xs
xsm
sm
md
lg

"ธสน." คาด ส่งออกไทยปี 62 เติบโต 3.5% เผย 3 เดือนแรกตั้งสำรองฯ เพิ่ม 1.28 พันล้าน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


"ธสน." คาด ส่งออกปี 62 จะเติบโตราว 3.5% ชะลอตัวลงเมื่อเทียบจากปีก่อนหน้าที่เคยเติบโตได้ถึง 6.7% แต่เชื่อการลงทุนจะขยายตัวได้ในไตรมาส 4 หลังรัฐบาลใหม่ประกาศนโยบายการบริหารประเทศแล้ว ส่วนผลการดำเนินงาน ธสน. ในไตรมาสแรก มีกำไรสุทธิ 334 ล้านบาท หนี้ด้อยคุณภาพจะอยู่ที่ 4.26% และมีหนี้เสีย 4.5 พันล้านบาท ขณะที่ภาระการกันเงินสำรองหนี้สงสัยจะมีทั้งสิ้น 9.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1.28 พันล้านบาท

นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) กล่าวถึงแนวโน้มการเจริญเติบโตของภาคส่งออกไทยในปี 62 ว่า จะขยายตัวที่ระดับอัตราที่ 3.5% โดยมีแนวโน้มว่าจะชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับปี 61 ที่เคยขยายตัวได้ถึงที่ 6.7% ของมูลค่าการส่งออกรวมกว่า 2.5 แสนล้านเหรียญดอลล่ารสหรัฐฯ แต่หากการเจรจาทางการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ และการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ของไทยสามารถดำเนินการจนแล้วเสร็จและสามารถออกนโยบายบริหารประเทศแล้วก็จะช่วยให้เกิดการลงทุนได้ในไตรมาส 4

ทั้งนี้ ภาพรวมการส่งออกในไตรมาส 1 อาจจะลดลงไปบ้าง แต่กรรมการผู้จัดการ ธสน. ยังคงเชื่อว่า แนวโน้มส่งออกหลังจากนี้น่าจะดีขึ้นได้ ส่วนปัจจัยที่เข้ามากระทบคือการชะลอตัวทางเศรษฐกิจโลกที่คาดว่าจะเติบโตลดลงในรอบ 3 ปี โดยจะอยู่ที่ระดับ 2.7-3.3% อย่างไรก็ตาม หากผู้ประกอบการไทยมีความกล้าที่จะขยายตลาดส่งออกสินค้าไปตลาดใหม่ เช่น กลุ่มประเทศ CLMV, อินเดีย, และแอฟริกา ให้มากขึ้นแล้ว ตนเห็นว่ายังคงมีโอกาสอยู่สูง เนื่องจากมูลค่าการส่งออกของไทยในตลาดเหล่านี้ยังมีไม่มาก

กรรมการผู้จัดการ ธสน. ยังกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า แม้การส่งออกของไทยในช่วงครึ่งแรกของปี 62 จะหดตัวลงก็ตาม แต่เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ แล้วพบว่าของไทยจะหดตัวลงน้อยกว่าประเทศเกาหลีใต้ ไต้หวัน และมาเลเซีย ทั้งนี้ ในปัจจุบันไทยพึ่งพาการส่งออกคิดเห็น 60% และถือเป็นสัดส่วนที่น้อยกล่าวประเทศดังกล่าว อีกทั้งภาพรวมการส่งออกของไทยในปััจจุบันก็เริ่มมีการกระจายไปตามตลาดใหม่ๆ เช่น อินเดีย แอฟริกา มากขึ้นแล้ว เนื่องจากเป็นตลาดที่มีศักยภาพอนาคต โดยเฉพาะการส่งออกสินค้ากลุ่มผลไม้สดแช่แข็ง อาหารแช่งแข็ง อาหารทะเลกระป๋อง ส่งผลให้โอกาสการค้าของไทยยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ผลจากการศึกษาผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ยังพบว่า ผู้ประกอบการกลุ่มนี้ยังมีความต้องการที่จะขยายการทำธุรกิจในกลุ่ม CLMV ดังนั้น ธสน. จึงได้ออกผลิตภัณฑ์สินเชืิ่อ EXIM CLMV SMEs Credit ซึ่งจะเป็นสินเชื่อหมุนเวียนทั้งก่อนและหลังการส่งออกไปยังกลุ่มประเทศ CLMV โดยกำหนดวงเงินสินเชื่อสูงสุดต่อรายไว้ที่ 2 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย Prime Rate - 1.75% ต่อปี หรือราว 4.50% ต่อปี อีกทั้ง ยังได้ลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.5% ต่อปี สำหรับลูกค้าประกันการส่งออกของ ธสน. นั้น ธสน. ได้ออกผลิตภัณฑ์ประกันการส่งออกสินค้า SMEs Easy เพื่อให้บริการคุ้มครองความเสี่ยงใน 140 ประเทศทั่วโลก

นายพิสิษฐ์ ยังกล่าวเพิ่มเติมถึงผลการดำเนินงานในรอบ 3 เดือนแรกของ ธสน. ว่า จะมีเงินให้สินเชื่อคงค้าง 106,342 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นราว 16,653 ล้านบาท หรือคิดเป็น 18.57% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา ส่วนกำไรสุทธิจะมีทั้งสิ้น 334 ล้านบาท อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ สิ้นมีนาคม 62 จะอยู่ที่ 4.26% ขณะที่มูบค่าหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) จะอยู่ที่ 4,534 ล้านบาท เงินสำรองหนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น