เปิดแผนธุรกิจโนเบิล ภายใต้ร่มเงา 3 หุ้นใหญ่หลังจบดิวซื้อบิ๊กล็อต ดึงBTSGเสริมความแกร่ง พร้อมปรับโครงสร้างการบริหารครั้งใหญ่ "ธงชัย บุศราพันธ์"คุมเบ็ดเสร็จ นั่งซีอีโอควบเอ็มดี ดูแลธุรกิจอสังหาฯแนวราบ แนวสูง ด้าน แฟรงค์ เหลียง ซีอีโอร่วม ภารกิจทำตลาดและการลงทุนในต่างประเทศ ปรับพอร์ตโครงการมุ่งสินทรัพย์เพื่อเช่า ลงทุนซื้อที่ดินปีละ 3,000 ล้านบาท ขยายแบรนด์ใหม่ ลั่นใน 3 ปีข้างหน้า ยอดโอนแตะ 10,000 ล้านบาท
รายงานข่าวจากฝ่ายประชาสัมพันธ์บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE ระบุว่า บริษัทฯได้ประกาศโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่ หลังปรับทีมบริหารโดยมี นายธงชัย บุศราพันธ์ บริษัท ฟัลครัม โกลบอล แคปิตอล จำกัด และ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSG เป็น 3 ผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยนายธงชัย บุศราพันธ์ ซึ่งครอบครองหลักทรัพย์ 23.3% ,ฟัลครัม-โกลบอล แคปิตอล(Fulcrum Global Capital) ซึ่งนายแฟรงค์ เหลียง เป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด ได้เข้าถือหุ้น 24.9%ในโนเบิล ผ่านการลงทุนภายใต้ชื่อบริษัท เอ็นคราวน์ จำกัด (nCrowne Pte. Ltd.) บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (BTSG) ครอบครองหลักทรัพย์ 9.9% ซึ่งเป็นการลงทุนเพื่อการบริหารเงินออม (Treasury Investment) ของทางกลุ่ม BTS
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้มีมติแต่งตั้งผู้บริหาร นายกิตติ ธนากิจอำนวย ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ให้ดำรงตำแหน่งเป็นประธานกิตติคุณ (Chairman Emeritus)
นายธงชัย บุศราพันธ์ เข้าดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม ท่านที่ 1 และดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการของโนเบิลฯ ดูแลการดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งแนวราบและตึกสูงของโนเบิลฯ ส่วน นายแฟรงค์ เหลียง (Frank Leung) ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม ท่านที่ 2 จะร่วมบริหารงานในภาพรวมด้วยกันโดยจะเน้นเรื่องการดำเนินการการตลาดและการลงทุนในต่างประเทศ
นอกจากการดำเนินกิจกรรมการตลาดของโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาแล้ว โนเบิลฯ ได้มีการขยายฐานทางการตลาดไปยังต่างประเทศอีกด้วย โดยไตรมาสที่ 1/2562 ได้มีการเพิ่มสัดส่วนยอดขายจากต่างประเทศจากประมาณ 10 % ขึ้นเป็นประมาณ 40 % ของยอดขาย โดยได้กำหนดแผนขยายโครงการในทำเลใหม่ๆ ที่อยู่ติดเส้นทางรถไฟฟ้า โดยมีระดับราคาประมาณ 100,000 - 150,000 บาทต่อตารางเมตร(ตร.ม.) และจะมีการลงทุนซื้อที่ดินในแต่ละปีในงบประมาณ 3,000 ล้านบาท พร้อมกับการจะสร้างแบรนด์ใหม่เพื่อจับตลาดดังกล่าวโดยเฉพาะ บริษัทฯ ยังมีแผนการเร่งระบายที่ดิน และ พัฒนาสินทรัพย์ที่เป็นสินทรัพย์เพื่อการให้เช่า ซึ่งปัจจุบันได้สร้างยอดขายจากส่วนดังกล่าวให้โนเบิลฯ ได้แล้วถึงกว่า 2,000 ล้านบาท และจะยังคงดำเนินกลยุทธ์ดังกล่าวในการสร้างผลตอบแทนการลงทุนที่ดีขึ้นจากสินทรัพย์ที่ไม่ใช่สินทรัพย์หลัก
"ทีมผู้บริหารใหม่ มีวิสัยทัศน์ที่จะพัฒนาธุรกิจโนเบิลฯ ให้เจริญเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยจะมีเป้าหมายการเพิ่มยอดรับรู้รายได้ปีละประมาณ 10,000 ล้านบาท (หนึ่งหมื่นล้านบาท) ในสามปีข้างหน้า"อนึ่ง สำหรับฐานะการเงินของบริษัท ณ วันที่ 31/12/2561 มีสินทรัพย์รวม 25,952.70 ล้านบาท มีหนี้สิน 18,004.25 ล้านบาท รายได้ รวม 5,152.93 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 986.98 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 7,379.19 ล้านบาท
คณะผู้บริหารมีความมั่นใจอย่างยิ่งว่า ด้วยโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่ จะส่งเสริมให้การดำเนินงานของบริษัทฯ มีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น สามารถดำเนินการตามกลยุทธ์ต่างๆ พื่อสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดยในอนาคต
สำหรับนายธงชัย บุศราพันธ์ เป็นผู้บริหารและนักลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เคยดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ และกรรมการของบริษัทโนเบิลฯ ระหว่างปี 2535 ถึง ปี 2555
ฟัลครัม โกลบอล แคปิตอล (Fulcrum Global Capital) ซึ่งมีนายแฟรงค์ เหลียง เป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด เป็นกองทุน Private Equity ที่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ระหว่างประเทศ และพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แถวหน้าของโลกโดยดูแลโครงการใน สหราชอาณาจักร จีน ญี่ปุ่น และประเทศไทย
บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (BTSG) กลุ่มบริษัทบีทีเอส เป็นผู้ให้บริการระบบขนส่งมวลชน ธุรกิจสื่อโฆษณา ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจบริการระดับแนวหน้าของประเทศไทย โดยมุ่งมั่นที่จะส่งมอบแนวคิด “ซิตี้ โซลูชั่นส์” สร้างความยั่งยืนแก่ชุมชนเมืองทั่วเอเชีย
โดยก้าวต่อไปโนเบิลฯ จะมุ่งมั่นให้ความสำคัญในการดำเนินธุรกิจ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทฯ ทั้งแนวราบและตึกสูง โดยมุ่งเน้นการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ผนวกกับเทคโนโลยีในการอยู่อาศัย เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายเป็นทางเลือกใหม่ให้แก่ผู้บริโภค เพื่อสรรสร้างที่อยู่อาศัยที่ดีที่สุด ปัจจุบันโนเบิลฯ ได้สร้างสรรค์โครงการมาแล้วกว่า 47 โครงการ โดยมีโครงการที่กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนา 8 โครงการ ซึ่งบริษัทฯ มีความพร้อมที่จะผลักดันธุรกิจและดำเนินการขยายตลาดไปยังต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
อนึ่ง ในปี 2561 บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ได้ดำเนินธุรกิจประสบความสำเร็จเป็นไปตามเป้าหมาย โดยมีการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ในทำเลคุณภาพใจกลางเมือง จำนวน 3 โครงการได้แก่ โครงการ นิว โนเบิล แจ้งวัฒนะ โครงการโนเบิล อราวน์ อารีย์ และโครงการโนเบิล สเตท 39 ซึ่งมีมูลค่าโครงการรวมกว่า 11,000 ล้านบาท.