เคทีซีเผยกลยุทธ์รุกสินเชื่อบุคคลครึ่งปีหลัง เน้นเจาะกลุ่มสินเชื่อมีวัตถุประสงค์ประเดิมกลุ่มการศึกษา และต่อยอดไปสุขภาพ พร้อมรักษาฐานลูกค้าเดิม หวังดันยอดเติบโต 10%ตามเป้า รับมาตรการคุมเข้มธปท.กระทบธุรกิจ
นางสาวพิชามน จิตรเป็นธรรม ผู้อำนวการ-ธุรกิจสินเชื่อบุคคล บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)(KTC) เปิดเผยว่า ภาพรวมของอุตสาหกรรมสินเชื่อบุคคลในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ยังถือว่าเป็นบวก โดยเคทีซีมียอดคงค้างสินเชื่อบุคคลเท่ากับ 26,483 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.2%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า มีฐานสมาชิก 967,059 บัญชี ขยายตัว 12.8% ขณะที่เป้าหมายเติบโตสินเชื่อทั้งปีอยู่ที่ระดับ 10% หรือมีสินเชื่อปล่อยใหม่ 26,000 ล้านบาท และมียอดบัญชีใหม่ 177,000 บัญชี ล่าสุดช่วง 5 เดือนแรกของปีมียอดบัญชีเพิ่ม 60,000 ราย มียอดบัญชีเคลื่อนไหวสม่ำเสมอ(Active) 70%
ทั้งนี้ จำนวนบัญชีที่เติบโตสูงกว่ามูลค่าสินเชื่อจึงจะทำให้สินเชื่อของเราเติบโตได้ เนื่องจากเมื่อปีก่อนเราถูกเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)จำนวนวงเงินสินเชื่อสำหรับผู้มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อเดือนที่ไม่เกิน 1.5 เท่าของรายได้ รวมถึงห้ามถือเกินกว่า 3 บัญชีด้วย ตรงนี้ทำให้จำนวนลูกค้าลดลงประมาณ 5-10% ขณะที่สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล)ของสินเชื่อบุคคล ณ สิ้นไตรมาสแรกอยู่ที่ 0.78% ลดลงจาก 0.82% และต่ำกว่าอุตสาหกรรมที่ 3.49% เนื่องจากเคทีซีระบบการพิจารณาและการติดตามที่เข้มงวดอยู่แล้ว ขณะที่ส่วนแบ่งการตลาดสินเชื่อบุคคลอยู่ที่ 5.4%ของอุตสาหกรรม
สำหรับแผนการตลาดธุรกิจสินเชื่อบุคคลของเคทีซีในช่วงครึ่งปีหลังนี้ จะรุกธุรกิจเข้มข้นขึ้น พร้อมทั้งมุ่งเน้นการรักษาคุณภาพหนี้ควบคู่ไปกับการเติบโตอย่างยั่งยืนบน 4 แกนหลักได้แก่ 1. มุ่งปล่อยสินเชื่อที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ ซึ่งได้นำร่องสินเชื่อเพื่อการศึกษาร่วมกับสถาบันสอนภาษา 4 สถาบัน โดยสมาชิกที่ได้รับการอนุมัติจะได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% นานสูงสุด 24 เดือน และจะขยายต่อยอดไปยังกลุ่มอื่นๆ อาทิ กลุ่มสุขภาพ และโรงพยาบาล เป็นต้น
"แม้กลุ่มสินเชื่ออเนกประสงค์จะยังเป็นฐานใหญ่ของเรา แต่มีการแข่งขันที่เข้มข้นมาก ขณะที่ลูกค้าสินเชื่อที่มีวัตถุประสงค์จะเป็นกลุ่มที่มีคุณภาพหนี้ที่ดีกว่าในระยะยาวเพราะวัตถุประสงค์ที่เราให้ไว้จะมีส่วนช่วยเพิ่มศักยภาพของตัวเขา ทำให้มีรายได้ดีขึ้น ซึ่งสัดส่วนลูกค้ากลุ่มนี้ในพอร์ตยังมีน้อยประมาณ 5% ในปีนี้เราจะพยายามเพิ่มให้เป็น 10%"
2.รักษาฐานลูกค้าเก่าด้วยแคมเปญต่างๆและกลยุทธ์แบ่งเบาภาระ โดยหลักจะเป็นแคมเปญ"เคทีซี พราวโปรฯเหมาๆ 199"สำหรับสมาชิกสมัครใหม่รับสิทธิเหมาจ่ายดอกเบี้ย 2 รอบบัญชีแรกเพียงรอบละ 199 บาท ตั้งแต่ 1 พ.ค.-31ส.ค.2562 และแคมเปญเคลียร์หนี้เกลี้ยงซีซั่นสิบ 3.พัฒนาระบบและผลิตภัณฑ์ต่างๆเพื่อตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปในยุคดิจิทัลด้วย 2 บริการ ได้แก่ การเบิกถอนเงินสดออนไลน์-เลือกชำระได้เองแบบขั้นต่ำ 3%หรือแบ่งจ่ายเป็นงวด และบริการแบ่งชำระสินค้าผ่านร้านค้าออนไลน โดยได้เริ่มให้บริการผ่อนทองคำกับร้าน ออโรร่าด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.29% และ4.การสร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้าเพื่อเข้าถึงตัวตนที่แท้จริงของกลุ่มเป้าหมายด้วย Work Shop ที่หลากหลายตลอดปี
นางสาวพิชามนกล่าวอีกว่า คาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังยอดการใช้สินเชื่อจะเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงของการใช้เงินไม่ว่าจะเป็นการเปิดเทอมช่วงตุลาคมและเทศกาลต่างๆช่วงปลายปี ซึ่งต่างจากช่วงต้นปีที่มักจะมียอดคืนหนี้สูงเพราะเป็นช่วงที่ลูกค้าบางรายได้โบนัส ประกอบกับเคทีซีจะมีแคมเปญต่างๆออกมาอย่างต่อเนื่อง จึงคาดว่าสามารถทำสินเชื่อเติบโตได้ตามเป้า 10%
"ในเรื่องของหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้นก็เป็นจุดหนึ่งที่กดดันเรา เพราะเมื่อมีหนี้มากขึ้นคนก็จะระมัดระวังในการใช้จ่ายและก่อหนี้เพิ่ม ขณะเดียวกันธปท.ก็จะหันมาคุมเข้มตรงนี้มากขึ้น อย่างเมื่อปีที่แล้วเกณฑ์ของธปท.ที่ออกมานั้นกระทบเราอยู่แล้ว และต่อไปหากธปท.มีเกณฑ์มาตรฐานภาระหนี้ต่อรายได้มาอีก ก็คงต้องกระทบกับเราอย่างแน่นอน แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ประเมินเพราะยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้"