xs
xsm
sm
md
lg

ทองคำหากหลุด 1,479 ควรลดความเสี่ยง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


จับตาท่าทีเฟดต่อโนยายการเงินในการประชุมเหล่าธนาคารกลาง พร้อมกับทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อาจอ่อนตัวลงต่อ จนกดดันให้เกิดการผ่อนคลายนโยบายมากขึ้น ซึ่งจะหนุนราคาทองคำขยับตัวเพิ่ม เตือนหลุดแนวรับ 1,479 เหรียญ ควรตัดขาดทุนลดความเสี่ยงหลังราคาปรับตัวขึ้นมามาก
 
“วรุต รุ่งขำ” ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูลเลียน แอนด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวถึงทิศทางราคาทองคำที่ผ่านมาว่า ภาพรวมของราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัวอยู่ในกรอบที่ไม่กว้างมากนัก ประกอบกับรายงานการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีการบ่งชี้ว่าเจ้าหน้าที่ธนาคารกลาง ยังคงมีความเห็นแตกต่างกันในการประชุมประจำเดือนกรกฎาคมต่อแนวโน้มนโยบายการเงิน เพราะบางส่วนต้องการให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่เจ้าหน้าที่บางคนมีความเห็นในลักษณะที่ไม่ต้องการให้ออกมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือปรับลดอัตราดอกเบี้ย

โดยสถานการณ์ดังกล่าวกลับมาส่งผลให้นักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่การประชุมของเหล่าธนาคารกลาง ซึ่งจัดโดยธนาคารกลางสหรัฐฯ ว่าถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล จะมีการส่งสัญญาณอย่างไรต่อการดำเนินนโยบายของเฟด

นอกจากนี้เอง ทองคำยังคงได้รับแรงกดดันเพิ่มเติมจากทิศทางสกุลเงินปอนด์ที่อ่อนตัวลงหลังจากความไม่แน่นอนกรณี Brexit ซึ่งอาจเกิดการถอนตัวจากการเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปแบบไร้เงื่อนไข เมื่อสหภาพยุโรป หรือ EU ปฏิเสธข้อเสนอของอังกฤษ และ EU ยังคงแสดงท่าทีสนับสนุนสาธารณรัฐไอร์แลนด์ ให้เป็นสมาชิกต่อไป

ดังนั้น ปัจจัยที่ยังคงต้องจับตา แนะนำให้จับตาประเด็นการลดภาษีเงินได้และภาษีกำไรของการขายหลักทรัพย์ในสหรัฐฯ หลังจากคณะกรรมการบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังศึกษามาตรการดังกล่าว แม้ว่าจะมีการส่งสัญญาณว่าจะไม่ได้ใช้ในระยะเวลาอันใกล้ แต่หากมีการรณรงค์หาเสียงหรือมีการส่งสัญญาณว่าจะใช้มาตรการการลดภาษีดังกล่าวหลังการเลือกตั้ง เพื่อช่วยให้ “ทรัมป์” ได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีต่อ ก็อาจจะเป็นอีกปัจจัยตัวหนึ่งที่กลับมาสร้างความหวังหรือกระตุ้นแรงหนุนให้แก่ตลาดหุ้นในฝั่งสหรัฐฯ กลับมากดดันทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

นอกจากนี้ ยังแนะนำให้จับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจ โดยเฉพาะประมาณการครั้งสุดท้ายของตัว GDP ประจำไตรมาส 2 เพื่อเป็นตัวชี้วัดแนวโน้มทิศทางเศรษฐกิจของฝั่งสหรัฐฯ หลังจากช่วงที่ผ่านมา มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจมีทิศทางชะลอตัวลง โดยหาก GDP มีทิศทางชะลอตัวลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก็อาจจะเป็นอีกปัจจัยตัวหนึ่งที่กลับไปสนับสนุนให้เฟดผ่อนคลายนโยบายการเงินมากขึ้น และน่าจะเป็นอีกปัจจัยตัวหนึ่งที่กลับเข้ามาสนับสนุนตัวทองคำ

ขณะเดียวกัน อาจจับตาการเคลื่อนไหวของตัวสินทรัพย์เสี่ยงหรือตัวตลาดหุ้นทั่วโลก ซึ่งหากทิศทางตลาดหุ้นเริ่มมีการฟื้นตัว หรือรีบาวนด์ขึ้นหลังจากการอ่อนตัวลงมาจากช่วงก่อนหน้า ก็อาจเป็นปัจจัยตัวหนึ่งที่กลับเข้ามากดดันหรือการฟื้นตัวขึ้นของตัวทองคำได้เช่นกัน

ทำให้กลยุทธ์การลงทุน YLG ให้แนวรับระดับ 1,535 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของปี 2019 และเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 6 ปี แนวต้านถัดไปบริเวณ 1,555 และ 1,569 แนวรับประเมินไว้บริเวณ 1,479-1,456 และ 1,436 เหรียญ ซึ่ง 1,479 เหรียญเป็นระดับต่ำสุดก่อนหน้าที่ราคามีการย่อตัวลงมาแล้วเกิดการรีบาวนด์ หรือการดีดตัวกลับ

อย่างไรก็ตาม ระยะสั้นราคาทองคำอาจจมีลักษณะของการเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ บริเวณ 1,535-1,479 เหรียญ ทั้งนี้ หากราคาไม่มีปัจจัยบวกมากพอ เมื่อราคาขยับขึ้นเข้าใกล้กรอบด้านบนในโซน 1,524-1,535 เหรียญ ยังแนะนำให้แบ่งทองคำออกขายเพื่อรอราคาอ่อนตัวลงมาและเข้าซื้อใหม่อีกครั้ง โดยเน้นการทำกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว แต่หากราคาไม่หลุด 1,479 เหรียญ ราคาอาจจะมีการแกว่งและทรงตัวอยู่ในระดับสูง
 
ขณะเดียวกัน หากราคาหลุดแนวรับดังกล่าว แนะนำให้นักลงทุนที่ถือครองไว้หรือเข้าซื้อทองคำตัดขาดทุนเพื่อเป็นการควบคุมความเสี่ยง เนื่องจากราคาอาจปรับฐานหรืออ่อนตัวลงไปยังโซนแนวรับถัดไป ดังนั้น การปรับสถานะการลงทุนตามความเคลื่อนไหวของราคายังคงถือว่าเป็นความสำคัญ
 

กำลังโหลดความคิดเห็น