xs
xsm
sm
md
lg

สแกน อินเตอร์ ผลงานปี 61โต-เล็งเปิดธุรกิจยานยนต์ใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


สแกน อินเตอร์ โชว์ผลงาน 2561 รายได้เพิ่มขึ้น 24.1% ท่ามกลาง EBITDA โตขึ้น 7.6% ประกาศแจกปันผล 0.10 บาท พร้อมวางเป้าปี 62 โตอีก 40% เผยเป็นปีแห่งการเก็บเกี่ยวจากการลงทุนในปี 61 เผยสนใจเข้าร่วมประมูลโครงการจัดซื้อจัดเช่าของ ขสมก. ที่ต้องการรถเมล์ที่ทันสมัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มาให้บริการแก่ประชาชน

นายฤทธี กิจพิพิธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCN เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 3,121 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.1% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้รวม 2,515 ล้านบาท ส่วน EBITDA เพิ่มขึ้น 7.6% ขณะที่มีกำไรสุทธิ 179 ล้านบาท ลดลง 17.3% เมื่อเทียบกับปีก่อนมีกำไรสุทธิ 217 ล้านบาท เนื่องจากการชะลอตัวของการใช้ NGV ในประเทศไทย รวมทั้งผลกระทบของต้นทุนทางการเงินและค่าเสื่อมที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เพราะปี 61 ที่ผ่านมา บริษัทได้ลงทุนสูงขึ้น 1,000% หรือมูลค่า 1,200 ล้านบาท เพื่อขยายแหล่งรายได้ และต่อยอดความเข้มแข็งทางธุรกิจด้านพลังงานไปสู่ธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะเริ่มออกดอกออกผลอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยในปี 62
 
ทั้งนี้ รายได้รวมที่เติบโตอย่างต่อเนื่องมาจากกลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ทำรายได้พุ่ง 50.1% มาจากยอดขายของธุรกิจหลักอย่างก๊าซธรรมชาติอัดสำหรับอุตสาหกรรม (iCNG) ได้รับการตอบรับที่ดีมากขึ้นจากผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งรับรู้ถึงประโยชน์จากการใช้พลังงานที่สะอาด และมีความคุ้มค่า และในไตรมาส 4/61 มีการรับรู้รายได้และกำไรจากการส่งมอบรถเมล์ NGV อีก 200 คัน รวมทั้งสิ้นได้ส่งมอบไปแล้ว 300 คัน จากทั้งหมด 489 คันให้แก่ ขสมก.
 
ล่าสุด ได้จับมือกับ ‘บางจาก’ เปิดสถานีบริการบางจากแบบครบวงจร ที่จำหน่ายเชื้อเพลิงน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ NGV ที่อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี และที่อำเภอน้ำพอง จ.ขอนแก่น แล้ว ถึงแม้ว่าการใช้ NGV ในภาพรวมของประเทศจะลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากการสนับสนุนเชื้อเพลิงดีเซลของภาครัฐ แต่ SCN ก็ยังประสบผลสำเร็จในการขยายธุรกิจประเภทอื่น ส่งผลให้ยอดขายเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และยังคงรักษาฐานกำไรสุทธิได้อย่างดี จากสถานการณ์มลพิษฝุ่น PM 2.5 บริษัทฯ มั่นใจว่า ภาครัฐจะกลับมาสนับสนุนเชื้อเพลิงที่ประหยัด และสะอาดอย่าง NGV และจะเป็นแรงผลักดันสำคัญให้ยอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 62
 
สำหรับแผนการดำเนินงานของปี 62 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายการเติบโตไว้ที่ 30-40% โดยในไตรมาส 1/62 จะมีการส่งมอบรถเมล์ NGV ลอตสุดท้าย 189 คัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 731 ล้านบาท รวมถึงจะมีรายได้จากงานดูแลและซ่อมบำรุงรักษารถเมล์ NGV เป็นระยะเวลา 10 ปี อีกทั้งยังให้ความสนใจเข้าร่วมประมูลโครงการจัดซื้อจัดเช่าของ ขสมก. ที่ต้องการรถเมล์ที่ทันสมัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มาให้บริการแก่ประชาชนทั้งรถเมล์ไฮบริด รถเมล์ไฟฟ้า และรถเมล์ NGV ซึ่งมีแผนจัดซื้อจัดเช่ารถเมล์เพิ่มเติมอีกกว่า 2,000 คัน

พร้อมกันนี้ บริษัทฯ มีแผนเปิดสถานีบริการก๊าซ NGV แห่งใหม่เพิ่มอีก 4 แห่ง จากปัจจุบัน ที่มีทั้งหมด 9 แห่ง และคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการครบทั้ง 13 แห่งภายในปีนี้ และยังจะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการเริ่มขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) เพิ่มอีก 50 เมกะวัตต์ จากทั้งหมด 220 เมกะวัตต์ ของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มินบู ประเทศพม่า

นายฤทธี กล่าวต่อว่าวางแผนขยายธุรกิจในส่วนนี้เพิ่มเติม และจะมีการปรับโครงสร้างธุรกิจบางส่วน เพื่อให้สอดคล้องกับแผนธุรกิจ และสะดวกในการต่อยอดธุรกิจใหม่ๆ เพื่อช่วยสนับสนุนรายได้ของบริษัทฯ โดยคาดว่า Synergy จากการลงทุนในธุรกิจต่างๆ ตลอดปีที่ผ่านมา และที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ จะส่งเสริมให้ผลประกอบการในปี 62 เติบโตอย่างต่อเนื่อง
 
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2562 มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลงวดผลการดำเนินงานปี 2561 แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท คิดเป็นเงินทั้งสิ้น 120 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลร้อยละ 57 ของกำไรสุทธิตามงบเฉพาะกิจการหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล โดยบริษัทฯ จะกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record date) ในวันที่ 30 เมษายน 2562 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 17 พฤษภาคม 2562


กำลังโหลดความคิดเห็น