"อธิบดีสรรพากร” เผยเก็บภาษีกำไรซื้อขายหุ้นไม่ใช่โจทย์เร่งด่วนในตอนนี้ เหตุยังต้องรอพิจารณาแนวทางปฏิรูปภาษีจาก สศค. ก่อน ย้ำเตรียมยกเลิกสิทธิประโยชน์ภาษีกองทุน LTF ในปีนี้ตามแผนพัฒนาตลาดทุน ส่วนอนาคตจะเป็นเช่นไรให้ขึ้นกับการตัดสินใจในระดับนโยบาย
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวถึงแนวทางการจัดเก็บภาษีส่วนต่างกำไรจากการซื้อขายหลักทรัพย์ (Capital Gain Tax) เพื่อสร้างความเป็นธรรมหลังจากมีแนวทางที่จะจัดเก็บภาษีการลงทุนตราสารหนี้ผ่านกองทุนรวม ว่า กรมสรรพากรกำลังมีการศึกษาแนวทางดังกล่าวนี้อยู่ด้วยเช่นกัน โดยต้องพิจารณาถึงภาพรวม และมีข้อเสนอจากนักวิชาการหลายมหาวิทยาลัยว่าหากจะลดความเหลื่อมล้ำของประเทศไทยแล้ว ต้องเก็บภาษีส่วนต่างกำไรจากการซื้อขายหุ้นด้วย ซึ่งกรมสรรพากรกำลังจะนำข้อเสนอเหล่านี้มาศึกษา และอยู่ระหว่างการเปิดรับฟังความคิดเห็นและศึกษาแนวทางจากอาจารย์ในหลายมหาวิทยาลัยเสนอความคิดเข้ามา
ัอธิบดีกรมสรรพากร ย้ำว่า อาจจะไม่ได้ข้อสรุปในระยะเวลาอันใกล้นี้ เนื่องจากต้องใช้เวลาในการศึกษาอย่างรอบคอบ อีกทั้งยังรอผลการพิจารณาแนวทางการปฏิรูปภาษีจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ก่อน จึงจะส่งนโยบายมายังกรมสรรพากร ทั้งนี้ กรมสรรพากรจะต้องพิจารณาใน 2 มุมด้วย คือ หากต้องเก็บภาษี Capital Gain แล้วจะส่งผลกระทบให้ประสิทธิภาพในการระดมทุนลดน้อยลงหรือไม่ เนื่องจากตลาดทุนในปัจจุบันถือว่าเป็นแหล่งระดมทุนที่มีประสิทธิภาพ ส่วนอีกมุมหนึ่งนั้นก็ยังต้องพิจารณาถึงรายได้ที่จะเพิ่มขึ้นของกรมสรรพากรด้วย
อย่างไรก็ตาม อธิบดีกรมสรรพากร ยังกล่าวด้วยว่า การตัดสินใจในเรื่องดังกล่าวต้องขึ้นอยู่กับระดับนโยบาย เนื่องจากเป็นเรื่องที่มีความอ่อนไหว แต่สำหรับตนแล้วคิดว่าการเก็บภาษีส่วนต่างกำไรจากการซื้อขายหุ้นดังกล่าว ยังไม่ใช่โจทย์เร่งด่วนที่ต้องทำในขณะนี้ เพียงแต่อาจจะต้องมีการศึกษาไว้ก่อน เนื่องจากผลศึกษาถึงการลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) นั้นมีความชัดเจนว่า ผู้ที่ได้รับประโยชน์จากมาตรการภาษีนั้นจะเป็นกลุ่มคนในระดับบน ส่วนจะทำเช่นไรต่อไปต้องขึ้นกับระดับนโยบาย แต่ตอนนี้กรมสรรพากรยังยืนยันว่าจะยกเลิกการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีผู้ลงทุนผ่าน LTF ในปี 62 เพื่อให้เป็นไปตามแผนพัฒนาตลาดทุน
ด้านนโยบายปรับโครสร้างภาษี อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) พิจารณาภาพรวมทั้งหมดแล้ว ส่วนกรมสรรพากรนั้นก็กำลังศึกษาด้วยเช่นกัน ซึ่งในเรื่องการลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 10% นั้น ขึ้นกับว่า สศค. จะตกผลึกให้ดำเนินการในรูปแบบใด จากนั้นจึงจะส่งมาให้กรมสรรพากรพิจารณาดำเนินการลดภาษีในรูปแบบใด แต่ไม่ว่าจะเลือกการลดภาษีวิธีใดก็ตามย่อมส่งผลกระทบต่อรายได้อย่างแน่นอน เนื่องจากสัดส่วนรายได้ที่กรมสรรพากรเป็นผู้จัดเก็บจะมีถึง 70-80% ของรายได้รัฐทั้งหมด และหากรายได้หายไปอาจกระทบต่อเสถียรภาพการคลังประเทศได้ ดังนั้น จึงต้องรอนโยบายจากรัฐบาล