"แผ่นดินทอง"มั่นใจคอนโดฯในรูปแบบลีสโฮลด์ยังเติบโต ลูกค้าให้ความสนใจ เผยโครงการTriple Y Residence ราคาขายถูกกว่าฟรีโฮลด์ 30-40% คาดเปิดขายอีกรอบช่วงก.ย.ดันยอดสู่ 70% เปิดกลยุทธ์บริหารและเตรียมความพร้อมลูกค้ากลุ่มบ้านแฝด ทาวน์เฮาส์ แม้ดีมานด์สูง แต่เสี่ยงถูกรีเจกต์เรต ส่วนบ้านเดี่ยวไม่ถูกกระทบจากLTV
นายธนพล ศิริธนชัย ประธานอำนวยการ บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GOLD เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในแบบสิทธิการเช่าที่ถือครองกรรมสิทธิ์ตามช่วงระยะเวลา หรือ ลีสโฮลด์ (Leasehold) ซึ่งบริษัทมีโครงการสามย่านมิตรทาวน์ รูปแบบมิกซ์ยูสที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ว่า เป็นโครงการที่มีพื้นที่เชิงพาณิชย์ ที่อยู่อาศัย และส่วนของอาคารสำนักงาน ซึ่งเป็นโมเดลของการสร้างความแตกต่างในเชิงธุรกิจ และเป็นการกระจายความเสี่ยงของธุรกิจที่อยู่ภายในโครงการ โดยโครงการคอนโดมิเนียม
Triple Y Residence มูลค่าโครงการ 2,600 ล้านบาท ที่อยู่ระหว่างการขาย ได้รับความสนใจจากลูกค้า แม้ว่าจะเป็นโครงการคอนโดฯแบบกรรมสิทธิ์ 30 ปี แต่ด้วยทำเล(โลเกชั่น)ที่อยู่ในไพรม์เอเรียลเชื่อมต่อกับโครงข่ายรถไฟฟ้า และลูกค้าเป็นกลุ่มที่ต้องการซื้อจริง(เรียลดีมานด์) ส่งผลให้ปัจจุบันสามารถทำยอดขายได้แล้ว 32-35% และจะเปิดขายอย่างเป็นทางการอีกครั้งในช่วงเดือนก.ย.นี้ คาดว่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้นมาเป็น 70% ตั้งเป้าภายในสิ้นปี 62 หรือต้นปี 63 จะปิดการขายได้ 100%
"ราคาขายเราถูกกว่าการขายคอนโดฯแบบมีกรรมสิทธิ์ 30-40 % ราคาเฉลี่ยโครงการTriple Y Residence อยู่ที่ 140,000 บาทต่อตารางเมตร ขนาดพื้นที่ห้องชุดใหญ่กว่า เมื่อเทียบกับคอนโดฯบนทำเลย่านพระราม 4 ราชดำริ และหลังสวน ที่ขายเฉลี่ยอยู่ที่ 200,000-250,000 บาท/ตารางเมตร ทำให้คาดว่าจะเป็นหนึ่งในปัจจัยหลัก ที่ลูกค้าจะให้การตอบรับโครงการในช่วงเปิดขายอย่างเป็นทางการ ส่วนการทยอยโอนโครอการคอนโดมิเนียม Triple Y Residence จะเริ่มทยอยโอนในช่วงเดือนก.ย.นี้"
สำหรับการลงทุนในโครงการแนวราบนั้น ยังคงเน้นพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในกลุ่มบ้านแฝด ทาวน์โฮม และบ้านเดี่ยว ซึ่งเป็นกลุ่มที่อยู่อาศัยที่มีความต้องการซื้ออยู่มากในตลาด โดยเฉพาะบ้านแฝดและทาวน์โฮม ที่มีความต้องการซื้อมาก ซึ่งกลยุทธ์การเปิดแบรนด์ใหม่ Golden Neo ที่เข้ามาเจาะตลาดในกลุ่มบ้านระดับราคา 3.5-5 ล้านบาท เพื่อเติมเต็มลูกค้าให้ครบ แต่อย่างไรก็ตาม กลุ่มลูกค้าที่ซื้อบ้านแฝดและทาวน์โฮมยังคงมีแรงกดดันจากภาระหนี้สินครัวเรือนที่ยังสูง ต้องระวังเรื่องการปฎิเสธสินเชื่อ(รีเจกต์เรต)จากธนาคารพาณิชย์ที่สูง 30% และจะส่งผลต่อต้นทุนในการขายซ้ำหลายรอบ ทำให้บริษัทต้องเน้นบริหารจัดการในเรื่องการขาย และเตรียมตัวของลูกค้าในการขอสินเชื่อให้เป็นอย่างดี ขณะที่กลุ่มบ้านเดี่ยวมีแนวโน้มที่กลับมาฟื้นตัวขึ้น และเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบของเกณฑ์ควบคุมสินเชื่ออสังหาฯ ( LTV ) มากเท่ากับกลุ่มที่อยู่อาศัยประเภทอื่นๆ
" ภาพรวมอสังหาฯตอนนี้ ไม่ค่อยดี มีทั้งเรื่อง LTV เศรษฐกิจในต่างจังหวัดยังชะลอตัว ปัญหาสงครามการค้า หรือเทรดวอร์ที่น่าเป็นห่วง อาจกระทบต่อส่งออกในบางกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับเทรดวอร์ ประกอบกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลยังไม่ดี รัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามา ต้องดูเรื่องปากท้องของประชาชนและการหมุนเศรษฐกิจ โดยภาคอสังหาฯจะถูกมองเป็นอันดับต้นๆที่จะถูกนำมาใช้กระตุ้น"
สำหรับกระบวนการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของกิจการโดยสมัครใจ (Voluntary Tender Offer) ของบมจ.แผ่นดินทองฯ จากบมจ.เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) (FPT) นั้น ขั้นตอนของการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มตั้งแต่เดือน พ.ค.-ส.ค.62 ซึ่อหากกระบวนการทำคำเสนอซื้อ GOLD จาก FPT สำเร็จแล้ว GOLD จะเป็นหนึ่งในบริษัทในเครือของ FPT และเป็นหนึ่งหน่วยธุรกิจของ FPT ด้วย ซึ่งเป็นการปรับโครงสร้างของธุรกิจในเครือเฟรเซอร์ส โดยที่อนาคตของ GOLD ว่าจะยังจะซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯหรือไม่นั้น ยังต้องรอทาง FPT พิจารณาอีกครั้ง ซึ่งก็มีโอกาสที่ FPT จะนำ GOLD ออกจากการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพราะถือเป็นหนึ่งในธุรกิจที่อยู่ภายใต้ FPT แล้ว
ส่วนการควบรวมบริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) (UV) มาอยู่ในเครือ FPT ด้วยนั้น ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา ซึ่งก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ เพราะปัจจุบัน FPT กำลังอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างธุรกิจ เพื่อรวบรวมธุรกิจต่างๆในเครือเข้ามาทำให้เกิด Synergy integration.
