเงินที่เหมาะสมสามารถเพิ่มศักยภาพในการขยายธุรกิจของบริษัทได้

นายปรีชา นันท์นฤมิต ประธานกรรมการของ EFORL เปิดเผยว่า การเพิ่มทุนในครั้งนี้จะช่วยปลดเปลื้องภาระหนี้ของบริษัท สร้างความน่าเชื่อถือให้แก่คู่ค้าและนักลงทุนทั่วไป ทำให้บริษัทมีสภาพคล่องทางการเงินและเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจในอนาคต เป็นประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจของบริษัทในระยะยาวซึ่งจะเป็นผลดีต่อผู้ถือหุ้นเช่นกัน

ส่วนแนวโน้มในครึ่งหลังปี 62 ประเมินว่าน่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้นจากการสร้างรายได้จากบริษัทลูก ขณะที่ธุรกิจเครื่องมือแพทย์ยังสามารถสร้างรายได้ต่อเนื่อง มีการเพิ่มทีมขายอุปกรณ์ทางการแพทย์ มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ และมีแผนร่วมลงทุนผลิตเครื่องมือแพทย์บางรายการกับบริษัทชั้นนำในต่างประเทศ ประกอบกับมีความต้องการของลูกค้าที่มีอยู่ในมือแล้วประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตเช่นกัน ซึ่งในส่วนกลุ่มบริษัทวุฒิศักดิ์ ยังเห็นความมุ่งมั่นในการทำให้สถานการณ์ดีขึ้น โดยมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ภายใต้แบรนด์ Wuttisak Cosmetic และได้ปรับโมเดลธุรกิจใหม่ให้เป็น Beauty Living ครอบคลุมเรื่องสวยๆ งามๆ แบบครบครัน ซึ่งจะช่วยผลักดันการขายสินค้าให้มากขึ้น อีกทั้งเป็นสินค้ามีกำไรสูง

ในปีนี้บริษัทมีเป้าหมายรายได้เติบโต 15% จากปีก่อน จากการพัฒนาประสิทธิภาพในการขาย และขยายตลาดในส่วนของฐานลูกค้าเดิม และกลุ่มลูกค้าใหม่ รวมทั้งในส่วนของผลิตภัณฑ์เดิมและผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งธุรกิจดังกล่าวเป็นอุตสาหกรรมการแพทย์ที่มีมูลค่าสูง และมีการเติบโตได้ แม้สถานการณ์เศรษฐกิจจะไม่เอื้ออำนวย เนื่องจากเป็นสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ส่งผลให้ความต้องการเครื่องมือทางการแพทย์เพิ่มขึ้นตามไปด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น