แต่ละปีมีคดีฟ้องร้องผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์มากมาย ส่วนใหญ่เป็นคดีมโนสาเร่ โทษไม่ร้ายแรง โดยเฉพาะคดีบริษัทจดทะเบียน ไม่ส่งงบการเงินตามกำหนด ซึ่งบทลงโทษเป็นการปรับระดับแสนบาทเท่านั้น และผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนมักยินยอมรับโทษ
ไม่เคยมีผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนรายใดออกมาโวยวาย หรือแสดงความไม่พอใจการฟ้องร้องของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
เพราะรู้ว่าผิดจริง และเป็นความผิดที่ได้ทำให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียง หรือผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัท และค่าปรับไม่สูงนัก
คดีไม่นำส่งงบการเงินตามที่กฎหมายกำหนดมีมาก จนแม้แต่สื่อมวลชนยังไม่ให้ความสำคัญ ไม่นำเสนอข่าว่า ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนรายใดถูกฟ้องบ้าง
แต่ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนบางแห่งกลับรับไม่ได้เมื่อถูกฟ้องในความผิดไม่ส่งงบการเงินตามกำหนด โกรธ ก.ล.ต.เป็นฟืนเป็นไฟ ไม่พอใจที่บังอาจฟ้องตัวเอง ในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจที่ต้องรับผิดชอบการนำส่งงบการเงิน
ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนรายนี้ มีชื่อเสียงในฐานะนักกฎหมายชื่อดัง ซึ่งผันตัวเองเข้ามาเป็นนักลงทุน และป้วนเปี้ยนในตลาดหุ้นมานานนับสิบปี จนกลายเป็นนักลงทุนรายใหญ่ ถือหุ้นอยู่หลายตัว แต่มักถือระยะสั้น เมื่อมีโอกาสทำกำไรจะขายออก และโดดเข้าไปถือหุ้นตัวอื่นต่อ
ชื่อเสียงของนักลงทุนขาใหญ่รายนี้ เคยขายได้ เพราะใครๆ คิดว่า เป็นนักลงทุนระยะยาว เข้าไปถือหุ้นตัวไหน หุ้นตัวนั้นน่าจะดี จนมีนักลงทุนรายย่อยบางส่วนตามแห่เข้าไปซื้อหุ้น เมื่อปรากฏชื่อนักลงทุนขาใหญ่รายนี้เข้าไปถือหรือเข้าไปครอบงำกิจการบริษัทจดทะเบียนแห่งใด
แต่เมื่อราคาหุ้นปรับตัวขึ้น นักลงทุนขาใหญ่จะชิงขายหุ้นทำกำไร ปล่อยให้นักลงทุนรายย่อยติดหุ้นต้นทุนแพงๆ
ปัจจุบันพฤติกรรมของขาใหญ่รายนี้กำลังถูกจับตา โดยเฉพาะการเข้าออกในหุ้นหลายตัวที่หมิ่นเหม่ต่อการสร้างราคา ขณะที่นักลงทุนรายย่อยก็เริ่มรู้ทันเล่ห์เหลี่ยม ไม่ตามแห่เข้าไปเก็งกำไร ทำให้หุ้นที่นักกฎหมายขาใหญ่เข้าไปซื้อ ราคาไม่ขยับไปไหน และไม่มีโอกาสขายทำกำไรระยะสั้นได้ เหมือนหุ้นหลายตัวที่เคยเข้าไปซื้อในอดีต
แม้พฤติกรรมการการลงทุนจะหมิ่นเหม่ความผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์ แต่ขาใหญ่รายนี้ยังไม่พลาด จึงไม่เกิดคดีใหญ่ แม้จะตักตวงเงินมหาศาลจากตลาดหุ้นแล้วก็ตาม
มีเพียงการฟ้องร้องความผิดเล็กๆ น้อยๆ คดีไม่ส่งงบการเงินตามกำหนด ซึ่งทุกคดีศาลตัดสินลงโทษเพียงการปรับ และได้ส่วนลดค่าปรับเหลือเพียงครึ่งหนึ่ง จ่ายค่าปรับเป็นเงินระดับแสนบาทเท่านั้น โดยผู้บริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่รับได้ ไม่เคยมีใครตีโพยพาย
แต่นักกฎหมายชื่อดังรายนี้ที่ทำตัวเหมือนผู้ยิ่งใหญ่ ใครแตะต้องไม่ได้ แสดงปฏิกิริยาไม่พอใจที่ ก.ล.ต. สั่งฟ้อง ทั้งที่เป็นคดีมโนสาเร่ และสาธารณชนแทบไม่ได้สนใจว่า ในแต่ละปีผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนคนใดถูก ก.ล.ต.ฟ้อง ฐานไม่ดำเนินการส่งงบการเงินตามกำหนดระยะเวลาบ้าง
ถ้าไม่อยากถูกดำเนินคดี ก็อย่าทำผิด เมื่อทำผิด ต้องยอมรับบทลงโทษ เป็นนักกฎหมายชื่อดังแท้ๆ น่าจะรู้กฎกติกาของตลาดหุ้นดี ไม่ทำตัวเหมือนอภิสิทธิ์ชนอยู่เหนือกฎหมาย
หากินกับตลาดหุ้นมานานนับสิบปี ไม่รู้กอบโกยไปเท่าไหร่ ถูกข้อหาเบาขนาดนี้ ทำเป็นสะดุ้ง ถ้าพลาดเจอข้อหาหนัก เช่น ปั่นหุ้นเมื่อไหร่ สงสัยจะชักดิ้นชักงอ
มีชื่อนักกฎหมายขาใหญ่ในตลาดหุ้นรายนี้ ถือหุ้นบริษัทจดทะเบียนแห่งไหน นักลงทุนต้องถอยห่างจากหุ้นตัวนั้น เพราะย้อนดูสถิติ หุ้นตัวไหนที่นักกฎหมายขาใหญ่เข้าไปถือ มักปิดฉากในสภาพหุ้นตายซาก
