xs
xsm
sm
md
lg

กสิกรฯ ชี้ตลาดป่วนทำ ROI หด-แนะกลยุทธ์ลงทุนรับ Late Cycle

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


กสิกรฯ เผยธุรกิจไพรเวตแบงกิ้งปีนี้ โดนผลกระทบจากความผันผวนตลาดโลก ทำผลตอบแทนติดลบ และอาจต่อเนื่องถึงปีนี้ พร้อมจัดเต็มทั้งด้านผลิตภัณฑ์-บริการลูกค้าลงทุนช่วง Late Cycle อย่างมั่นใจ

นายจิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ Private Banking Group Head ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของธุรกิจไพรเวตแบงก์ในปีนี้ ซึ่งถือเป็นปีที่มีความท้าทายมาก เนื่องจากภาพรวมของตลาดทั้งในและต่างประเทศถูกกระทบจากปัจจัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ความกังวลจากกรณีการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งทำให้ภาพรวมของการลงทุนมีความผันผวนมาก โดยผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ของลูกค้าในปีนี้ติดลบ ขณะที่จำนวนลูกค้า 11,000 ราย เพิ่มขึ้น 8% สินทรัพย์ภายใต้การลงทุน (AUM) อยู่ที่ 7.5 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.2%

สำหรับในปี 2562 นั้น ผลกระทบต่อเนื่องจากปีนี้ ธนาคารได้เตรียมพร้อมด้านคำแนะ และผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ลูกค้าก้าวเข้าสู่ปีที่ภาวะเศรษฐกิจกำลังเข้าสู่ระยะท้ายของวัฏจักรเศรษฐกิจ (Late cycle) อย่างมั่นใจ โดยมีแนวทางการลงทุนที่จะแบ่งลูกค้าเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มแรก ลูกค้าที่ค่อนข้างอ่อนไหวต่อภาวะตลาดระยะสั้น ธนาคารจะแนะนำให้สำรองสภาพคล่อง ปรับลดความเสี่ยงการลงทุนให้น้อยลง ให้ความสำคัญกับการกระจายความเสี่ยงในหลายๆ สินทรัพย์ และลูกค้ากลุ่มที่สอง ที่ยอมรับความเปลี่ยนแปลงของตลาดระยะสั้นได้ ธนาคารยังแนะนำให้ลงทุนระยะยาว

นอกจากนี้ ธนาคารเตรียมโซลูชันเพื่อรองรับกฎหมายใหม่ที่กำลังจะออกเพื่อช่วยลูกค้าเตรียมพร้อม และมีแผนการบริหารจัดการและรับมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นภาษีที่ดินที่จะบังคับใช้ในปี 2563 และกฎหมายทรัสต์ เป็นต้น นอกจากนี้ ธนาคารจะขยายขอบเขตการให้บริการ ด้านการให้คำปรึกษาการบริหารทรัพย์สินครอบครัวสู่ลูกค้าในต่างจังหวัดมากขึ้นด้วย และเพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้บริการต่างๆ ที่ธนาคารพัฒนาขึ้นมาได้อย่างสะดวก ธนาคารมีแผนการพัฒนาช่องทางดิจิทัล ซึ่งต่อยอดจากระบบ Core Banking ระดับโลกที่ธนาคารได้เริ่มทำงานแล้วในปีที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ในปีหน้า ธนาคารยังคงมุ่งมั่นที่จะขยายฐานไปยังกลุ่มลูกค้าชาวจีนที่อยู่ในไทยกว่า 10 ล้านคนต่อเนื่องจากปีนี้ โดยตั้งเป้าหมาย AUM ที่ระดับเดิม 15,000 ล้านบาท จากปีนี้ที่มี AUM ประมาณ 5,300 ล้านบาท ซึ่งถือว่าต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการศึกษาความต้องการของลูกค้า ซึ่งค่อนข้างจะมีความแตกต่างจากกลุ่มลูกค้าไทย

“อัตราผลตอบแทนปีนี้ที่ติดลบ น่าจะรวมถึงปีหน้าก็ยังน่าจะติดลบอยู่ จากเป้าหมายแต่ละปีที่ตั้งไว้ 6-8% แต่เป้าหมายผลตอบแทนเฉลี่ยที่ตั้งไว้ 5-6%ใน 10 ปีนั้น เรายังคงไว้อยู่ ขณะที่ AUM ของปีหน้านั้น ธนาคารไม่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ แต่ในภาวะแบบนี้ ไม่ลดลงก็เรียกว่าดีแล้ว และเชื่อว่าจากปัจจัยต่างๆ ที่มีความชัดเจนขึ้นในปีหน้า จะทำให้ปีถัดไปกลับมาเป็นบวกได้”


กำลังโหลดความคิดเห็น