xs
xsm
sm
md
lg

คลังจับมือ KTB ปลดล็อกเงื่อนไขให้ร้านธงฟ้าที่มีเครื่อง EDC เข้าร่วมมาตรการชิมช็อปใช้โดยไม่ต้องสมัครใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


คลังจับมือ KTB ปลดล็อกเงื่อนไขให้ร้านธงฟ้าที่มีเครื่อง EDC เข้าร่วมมาตรการชิมช็อปใช้โดยไม่ต้องสมัครใหม่ คาดช่วยลดขั้นตอนและอำนวยความสะดวกให้แก่ร้านค้าที่มีฐานข้อมูลอยู่ในระบบกับธนาคารกรุงไทยอยู่แล้ว เป็นการเพิ่มจำนวนร้านค้าให้หลากหลายและเพียงพอต่อการจับจ่ายซื้อสินค้า บริการของประชาชน จำนวน 10 ล้านคน ที่จะมาลงทะเบียนใช้สิทธิตามมาตรการฯ ดังกล่าว

น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า ตามที่กระทรวงการคลังได้มีมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ "ชิมช้อปใช้" ซึ่งได้เปิดรับสมัครผู้ประกอบการ ร้านค้าเข้าร่วมมาตรการฯ ตั้งแต่วันที่ 28 ส.ค.62 โดยหลังจากที่ได้ปรับกลยุทธ์เป็นเชิงรุก ส่งทีมหมอคลัง (กรมบัญชีกลางและสำนักงานคลังจังหวัด) ร่วมกับธนาคารกรุงไทย ลงพื้นที่รับสมัครผู้ประกอบการกลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมมาตรการฯ และเปิดจุดให้บริการผู้ประกอบการร้านค้าที่อยู่ใกล้เคียงกันในแต่ละพื้นที่ตามที่กรมบัญชีกลางกำหนด รวมทั้งให้บริการรับสมัคร ณ กรมบัญชีกลาง และสำนักงานคลังจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ โดยขณะนี้มีร้านค้าเข้าร่วมแล้วจำนวนกว่า 23,000 ร้านค้า และยังคงเปิดรับสมัครไปจนถึงวันที่ 20 ก.ย.62 ไม่เว้นวันหยุดราชการ

"จำนวนผู้ประกอบการ ร้านค้าที่สมัครเข้าร่วมมาตรการ ชิมช็อปใช้ มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการที่กรมบัญชีกลางได้รับความร่วมมืออย่างดีจากธนาคารกรุงไทย ในการติดต่อประสานร้านค้าและลงพื้นที่รับสมัคร ณ สถานที่ตั้งของร้านค้านั้นๆ ซึ่งคาดว่าเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการรับสมัคร (20 ก.ย.62) จะมีร้านค้าเพียงพอรองรับต่อการใช้สิทธิ 1,000 บาท ของประชาชนที่มาลงทะเบียนเพื่อจับจ่ายซื้อสินค้าและท่องเที่ยวภายในประเทศตามเป้าหมายที่กระทรวงการคลังกำหนด

ขณะนี้ ธนาคารกรุงไทยได้แก้ไขระบบการรับสมัคร โดยให้ร้านค้าที่เป็นร้านธงฟ้าประชารัฐที่ติดตั้งเครื่อง EDC ซึ่งมีอยู่กว่า 20,000 ร้านค้าทั่วประเทศ (ไม่รวมร้านที่มีสาขามากกว่า 1 สาขา และร้านที่ไม่ได้ให้เบอร์โทรศัพท์มือถือไว้) สามารถสมัครเข้าร่วมมาตรการฯ ได้ โดยไม่ต้องสมัครใหม่ตามเงื่อนไขเดิม ทั้งนี้ จะต้องเป็นร้านที่มีข้อมูลครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งเลขที่ Tax ID เลขที่ประจำตัวประชาชน และหมายเลขโทรศัพท์มือถือที่สามารถรองรับรหัส OTP เพื่อยืนยันตัวตนก่อนการใช้งาน App ถุงเงิน โดยธนาคารจะนำข้อมูลเข้าระบบให้อัตโนมัติ ซึ่งธนาคารจะประสานขอความร่วมมือจากร้านค้าและอัปเดตข้อมูลร้านค้าที่ติดตั้งเครื่อง EDC ให้สามารถดาวน์โหลด App ถุงเงินได้ทันที เนื่องจากมีข้อมูลอยู่ในระบบแล้ว

ในส่วนของร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ หรือร้านค้าทั่วไปที่มี App ถุงเงินอยู่แล้ว ธนาคารกรุงไทย จะส่ง SMS เพื่ออัปเดต App ถุงเงินเวอร์ชันใหม่ หากสนใจเข้าร่วมมาตรการก็ยืนยันการอัปเดต และสามารถเข้าร่วมมาตรการได้ทันที ไม่ต้องกรอกใบสมัครและลงทะเบียนใหม่ ซึ่งช่วยลดขั้นตอนและอำนวยความสะดวกให้แก่ร้านค้าที่มีฐานข้อมูลอยู่ในระบบกับธนาคารกรุงไทยอยู่แล้ว เป็นการเพิ่มจำนวนร้านค้าให้หลากหลายและเพียงพอต่อการจับจ่ายซื้อสินค้า บริการของประชาชนจำนวน 10 ล้านคน ที่จะมาลงทะเบียนใช้สิทธิตามมาตรการฯ ดังกล่าว อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าว

อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับประชาชนทั่วไปที่สนใจ สามารถลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิผ่านเว็บไซต์ www.ชิมช้อปใช้.com ระหว่างวันที่ 23 ก.ย.-15 พ.ย.62 รับสมัครวันละไม่เกิน 1 ล้านราย รับจำนวน 10 ล้านรายเท่านั้น ซึ่งผู้ที่จะลงทะเบียนรับสิทธิต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้

1.เป็นคนไทย ที่มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน 2.มีบัตรประจำตัวประชาชน 3.มี Smart Phone/เครือข่าย Internet 4.มี e-mail โดยมีขั้นตอนการสมัครดังนี้ 1.ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.ชิมช้อปใช้.com โดยระบุจังหวัดที่จะไปท่องเที่ยวซึ่งไม่ใช่จังหวัดตามสำเนาทะเบียนบ้าน 2.จะได้รับ SMS แจ้งยืนยันการได้รับสิทธิภายใน 3 วันหลังจากลงทะเบียนและช่วงระยะเวลาการไปใช้สิทธิ คือ ภายใน 14 วัน หลังจากได้รับ SMS 3.ดาวน์โหลด App เป๋าตัง โดยจะมีวงเงินในเป๋าตัง 2 แบบ คือ ช่อง 1 ให้วงเงิน 1,000 บาท เพื่อใช้สิทธิ ชิมช้อปใช้ ในจังหวัดที่เลือกไว้ และช่อง 2 สามารถเติมเงินของตนเองใน App เป๋าตังได้

ทั้งนี้ มติ ครม.เมื่อวันที่ 10 ก.ย.62 ได้แก้ไขเพิ่มเติมวิธีการดำเนินมาตรการฯ กรณีที่ผู้ลงทะเบียนเติมเงินเพื่อใช้จ่ายค่าอาหารและเครื่องดื่ม ค่าที่พัก รวมถึงบริการต่างๆ ตามปกติของที่พักนั้น ค่าซื้อสินค้าท้องถิ่น ค่าซื้อสินค้าจากร้านธงฟ้าประชารัฐ หรือค่าบริการที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวในท้องถิ่นนั้น เช่น สปา การเช่าพาหนะ ค่าบริการนำเที่ยวในพื้นที่ เป็นต้น จากผู้ประกอบการที่เข้าร่วมมาตรการ รัฐบาลจะสนับสนุนเงินชดเชยเป็นจำนวนเท่ากับ 15% ของยอดชำระเงินที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 4,500 บาทต่อคน (วงเงินใช้จ่ายไม่เกิน 30,000 บาทต่อคน) ซึ่งจะจ่ายคืนเงินให้หลังสิ้นสุดโครงการในเดือน ธ.ค.62 เพื่อกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวแบบครบวงจร และให้การใช้จ่ายกระจายไปยังเศรษฐกิจฐานรากมากขึ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น