xs
xsm
sm
md
lg

“สภาพัฒน์” เผยจีดีพีปี 61 โต 4.1% คาดปี 62 โต 4%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


สศช. เผยตัวเลขจีดีพีปี 2561 ขยายตัวร้อยละ 4.1 น้อยกว่าคาดการณ์เดิม แต่เป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 6 ปี ส่วนจีดีพีปีนี้คาดขยายตัวร้อยละ 4 พร้อมคาดเงินสะพัดเลือกตั้งกระตุ้นจีดีพีร้อยละ 0.1-0.2 แต่ห่วงการจัดทำงบประมาณปี 2563 ล่าช้าช่วงรอยต่อหลังเลือกตั้ง

นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4/2561 เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.7 เร่งตัวจากการขยายตัวร้อยละ 3.2 ในไตรมาสก่อนหน้า รวมตลอดปี 2561 เศรษฐกิจไทยขยายตัวร้อยละ 4.1 ต่ำกว่าที่คาดการณ์จะเติบโตร้อยละ 4.2 แต่เร่งขึ้นจากการขยายตัวร้อยละ 4 ในปี 2560 และเป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 6 ปี โดยมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.7 การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวร้อยละ 4.6 การลงทุนขยายตัวร้อยละ 3.8

ส่วนเศรษฐกิจไทยปี 2562 คาดว่า จะขยายตัวร้อยละ 3.5-4.5 ค่ากลางร้อยละ 4 โดยมีแรงหนุนจากการใช้จ่ายภาคครัวเรือนยังมีแนวโน้มขยายตัวในเกณฑ์ดี การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวร้อยละ 4.2 การท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวจีน และยุโรป จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในไตรมาส 1/2562 คาดนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวไทยปีนี้ 41 ล้านคน รายได้ท่องเที่ยว 2.24 ล้านล้านบาท ขณะที่คาดว่า การลงทุนโดยรวมขยายตัวที่ร้อยละ 5.1 ทั้งการลงทุนภาคเอกชน ขยายตัวร้อยละ 4.7 ลงทุนภาครัฐ ขยายตัวร้อยละ 6.2 จากความคืบหน้าของโครงการลงทุนภาครัฐ ซึ่งมีโครงการขอรับการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ( EEC) เพิ่มขึ้นร้อยละ 137.4 และการย้ายฐานการผลิตของบริษัทต่างชาติที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน

สำหรับมูลค่าการส่งออกในปีนี้ คาดว่าขยายตัวร้อยละ 4.1 เป็นการปรับลดลงจากการขยายตัวร้อยละ 4.6 ในการประมาณการครั้งก่อน เนื่องจากการค้าโลกชะลอตัว เหลือเติบโตร้อยละ 3.8 และผลกระทบจากมาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน รวมทั้งการปรับลดสมมุติฐานราคาสินค้าส่งออกจากร้อยละ 1-2 เป็นร้อยละ 0.5-1.5 ตามการปรับลดราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกอยู่ที่ 67-68 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

ขณะที่บรรยากาศทางการเมืองและทิศทางหลังการเลือกตั้งยังเป็นประเด็นที่ต้องติดตาม โดยเฉพาะเม็ดเงินจากการเลือกตั้ง ทั้งงบประมาณจัดการเลือกตั้ง 6,100 ล้านบาท งบประมาณการหาเสียงของ ส.ส. เขต 16,690 ล้านบาท และงบค่าใช้จ่ายของพรรคการเมือง ประมาณ 20,000-30,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้เริ่มเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ และคาดว่าจะมีผลกระตุ้นจีดีพีร้อยละ 0.1-0.2 ส่วนค่าเงินบาทเคลื่อนไหว 31.50-32.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถประเมินทิศทางการเมืองหลังเลือกตั้งได้ โดยเป็นห่วงว่า การจัดทำงบประมาณปี 2563 อาจมีความเสี่ยงล่าช้า ซึ่งอาจไม่ทัน 1 ตุลาคม 2562 ดังนั้น การอนุมัติงบประมาณโครงการลงทุนจะล่าช้าไปด้วย จะกระทบทำให้แรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 4/2562 อาจลดลงตาม


กำลังโหลดความคิดเห็น