xs
xsm
sm
md
lg

"คลัง" เตรียมเชื่อมระบบบล็อกเชนใน 3 เดือน หวังใช้เป็นกระดูกสันหลังจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


รมว.คลัง ย้ำ การเพิ่มความโปรงใสและซื่อสัตย์ในการจัดซื้อจัดจ้าง จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดการใช้จ่ายภาครัฐ ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนสูงถึง 15% ต่อจีดีพี แต่ยังมีความจำเป็นที่จะต้องขยายสัดส่วนการลงทุนให้ได้ปีละ 20% เหตุไทยกำลังเข้าสู่การปฏิรูป เผยในอีก 3 เดือนเตรียมเปิดระบบบล็อกเชนที่เชื่อมโยงกรมบัญชีกลาง 3 กรมจัดเก็บภาษี และหน่วยงานแห่งอื่นในประเทศ ส่วนหน่วยงานที่อยู่นอกประเทศนั้นจะสามารถเชื่อมโยงระบบได้ภายในสิ้นปี 62 หวังใช้บล็อกเชนเป็นกระดูกสันหลังความโปร่งใสในระบบจัดซื้อจัดจ้างทั้งหมด ส่วน "แชทบอร์ท" จะสามารถพัฒนาระบบได้อย่างสมบูรณ์ใน 8-9 เดือน

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในงานสัมมนาการเพิ่มความโปร่งใสและความซื่อสัตย์ในการจัดซื้อจัดจ้างสาธารณะ ว่า ทุกประเทศต่างให้ความสำคัญต่อการป้องกันปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน และรัฐบาลไทยมีความมุ่งมั่นที่จะทำให้ประเทศเป็นสังคมที่ปลอดจากปัญหาดังกล่าว แต่ทั้งนี้จำเป็นต้องอาศัยการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน เพื่อทำให้เกิดประโยชน์อย่างยั่งยืนแก่คนไทย โดยสังคมต้องปฏิเสธการคอร์รัปชัน และการให้ข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน อีกทั้งความโปร่งใสถือเป็นเรื่องที่สำคัญในการป้องปรามการทุจริต โดยเฉพาะการใช้จ่ายภาครัฐซึ่งจะต้องทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

ทั้งนี้ เนื่องจากการใช้จ่ายภาครัฐในปัจจุบันจะมีวงเงินสูงกว่า 15% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) แต่อย่างไรก็ตาม ไทยยังมีความจำเป็นที่จะต้องอาศัยการลงทุนให้ได้ 20% ต่อปี เนื่องจากไทยกำลังเข้าสู่การปฏิรูป และโดยส่วนใหญ่การลงทุนจะเน้นโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องใช้เงินทุนทั้งหมด การจัดซื้อจัดจ้างจึงต้องมีความโปร่งใส เพื่อให้การลงทุนเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ดังนั้น การดูแลเรื่องการทุจริตจึงเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากหากยังมีปัญหาดังกล่าวนี้อยู่อีกจะทำให้ประเทศชาติเกิดความเสียหาย และประชาชนจะได้รับผลกระทบตามไปด้วย

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมาไทยได้ปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบเพื่อให้มีความสอดคล้องตามมาตรฐานสากล โดยเน้นเรื่องความคุ้มค่า ความโปร่งใส การให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล รวมถึงสามารถตรวจสอบได้ ทั้งนี้ ยังเปิดโอกาสให้ภาคประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในโครงการจัดซื้อจัดจ้างทั้ง 2 โครงการ ได้แก่ โครงการโปร่งใสในการก่อสร้างภาครัฐตามมาตรฐานของประเทศอังกฤษ และโครงการข้อตกลงคุณธรรม ซึ่งเป็นข้อตกลงลายลักษณ์อักษรที่มีการร่วมลงนามเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดซื้อจัดจ้างด้วย

นายอุตมมะ ยังกล่าวด้วยว่า ใน 1-2 เดือนข้างหน้ากระทรวงการคลังและกรมบัญชีกลางจะนำเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพเข้ามาใช้ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม เนื่องจากประเทศไทยได้เข้าสู่ห้วงเวลาสำคัญของการปฏิรูป โดยมีการนำบล็อกเชนมาปรับปรุงการยื่นขอ/คืน/ยึด ขยายเวลาหนังสือค้ำประกันการจัดซื้อจัดจ้าง และเชื่อมโยงกับระบบธนาคารพาณิชย์ 25 แห่งโดยตรง

รวมทั้งยังมีการนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่เรียกว่า "แชทบอร์ท" เข้ามาช่วยตอบคำถามที่ไม่ซับซ้อนเกินไป เพื่อติดตามการอุทธรณ์ การลงทะเบียน การอนุมัติ และอื่นๆ ซึ่งในส่วนของ AI สามารถทำได้นอกเวลาทำการด้วย ทั้งนี้ คาดว่าภายใน 8-9 เดือนจะสามารถพัฒนาระบบ "แชทบอร์ท" ได้อย่างสมบูรณ์

นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้ผลักดันให้มีการนำนโยบายเทคโนโลยีเพื่อ E-government เข้ามาใช้ ซึ่งในอนาคตบล็อกเชนจะกลายเป็นกระดูกสันหลังของความโปร่งใสในระบบการจัดซื้อจัดจ้างทั้งหมด โดยในอีก 3 เดือนข้างหน้ากระทรวงการคลังจะทำการเปิดระบบบล็อกเชนที่เชื่อมโยงกับระบบของกรมบัญชีกลาง กรมสรรพากร กรมศุลกากร กรมสรรพสามิต และหน่วยงานอื่นภายในประเทศ ส่วนหน่วยงานที่อยู่นอกประเทศนั้นจะสามารถเชื่อมโยงระบบได้ภายในสิ้นปี 62

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเพิ่มเติมถึงกรณีนิด้าโพลที่ได้ระบุประชาชนส่วนใหญ่มองรัฐบาลไม่มีความสามารถในการบริหารเศรษฐกิจว่าเศรษฐกิจเป็นเรื่องต้องใช้ระยะเวลาในการแก้ไขปัญหา และรัฐบาลเข้ามาเดือนกว่าเท่านั้น แต่ได้ทำงานกันอย่างเต็มที่แล้ว นอกจากนี้ ยังเป็นที่ทราบว่าเศรษฐกิจโลกนั้นเป็นอย่างไร แต่พวกตนได้เริ่มดำเนินการที่จะดูแล และหากดูแลเศรษฐกิจไทยอย่างต่อเนื่อง จะทำให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้ และยืนยันว่า เศรษฐกิจไทยไม่ได้แย่อย่างผลโพลที่ออกมา แต่ก็พร้อมรับฟังทุกฝ่ายที่ให้ข้อมูล


กำลังโหลดความคิดเห็น