xs
xsm
sm
md
lg

แบงก์ชาติเปิด e-Learningบริหารความเสี่ยงSME

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


แบงก์ชาติเปิด e-Learning ภายใต้โครงการบริหารความเสี่ยง FX ของ SME ระยะที่ 2 เน้น FX Option หวังให้ผู้ประกอบการตื่นตัวกับการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ที่มีแนวโน้นผัวผวนต่อเนื่อง ตั้งเป้าผู้ประกอบการSME เข้าโครงการ 5,000 รายจากทั้งหมด 48,000 ราย เป็นผู้ส่งออก 20,700 ราย

นางสาวชิรา อารมย์ดี ผู้ช่วยผู้ว่าการสายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.) ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย(เอ็กซิมแบงก์) และสมาคมธนาคารไทย เปิดอบรมแก่ผู้ส่งออกที่เป็นเอสเอ็มอีบนออนไลน์ e-Learning ภายใต้โครงการบริหารความเสี่ยงเอฟเอ็กซ์ออพชั่นของเอสเอ็มอี ระยะที่ 2 เพื่อลดอุปสรรคของเอสเอ็มอีที่ก่อนหน้านี้ระบุว่า ไม่มีเวลาเดินทางไปอบรม เพื่อรับวงเงินค่าธรรมเนียมซื้อประกันค่าเงิน 50,000 บาทต่อกิจการในภาวะอัตราแลกเปลี่ยนผันผวน
ส่วนการจัดอบรมมา 2 ระยะ ปรากฎว่ามีผู้เข้าร่วมอบรม 3,942 ราย จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 5,000 ราย โดยมีมูลค่าการส่งออกนำเข้ารวม 79 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นค่าธรรมเนียมรวม 25 ล้านบาท ซึ่งยังถือว่าต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ เนื่องจากผู้อบรมบางส่วนอยู่ต่างจังหวัด และไม่มีเวลาเข้ารับการอบรมจนครบถ้วน ทำให้ทาง ธปท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงได้เพิ่มช่องทางการอบรมผ่านอี-เลินนิ่ง ซึ่งผู้เข้าอบรมสามารถทำความเข้าใจได้ง่ายขึ้นเเละสามารถศึกษาได้ทุกที่ทุกเวลา

“การผันผวนของค่าเงินในอนาคตยังมีแนวโน้มสูงขึ้น จากปัจจัยต่างประเทศ เช่น สงครามการค้าสหรัฐและจีน หรือเบร็กซิท ทำให้ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญกับการทำประกันความเสี่ยงจากค่าเงินผันผวน โดยการเปิดให้อบรมอี-เลินนิ่งหรือผ่านออนไลน์จะทำให้เอสเอ็มอีผู้ส่งออกหมดปัญหาในการไม่มีเวลามาอบรม เพราะสามารถอบรมออนไลน์ได้เวลาใดก็ได้”

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ที่ปัจจุบันมีกว่า 3 ล้านราย และในจำนวนนี้กว่า 20,700 รายเป็นเอสเอ็มอีที่อยู่ในภาคการส่งออก และมักประสบปัญหากับอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากขาดความรู้ในการบริหารความเสี่ยงของค่าเงินที่ผันผวน ประกอบกับเข้าไม่ถึงเครื่องมือที่ใช้ป้องกันต่างๆ เช่น การทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า การทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าผ่านตลาดซื้อขายล่วงหน้า หรือการใช้บัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศ (เอฟซีดี) เป็นต้น

สำหรับผู้ประกอบการที่จะเข้าร่วมโครงการ ต้องเป็นผู้ส่งออกหรือนำเข้าที่มีรายได้ไม่เกิน 400 ล้านบาทต่อปี และต้องเป็นสมาชิก สสว. ซึ่งเมื่ออบรมเสร็จก็ทำแบบประเมินลูกค้า โดยภาย 1-2 วัน ผู้ประกอบการก็จะได้รับอีเมลเป็นหลักฐาน เพื่อรับวงเงินค่าธรรมเนียม โดยต้องลงทะเบียนและอบรมภายในวันที่ 20 ก.ย.62 และซื้อเอฟเอ็กซ์ออพชั่น ได้จนถึงวันที่ 30 ก.ย.62 โดยวันสิ้นสุดสัญญาต้องไม่เกินวันที่ 29 พ.ย.62

ส่วนธนาคารพาณิชย์ 8 แห่งที่ร่วมโครงการ ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ธนาคารทหารไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารยูโอบี โดยเป็นการอบรมให้เอสเอ็มอีรู้จักวิธีป้องกันความเสี่ยงจากอัตราเเลกเปลี่ยน ซึ่งผู้อบรมจะได้รับวงเงินค่าธรรมเนียม 50,000 บาทต่อกิจการ

นายชนะ บุณยะชัย ผุ้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธสน.กล่าวว่า โครงการบริหารความเสี่ยงเังกล่าวได้ทำมาแล้วระยะเวลา 1 ปี โดยได้รับความสนใจจากผู้ประกอบระดับหนึ่ง โดยเฟสแรกมีผู้ประกอบการเอสเอ็มอี 2,684 ราย ผู้สนใจเข้าโครงการประมาณ 618 ราย เฟส 2 มีผู้ประกอบมีรายได้สูงเกิน 400 ล้านบาท จำนวน 1,259 รายมีผู้สนใจเข้าโครงการ 962 ราย ซึ่งการทำโครงการดังกบ่าวเป็นการต่อยอดเพื่อให้เกิดความเข้าใจ และอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการมากยิ่งขึ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น