อสังหาฯ เพื่อขายกลาง-ล่างปี 62 หดตัวแรง หลังรับปัจจัยลบเศรษฐกิจชะลอตัว แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น กำลังซื้อลูกค้าหด แบงก์เข้มปล่อยสินเชื่อหลัง ธปท.คลอดมาตรการ LTV คุมสินเชื่อที่อยู่อาศัย มั่นใจอสังหาฯ เพื่อเช่าขยายตัวดี เหตุตลาดท่องเที่ยวขยายตัวดี EEC หนุนการลงทุนภาคอุตสาหกรรม ส่งผลภาคแรงงานต่างประเทศขยายตัว ดันความต้องการที่พักอาศัยในพื้นที่ขยายตัวเพิ่ม โรงแรม อพาร์ตเมนต์รับอานิสงส์เต็มๆ ด้าน VMPC เผยปี 62 ไม่ลงทุนโครงการใหม่ ทั้งอสังหาฯ เพื่อเช่าและขาย คาดรายได้ทั้งปี 1,100 ล้านบาท
นายปริญญา เธียรวร ประธานเจ้าหน้าทีบริหาร บริษัท วี.เอ็ม.พี.ซี. จำกัด (VMPC) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่าและเพื่อขาย กล่าวว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 62 คาดว่าจะมีการชะลอตัวลงมากกว่าปีที่ผ่านมา ทั้งในส่วนของตลาดแนวราบ และแนวสูง โดยเฉพาะในกลุ่มตลาดระดับกลาง-ล่าง เนื่องจากปัจจัยลบด้านเศรษฐกิจ และกำลังซื้อของลูกค้า ที่ได้รับผลกระทบจากแนวโน้มการปรับตัวของอัตราดอกเบี้ย และสถาบันการเงินที่เข้มงวดการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น โดยเฉพาะหลังการประกาศใช้มาตการ LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ส่วนตลาดที่อยู่อาศัยระดับบนน่าจะยังมีอัตราการขยายตัวที่ดี เนื่องจากลูกค้ามีกำลังซื้อสูง และมีเงินสดในมือ แม้ว่าช่วงแรกๆ จะมีการชะลอตัดสินใจบ้าง เนื่องจากได้รับผลกระทบด้านจิตวิทยาจากมาตรการ LTV
อย่างไรก็ตาม หากแบ่งตลาดอสังหาฯ ออกเป็น 2 ส่วน คือ ตลาดอสังหาฯ เพื่อเช่า และตลาดอสังหาฯ เพื่อขาย จะพบว่าในปีนี้ทั้ง 2 ตลาดมีความแตกต่างกันค่อนข้างมาก โดยในส่วนของตลาดเพื่อขาย เชื่อว่าจะมีการหดตัวลงจากปีก่อน เนื่องจากผลกระทบข้างต้นที่กล่าวมาแล้ว ส่วนตลาดเพื่อเช่านั้น มีแนวโน้มการขยาตัวเพิ่มสูงขึ้นเลื่อยๆ หลังจากที่ในช่วงกลางปี 61 มีการชะลอตัวลง เนื่องจากได้รับปัจจัยลบจากปัญหาการลดลงของนักท่องเที่ยวชาวจีน อย่างไรก็ตาม ณ ปัจจัยตัวเลขการเข้ามาท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวจีนปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังไตรมาส 4/61 สังเกตุได้จากมีทัวร์นักท่องเที่ยวจีนในพื้นที่ กทม. เพิ่มมากขึ้น ส่วนในต่างจังหวัด ขณะนี้ทยอยกลับเข้ามาแล้ว สะท้อนให้เห็นว่า ตลาดท่องเที่ยวในปีนี้จะยังมีอัตราการขยายตัวที่ดี ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจโรงแรม
นอกจากนี้ การขยายการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) มีแนวโน้มการลงทุนสูงขึ้น และรัฐบาลมีการผลักดันการลงทุนในโครงการ EEC อย่างต่อเนื่อง ทำให้มีแรงงานต่างประเทศที่ถูกส่งตัวมาประจำที่ประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น โดยกลุ่มแรงงานข้ามชาติ เหล่านี้ ส่วนใหญ่จะเข้ามาเช่าอพาร์ตเมนต์ โรงแรม เพื่อพักอาศัยในรูปแบบการเช่าระยะยาวในพื้นที่ใกล้แหล่งงาน หรือนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งส่งผลดีต่อธุรกิจโรงแรม และอพาร์ตเมนต์เพื่อเช่า ขณะเดียวกัน จำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นก็จะส่งผลดีต่อธุรกิจอสังหาฯเพื่อเช่าในปีนี้ให้มีการขยายตัวที่ดีเพิ่มขึ้น
นายปริญญา กล่าวว่า แผนธุรกิจของ VMPC ในปี 62 จะยังไม่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งในส่วนของโครงการเพื่อขาย และเพื่อเช่า โดยในส่วนของโครงการเพื่อขายนั้น จะเป็นการขยายเฟสในการพัฒนาโครงการเพิ่ม ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนาและขายโครงการทาวน์โฮม 3 ชั้น ราคาเริ่มต้น 8 ล้านบาท ภายใต้ชื่อ แอสเทรา เบลส พระราม 2 มูลค่า 2,400 ล้านบาท ซึ่งแบ่งการพัฒนาออกเป็น 4 เฟส ในช่วงที่ผ่านมาได้เริ่มพัฒนา และเปิดขายเฟสที่ 1 และ 2 ไปแล้ว โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้าว่ายอดขายและรายได้รวม 1,100 ล้านบาท แบ่งอสังหาฯ เพื่อขาย 700 ล้านบาท จากโครงการแอสเทรา เบลส พระราม 2 และรายได้จากอสังหาฯ เพื่อเช่า 400 ล้านบาท โดยจากธุรกิจโรงแรม และอพาร์ตเมนต์ ใน กทม. 200 ล้านบาท และจากโรงแรมโอ๊ควู๊ด โฮเทล แอนด์ เรสซิเด้นท์ ศรีราชา 200 ล้านบาท
สำหรับโรงแรมโอ๊ควู๊ด โฮเทล แอนด์ เรสซิเด้นท์ ศรีราชา เป็นหนึ่งในโครงการอสังหาฯ เพื่อเช่าบนพื้นที่ 12 ไร่ จำนวนห้องพักรวม 1,600 ห้อง มูลค่า 7,000 ล้านบาท รวมมูลค่าที่ดิน โดยในโครงการดังกล่าวแบ่งการพัฒนาออกเป็น 2 เฟส แบ่งการก่อสร้างเป็น 4 อาคาร เฟสแรกเป็นการก่อสร้างอาคารโรงแรมโอ๊ควู๊ด โฮเทล แอนด์ เรสซิเด้นท์ ศรีราชา โรงแรม 5 ดาว จำนวน 458 ห้อง และอาคารจอดรถ 400 คัน ส่วนที่เหลือจะพัฒนาเป็นโรงแรมเพิ่มอีก 2 อาคาร ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษา และรอการพัฒนา
“สำหรับโรงแรม โอ๊ควู๊ด โฮเทล แอนด์ เรสซิเด้นท์ ศรีราชา ล่าสุด ได้เปิดตัวให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ว หลังเปิดทดสอบให้บริการ เพื่อทยอยปรับปรุงระบบตั้งแต่ในช่วงปี 60 โดยในช่วง1ปีที่ผ่านมา สามารถสร้างรายได้รวมกว่า 100 ล้านบาท และมีกำไรจากการดำเนินงานที่ 30 ล้านบาท ส่วนในปี 62 คาดว่าจะมีรายได้รวมที่ 200 ล้านบาท เพิ่มจากปีก่อน 1 เท่าตัว”
นายปริญญา เธียรวร ประธานเจ้าหน้าทีบริหาร บริษัท วี.เอ็ม.พี.ซี. จำกัด (VMPC) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่าและเพื่อขาย กล่าวว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 62 คาดว่าจะมีการชะลอตัวลงมากกว่าปีที่ผ่านมา ทั้งในส่วนของตลาดแนวราบ และแนวสูง โดยเฉพาะในกลุ่มตลาดระดับกลาง-ล่าง เนื่องจากปัจจัยลบด้านเศรษฐกิจ และกำลังซื้อของลูกค้า ที่ได้รับผลกระทบจากแนวโน้มการปรับตัวของอัตราดอกเบี้ย และสถาบันการเงินที่เข้มงวดการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น โดยเฉพาะหลังการประกาศใช้มาตการ LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ส่วนตลาดที่อยู่อาศัยระดับบนน่าจะยังมีอัตราการขยายตัวที่ดี เนื่องจากลูกค้ามีกำลังซื้อสูง และมีเงินสดในมือ แม้ว่าช่วงแรกๆ จะมีการชะลอตัดสินใจบ้าง เนื่องจากได้รับผลกระทบด้านจิตวิทยาจากมาตรการ LTV
อย่างไรก็ตาม หากแบ่งตลาดอสังหาฯ ออกเป็น 2 ส่วน คือ ตลาดอสังหาฯ เพื่อเช่า และตลาดอสังหาฯ เพื่อขาย จะพบว่าในปีนี้ทั้ง 2 ตลาดมีความแตกต่างกันค่อนข้างมาก โดยในส่วนของตลาดเพื่อขาย เชื่อว่าจะมีการหดตัวลงจากปีก่อน เนื่องจากผลกระทบข้างต้นที่กล่าวมาแล้ว ส่วนตลาดเพื่อเช่านั้น มีแนวโน้มการขยาตัวเพิ่มสูงขึ้นเลื่อยๆ หลังจากที่ในช่วงกลางปี 61 มีการชะลอตัวลง เนื่องจากได้รับปัจจัยลบจากปัญหาการลดลงของนักท่องเที่ยวชาวจีน อย่างไรก็ตาม ณ ปัจจัยตัวเลขการเข้ามาท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวจีนปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังไตรมาส 4/61 สังเกตุได้จากมีทัวร์นักท่องเที่ยวจีนในพื้นที่ กทม. เพิ่มมากขึ้น ส่วนในต่างจังหวัด ขณะนี้ทยอยกลับเข้ามาแล้ว สะท้อนให้เห็นว่า ตลาดท่องเที่ยวในปีนี้จะยังมีอัตราการขยายตัวที่ดี ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจโรงแรม
นอกจากนี้ การขยายการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) มีแนวโน้มการลงทุนสูงขึ้น และรัฐบาลมีการผลักดันการลงทุนในโครงการ EEC อย่างต่อเนื่อง ทำให้มีแรงงานต่างประเทศที่ถูกส่งตัวมาประจำที่ประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น โดยกลุ่มแรงงานข้ามชาติ เหล่านี้ ส่วนใหญ่จะเข้ามาเช่าอพาร์ตเมนต์ โรงแรม เพื่อพักอาศัยในรูปแบบการเช่าระยะยาวในพื้นที่ใกล้แหล่งงาน หรือนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งส่งผลดีต่อธุรกิจโรงแรม และอพาร์ตเมนต์เพื่อเช่า ขณะเดียวกัน จำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นก็จะส่งผลดีต่อธุรกิจอสังหาฯเพื่อเช่าในปีนี้ให้มีการขยายตัวที่ดีเพิ่มขึ้น
นายปริญญา กล่าวว่า แผนธุรกิจของ VMPC ในปี 62 จะยังไม่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งในส่วนของโครงการเพื่อขาย และเพื่อเช่า โดยในส่วนของโครงการเพื่อขายนั้น จะเป็นการขยายเฟสในการพัฒนาโครงการเพิ่ม ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนาและขายโครงการทาวน์โฮม 3 ชั้น ราคาเริ่มต้น 8 ล้านบาท ภายใต้ชื่อ แอสเทรา เบลส พระราม 2 มูลค่า 2,400 ล้านบาท ซึ่งแบ่งการพัฒนาออกเป็น 4 เฟส ในช่วงที่ผ่านมาได้เริ่มพัฒนา และเปิดขายเฟสที่ 1 และ 2 ไปแล้ว โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้าว่ายอดขายและรายได้รวม 1,100 ล้านบาท แบ่งอสังหาฯ เพื่อขาย 700 ล้านบาท จากโครงการแอสเทรา เบลส พระราม 2 และรายได้จากอสังหาฯ เพื่อเช่า 400 ล้านบาท โดยจากธุรกิจโรงแรม และอพาร์ตเมนต์ ใน กทม. 200 ล้านบาท และจากโรงแรมโอ๊ควู๊ด โฮเทล แอนด์ เรสซิเด้นท์ ศรีราชา 200 ล้านบาท
สำหรับโรงแรมโอ๊ควู๊ด โฮเทล แอนด์ เรสซิเด้นท์ ศรีราชา เป็นหนึ่งในโครงการอสังหาฯ เพื่อเช่าบนพื้นที่ 12 ไร่ จำนวนห้องพักรวม 1,600 ห้อง มูลค่า 7,000 ล้านบาท รวมมูลค่าที่ดิน โดยในโครงการดังกล่าวแบ่งการพัฒนาออกเป็น 2 เฟส แบ่งการก่อสร้างเป็น 4 อาคาร เฟสแรกเป็นการก่อสร้างอาคารโรงแรมโอ๊ควู๊ด โฮเทล แอนด์ เรสซิเด้นท์ ศรีราชา โรงแรม 5 ดาว จำนวน 458 ห้อง และอาคารจอดรถ 400 คัน ส่วนที่เหลือจะพัฒนาเป็นโรงแรมเพิ่มอีก 2 อาคาร ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษา และรอการพัฒนา
“สำหรับโรงแรม โอ๊ควู๊ด โฮเทล แอนด์ เรสซิเด้นท์ ศรีราชา ล่าสุด ได้เปิดตัวให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ว หลังเปิดทดสอบให้บริการ เพื่อทยอยปรับปรุงระบบตั้งแต่ในช่วงปี 60 โดยในช่วง1ปีที่ผ่านมา สามารถสร้างรายได้รวมกว่า 100 ล้านบาท และมีกำไรจากการดำเนินงานที่ 30 ล้านบาท ส่วนในปี 62 คาดว่าจะมีรายได้รวมที่ 200 ล้านบาท เพิ่มจากปีก่อน 1 เท่าตัว”