เชียงใหม่ริมดอย เซ็นสัญญารับงานก่อสร้างมูลค่า 145 ล้านบาท เผยยังมีเพิ่มเติมอีกโครงการ มูลค่าประมาณ 317 ล้านบาท เตรียมเซ็นสัญญาเร็วๆ นี้ ผู้บริหารคาดปีนี้สัดส่วนงานเอกชน 60% ที่เหลือเป็นงานราชการ ส่วนเป้าหมายรายได้ 1,600-1,800 ล้านบาท มองภาพรวมงานก่อสร้างปีนี้ดีกว่าปีก่อน ทั้งงานราชการที่เลื่อนมาปีนี้ และงานเอกชนแนวโน้มดีต่อเนื่อง
นายธีรพัฒน์ จิรพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เชียงใหม่ริมดอย จำกัด (มหาชน) หรือ CRD เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รับงานก่อสร้างโรงงานต้นแบบนวัตกรรมอาหารแบบครบวงจร อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยจะดำเนินงานก่อสร้างทั้งโรงงาน และจัดซื้อครุภัณฑ์ พร้อมติดตั้งให้กับมูลค่าโครงการรวม 145,046,728.97 บาท (ราคาไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ซึ่งจะเริ่มการก่อสร้างในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 และจะสิ้นสุดการก่อสร้างในเดือนกรกฎาคม 2562 ทำให้จะรับรู้รายได้จากโครงการดังกล่าวทั้งหมดภายในปีนี้
ขณะที่บริษัทฯ ยังเตรียมเซ็นสัญญาการก่อสร้างอาคารในจังหวัดสุราษฎร์ธานี มูลค่าประมาณ 317 ล้านบาท โดยอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบเอกสารและข้อตกลง หากเซ็นสัญญาเรียบร้อยแล้ว บริษัทฯ พร้อมที่จะดำเนินการก่อสร้างโครงการดังกล่าวได้ทันที ซึ่งจะช่วยเพิ่มงานในมือรอรับรู้รายได้ และรับรู้รายได้บางส่วนในปีนี้เช่นกัน
สำหรับแผนการดำเนินงานในปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ที่ประมาณ 1,600-1,800 ล้านบาท โดยยังแบ่งสัดส่วนการรับงานภาครัฐอยู่ที่ 40% และงานเอกชน 60% โดยมองว่า ภาพรวมของอุตสาหกรรมการก่อสร้างในปีนี้จะดีกว่าปีที่ผ่านมา ด้วยปัจจัยสนับสนุนหลายๆ ปัจจัย อาทิ การลงทุนของทางภาครัฐที่หลายโครงการเลื่อนการพิจารณางบประมาณ และการยื่นเสนอราคาการก่อสร้างมาในปี 2562 ขณะที่ภาคเอกชนมีแนวโน้มการลงทุนที่มากขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเติบโตของการก่อสร้างที่อยู่อาศัยที่จะมีการปรับตัวมากกว่าปีที่ผ่านมาเช่นกัน
นายธีรพัฒน์ กล่าวต่อว่า บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นในการเสนอ และเข้าประมูลงานในทุกโครงการที่ CRD มีศักยภาพในการก่อสร้างทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยในปี 2562 วางเป้าหมายงานประมูลไว้มากกว่าปีที่แล้วที่ประมูลงานได้ถึง 2,000 ล้านบาท ซึ่งหากบริษัทฯ สามารถประมูลงานได้ตามแผน จะช่วยส่งเสริมให้การเติบโตของบริษัทฯ เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงยึดหลักการทำงานด้วยคุณภาพควบคู่ไปการควบคุมต้นทุนที่เหมาะสม และการบริหารจัดการที่ดีเป็นหลักสำคัญเช่นเดียวกับที่ผ่านมา ที่จะทำให้บริษัทฯมีการเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว