หุ้นไทยปิดลบ 5.54 จุด รับ Sentiment ลบแรงขาย PTTEP และเผชิญแรงกดดันปัจจัยต่างประเทศ แนวโน้มสัปดาห์หน้ามีลุ้นฟื้นตัว
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้รับ Sentiment ลบต่อเนื่องจาก PTTEP ยังโดนขายเป็นหลัก และเผชิญแรงกดดันตลาดต่างประเทศติดลบหลังตัวเลขเศรษฐกิจของจีนออกมาแย่กว่าคาด โดยตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนเดือน พ.ย. ขยายตัว 5.4% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดขยายตัว 5.9% สะท้อนเศรษฐกิจจีนชะลอตัวในระดับหนึ่ง นอกจากนี้ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ยังมีความไม่แน่นอนสูง
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,609.45 จุด ลดลง 5.54 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.34% มูลค่าการซื้อขาย 44,918.04 ล้านบาท ด้านประเภทนักลงทุน สถาบันในประเทศ ขายสุทธิ 2,016.85 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 1,018.72 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 1,477.94 ล้านบาท นักลงทุนทั่วไปในประเทศ ซื้อสุทธิ 4,513.51 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายณัฐชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสฟื้นตัวได้บ้าง หลังจากสัปดาห์นี้อ่อนแอกว่าตลาดอื่น พร้อมแนะจับตาการประชุมธนาคารกลางหลายแห่งในสัปดาห์หน้า โดยเฉพาะชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ให้รอดูการส่งสัญญาณทิศทางในปีหน้าจากเดิมที่คาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี่ย 3 ครั้ง แต่หากลดเหลือ 2 ครั้ง ก็จะเป็น Sentiment บวกให้กับตลาดฯ
นอกจากนี้ การประชุมคณะกรรมนโยบายการเงิน (กนง.) 19 ธ.ค.นี้ มีโอกาสจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ส่งสัญญาณมากขึ้นว่า ไทยไม่อาจต้านกระแสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของโลกได้
อีกทั้งให้ติดตามการประชุมสหภาพยุโรป (EU) ที่จะมีการพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณฉบับใหม่ของอิตาลีในวันที่ 19 ธ.ค.นี้ และจีนก็จะมีการประชุมผู้นำระดับสูงในวันที่ 19-21 ธ.ค. ซึ่งก็มองกันว่าอาจจะออกมาตรการเพื่อเยียวยาผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า พร้อมให้แนวับ 1,600 ถัดไป 1,580 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,650 จุด