รมว.คลัง ย้ำรัฐบาลจะจ่ายเงินให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 500 บาท โดยไม่มีกำหนดเวลาใช้เงิน ไม่ถูกตัดสิทธิ ตัดเงินคืน ทั้งยังเตรียมโอนค่าเช่าบ้านรายละ 400 บาท ให้แก่ผู้สูงอายุทั้ง 2.3 แสนราย วันที่ 12 ธ.ค.นี้ ส่วนภาพหญิงวัยกลางคนสวมใส่ทองรูปพรรณขับรถยนต์และใช้บัตรสวัสดิการฯ เพื่อกดเงิน 500 บาท สศค. ตรวจสอบแล้ว หากขาดคุณสมบัติจริง อาจถูกตัดสิทธิ และถูกกรมบัญชีกลางเรียกเงินคืนได้
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีรัฐบาลสนับสนุนค่าใช้จ่ายในช่วงปลายปีให้แก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสำหรับผู้มีรายได้น้อย 500 บาทต่อคน โดยกำหนดโอนเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ในระหว่างวันที่ 8-10 ธันวาคม 2561 ว่า รัฐบาลจะไม่มีการจำกัดเวลาในการใช้จ่ายเงินในบัตรดังกล่าว อีกทั้งรัฐบาลจะไม่มีการดึงเงินกลับคืน ดังนั้น ผู้ถือบัตรยังนำไปใช้ร่วมกับวงเงินในบัตรสวัสดิการ ลดภาระค่าครองชีพ 200 หรือ 300 บาทต่อเดือน เพื่อนำไปซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นผ่านทางร้านธงฟ้าหรือร้านค้าเอกชนอื่นๆ ที่รับบัตรสวัสดิการได้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการฯ นั้น ไม่จำเป็นต้องรีบไปกดเงินสดออกมาใช้จ่าย เนื่องจากเงินยังคงอยู่ในบัตร และสามารถนำไปซื้อสินค้าที่ห้างค้าปลีกที่รับบัตรสวัสดิการได้หลายแห่ง รวมทั้งยังมีโปรโมชั่นที่จะได้รับเงินคืน หรือสามารถลดการซื้อสินค้าได้ด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค.61 รัฐบาลจะทำการชดเชยคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 5% กลับเข้าสู่บัตรสวัสดิการฯ ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป
ทั้งนี้ กรมบัญชีกลางได้เผยความคืบหน้าการจ่ายเงินให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการ โดยระบุว่ามีการจ่ายเงินแล้วทั้งสิ้น 11.3 ล้านราย เป็นเงิน 5,660 ล้านบาท กดเงินสดออกไปแล้ว 4.6 ล้านราย รวมเป็นเงิน 2,300 ล้านบาท และมีการใช้จ่ายซื้อสินค้าผ่านบัตร 850,000 ราย เป็นเงิน 425 ล้านบาท โดยยังมีเงินค้างในบัตรอีกราว 2,725 ล้านบาท ผู้ถือบัตรสามารถกดเงินสดหรือใช้จ่ายซื้อสินค้าได้ตลอดเวลา โดยวันที่ 12 ธ.ค.61- กรมบัญชีกลางจะทำการจ่ายเงินสนับสนุนค่าเช่าบ้านรายละ 400 บาท ให้แก่ผู้สูงอายุเป็นวันแรกอีก 230,000 ราย
อย่างไรก็ตาม กรมบัญชีกลางยังย้ำด้วยว่า เงินดังกล่าวจะยังคงอยู่ใบบัตร และผู้ได้รับสิทธิไม่จำเป็นต้องไปรีบถอนเงินออกมาใช้จ่ายก็ได้ และในวันที่ 14 ธ.ค.61 กรมบัญชีกลางจะโอนเงินคืนค่า VAT ให้ผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการเป็นเดือนแรก อย่างไรก็ตามในวันที่ 21 ธ.ค.61 กรมบัญชีกลางจะโอนเงินสนับสนุนค่าเดินทางให้ผู้สูงอายุที่ไปรักษาพยาบาลให้อีก 1,000 บาทต่อราย
ส่วนที่มีการเผยแพร่ผ่านโซเชียลในกรณีที่หญิงวัยกลางคนสวมใส่ทองรูปพรรณขับรถยนต์ และใช้บัตรสวัสดิการฯ เพื่อกดเงิน 500 บาทนั้น สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้ทำการตรวจสอบแล้ว และหากพบว่าขาดคุณสมบัติ หญิงรายดังกล่าวอาจถูกตัดสิทธิได้
สำหรับการเรียกเงิน 500 บาทคืนนั้น ถือเป็นหน้าที่ของกรมบัญชีกลาง ที่จะต้องดำเนินการต่อไป