xs
xsm
sm
md
lg

เจ้าหนี้ “เอิร์ธ” ตามสืบทรัพย์หวังปกป้องผู้ถือหุ้นรายย่อย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เจ้าหนี้รายใหญ่ บมจ. เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ เดินหน้าปกป้องสิทธิผู้ถือหุ้นรายย่อย เผยขออำนาจศาลสั่งธนาคารธนชาต ส่งข้อมูลบัญชีเงินฝาก “เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ” หลัง “ขจรพงษ์ คำดี” อดีตผู้บริหารฯ ขอยื่นคำร้องเลื่อนการไต่สวนให้เหตุผลอ้างว่าป่วย

หลังจากที่บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) หรือ EARTH ผิดนัดชำระหนี้ตั๋วเงินระยะสั้น หรือตั๋ว B/E ตั้งแต่เมื่อกลางปี 2560 รวมวงเงินกว่า 6,950 ล้านบาท จากที่มีหนี้ทั้งหมด 2.5 หมื่นล้านบาท ทำให้สถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ระงับวงเงินสินเชื่อทั้งหมด ส่งผลให้บริษัทไม่สามารถออกหุ้นกู้ใหม่ได้ ทำให้ขาดสภาพคล่องจนถึงขั้นต้องยื่นต่อศาลล้มละลายเพื่อขอฟื้นฟูกิจการ

ล่าสุด เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2562 EARTH ได้ยื่นคำร้องขอเพิกถอนหมายอายัดเงินฝาก และเจ้าหนี้รายใหญ่ได้ยื่นคำคัดค้านคำร้องดังกล่าว พร้อมกับยื่นคำร้องขอให้ศาลออกหมายเรียก เพื่อให้ศาลมีคำสั่งให้ธนาคารธนชาต ส่งบัญชีเงินฝากที่อายัด เพื่อให้เจ้าหนี้ทุกรายทราบยอดหนี้ในบัญชีเงินฝาก ในการนี้ศาลจึงกำหนดให้มีวันไต่สวนคำร้องในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2562 (คดี พ. 1141/2561) และวันที่ 13 มีนาคม 2562 (คดี พ. 1158/2561) และในวันนี้ (18 กุมภาพันธ์ 2562) ปรากฏว่า พยานฝั่ง EARTH ได้แก่ นายขจรพงษ์ คำดี ขอยื่นคำร้องเพื่อเลื่อนการไต่สวนโดยอ้างว่าตนป่วย ศาลจึงได้เลื่อนวันนัดไต่สวนเป็นวันที่ 22 มีนาคม 2562 และขณะเดียวกัน ธนาคารธนชาต กลับไม่นำส่งข้อมูลบัญชีเงินฝาก และส่งเพียงคำขอเปิดบัญชีเงินฝากเท่านั้น ทางเจ้าหนี้รายใหญ่จึงได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ธนาคารธนชาต ส่งข้อมูลบัญชีเงินฝากดังกล่าว

ย้อนไปก่อนหน้านี้ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) หรือ EARTH เริ่มผิดนัดชำระหนี้กับเจ้าหนี้รายใหญ่ เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2560 โดยหลังจากที่เจ้าหนี้รายใหญ่ทราบข่าวว่า EARTH จะโอนเงินที่ฝากที่ธนาคารธนชาต ประมาณ 800 ล้านบาท ไปที่ประเทศจีน เพื่อมิให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ แต่ทางเจ้าหนี้รายใหญ่ไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะอายัดการโอนเงินดังกล่าว จึงต้องขอบารมีศาลเป็นที่พึ่ง โดยการฟ้องคดีต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศให้ EARTH ชำระหนี้ที่ค้างชำระกับเจ้าหนี้รายใหญ่ และขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวโดยการอายัดเงินฝากดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าหนี้รายใหญ่ได้ฟ้อง EARTH และผู้ค้ำประกัน ซึ่งเป็นผู้บริหารของ EARTH ตามมูลหนี้ Import Financing จำนวน 2 คดี คดีแรกฟ้องเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2560 จำนวนทุนทรัพย์ 800 ล้านบาท และคดีที่สองฟ้องเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2560 ทุนทรัพย์ 386.43 ล้านบาท โดยทั้งสองคดีดังกล่าวศาลยังไม่มีคำพิพากษา แต่มีคำสั่งให้อายัดเงินฝากดังกล่าว รวมเป็นจำนวนเงิน 800 ล้านบาทเศษ

ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2560 EARTH ได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลาย และขอให้ศาลตั้งตนเป็นผู้ทำแผน จึงมีผลทำให้ EARTH ตกอยู่ในสภาวะพักการชำระหนี้ตามกฎหมาย ซึ่งส่งผลให้อำนาจในการอายัดเงินฝากของศาลทรัพย์สินทางปัญญาฯ ตกเป็นอำนาจของศาลล้มละลายกลาง และในระหว่างนี้ศาลทรัพย์สินทางปัญญา ได้โอนคดีเดิมไปยังศาลแพ่งกรุงเทพใต้ โดยให้เหตุผลว่า คดีไม่อยู่ในอำนาจของศาล

ต่อมา EARTH ได้ขอให้ศาลมีคำสั่งให้ตนมีสิทธิเบิกถอนเงินฝากที่ธนาคารธนชาต เพื่อนำไปจ่ายเงินเดือนพนักงาน และรายจ่ายที่จำเป็น จึงเป็นเหตุทำให้ EARTH สามารถเบิกถอนเงินฝากในช่วงดังกล่าวได้ ก่อนที่ศาลจะมีคำสั่งตั้ง EY เป็นผู้ทำแผนเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2560 เป็นคดี พ. 1141/2561 และคดี พ. 1158/2561

เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2561 ศาลได้มีคำสั่งยกเลิกการฟื้นฟูกิจการ จึงเป็นเหตุทำให้ EARTH มีอำนาจในการจัดการทรัพย์สินของตนเองได้ตามเดิม ซึ่งตามสิทธิในทางกฎหมาย EARTH สามารถเบิกถอนเงินฝากดังกล่าว

หลังจากนั้น เจ้าหนี้รายใหญ่ได้พยายามดำเนินการยื่นคำร้องไปยังศาลล้มละลายกลาง ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ และศาลทรัพย์สินฯ เพื่อขอให้มีคำสั่งอายัดเงินฝากดังกล่าวต่อไป จนกระทั่งเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2561 ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งว่า คำสั่งยกเลิกการฟื้นฟูกิจการมีผลทำให้สิทธิและหน้าที่ของเจ้าหนี้ลูกหนี้กลับไปดังเดิม

ต่อมา เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2561 เจ้าหนี้รายใหญ่จึงยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ เพื่อขอให้มีคำสั่งอายัดเงินฝากดังกล่าวอีกครั้ง และเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2561 จึงได้มีคำสั่งว่าศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งชัดเจนแล้วว่า คำสั่งศาลทรัพย์สินฯ มีผลใช้ต่อไป จึงไม่จำเป็นต้องมีคำสั่งอายัดซ้ำอีก

การดำเนินการทางกฏหมายเรื่อยมาจนถึงวันที่ 27 พฤศจิกายน 2561 เจ้าหนี้รายใหญ่ได้ประสานไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) ออกคำสั่งอายัดเงินฝากของ EARTH บัญชีธนาคารธนชาต โดย ป.ป.ง. ขอให้ธนาคารตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินว่าเคยโอนเงินสินเชื่อที่ EARTH ได้รับไปยังบัญชีเงินฝากดังกล่าวที่ธนาคารธนชาตหรือไม่ และขอให้เจ้าหนี้รายใหญ่ทำหนังสือแจ้งไปยังธนาคารธนชาต เพื่อให้ข้อมูลว่า บัญชีเงินฝากดังกล่าวเป็นบัญชีที่มีประเด็นพิพาทอยู่ และขอให้พึงระวังในการให้เบิกถอนเงินฝากในบัญชีดังกล่าว โดยต่อมา เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2561 เจ้าหนี้รายใหญ่ได้มีหนังสือไปยังธนาคารธนชาต เพื่อแจ้งให้ทราบว่า ศาลทรัพย์สินทางปัญญาฯ เคยมีคำสั่งอายัดเงินฝากที่ EARTH ฝากไว้ที่ธนาคารธนชาต และ EARTH ได้ถูก ก.ล.ต. และ DSI สอบสวนอยู่ โดยมีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก เพื่อให้ธนาคารธนชาต ตระหนักถึงความเสียหายดังกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น