ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป เผยงวดไตรมาส 2 กำไรเติบโตดี ผลจากราคาวัตถุดิบลดทำให้กำไรจากธุรกิจหลักดีขึ้น หนุนมาร์จิ้นพุ่ง อ่อยตั้งสำรอง Chicken of the Sea 1.4 พันล้านบาท ฉุดกำไรสุทธิหดกว่าความเป็นจริง ส่วนยอดขายตกเพราะบาทแข็งค่า ด้านบอร์ดอนุมัติจ่ายปันผลหุ้นละ 25 สตางค์
นายไกรสร จันศิริ กรรมการ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU แจ้งงบไตรมาส 2 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 111.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ทำไว้ 9.63 ล้านบาท เนื่องจากราคาวัตถุดิบที่ปรับลดลงและอัตรากำไรของธุรกิจหลักปรับตัวดีขึ้น ขณะเดียวกัน Chicken of the Sea ได้ตั้งสำรองค่าใช้จ่ายพิเศษทางกฎหมายเพิ่มเติมคิดเป็นมูลค่าสุทธิ 1,402 ล้านบาทหลังหักภาษี และหากหักผลกระทบจากรายการพิเศษดังกล่าวออก TU จะบันทึกกำไรสุทธิจากการดำเนินงานงวดนี้ที่ 1,513 ล้านบาท
ยอดขายงวดนี้พบว่า TU ยอดขายลดลง 4.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2/61 มาอยู่ที่ 32,214 ล้านบาท ผลจากเงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลยูโรและปอนด์สเตอร์ลิงกว่า 6-7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และการมุ่งเน้นการขายสินค้าที่มีอัตรากำไรสูงขึ้น โดยหากแยกผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนออก ยอดขายปรับตัวลดลง 2.2% เนื่องจากปริมาณการขายลดลง ส่วนกำไรขั้นต้นงวดนี้อยู่ที่ 5,364 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 2/62 จะอยู่ที่ 16.7% เพิ่มขึ้น 2.61% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/61 และเป็นระดับอัตรากำไรรายไตรมาสที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2558
ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานปกติ 1,570 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.6% แม้ว่าจะมีการบันทึกค่าชดเชยสำหรับพนักงานที่เกษียณอายุเนื่องจากการแก้ไขพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานก็ตาม และสืบเนื่องจากค่าชดเชยดังกล่าวและยอดขายที่ลดลง อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ต่อยอดขายในไตรมาส 2/62 จึงอยู่ที่ระดับ 11.8%
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทอนุมัติการจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท กำหนดจ่าย 3 ก.ย. 2562 นี้ อีกทั้งอนุมัติให้ทำการขายหุ้นสามัญของบริษัท บีส ไดเมนชั่น จำกัด (BIZ) ที่บริษัทถืออยู่ทั้งหมด 1 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท หรือคิดเป็น 20% ของจำนวนหุ้นตามทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้วของ BIZ ให้แก่ นายไกรสร จันศิริ 600,000 หุ้น และนายธีรพงศ์ จันศิริ 400,000 หุ้น ในราคารวมทั้งสิ้นเท่ากับ 29,372,998.97 บาท