xs
xsm
sm
md
lg

ธ.ก.ส. คาดสินค้าเกษตรหลักในเดือน ธ.ค. มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ศูนย์วิจัย ธ.ก.ส. คาดพืชเกษตรหลักทั้งข้าว, ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์, น้ำตาลทรายดิบ, ยางพารา, สุกร และกุ้งขาวแวนนาไม จะปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือน ธ.ค.61 ขณะที่ราคามันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน มีแนวโน้มราคาลดต่ำลง

นายสมเกียรติ กิมาวหา ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาสินค้าเกษตรเดือนธันวาคม 2561 ที่จัดทำโดย ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม ธ.ก.ส. คาดการณ์ว่า ราคาสินค้าเกษตรที่เป็นพืชหลักสำคัญ ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้า ราคาจะเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.06-0.16% โดยอยู่ที่ราคา 7,975-7,983 บาทต่อตัน เนื่องจากมีความต้องการจากผู้ประกอบการ เพื่อทำการส่งมอบสินค้าให้กับประเทศอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์

เช่นเดียวกับการคาดการณ์ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิ ว่าจะเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.73-5.83% อยู่ที่ราคา 15,614-16,404 บาทต่อตัน เนื่องจากนโยบายในการรักษาเสถียรภาพราคาของภาครัฐ และสต๊อกข้าวของผู้ส่งออกข้าวลดลง จึงเร่งซื้อข้าวหอมมะลิที่กำลังออกสู่ตลาด เพื่อส่งออกให้กับผู้ซื้อต่างประเทศ ส่วนข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาว ราคาเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 1.26-2.82% อยู่ที่ราคา 9,335-9,479 บาทต่อตัน เนื่องจากนโยบายในการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวของภาครัฐ และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ความชื้นไม่เกิน 14.5% ราคาจะเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.5-1.5% อยู่ที่ราคา 8.28-8.36 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) เนื่องจากสิ้นสุดช่วงฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ รุ่น 1 ส่งผลให้ปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยลง ขณะที่ความต้องการใช้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เป็นวัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง

ด้านน้ำตาลทรายดิบนั้น คาดว่า ราคาเฉลี่ยตลาดนิวยอร์ก จะเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 1.00-4.00% อยู่ที่ราคา 12.81-13.20 เซ็นต์ต่อปอนด์ (9.33-9.61 บาทต่อ กก.) เนื่องจากรายงานผลผลิตน้ำตาลของบราซิล ลดลง และคาดการณ์ว่า อินเดียอาจผลิตน้ำตาลได้น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้จากเดิมจากภาวะความแห้งแล้ง ประกอบกับอินเดีย ได้มีแผนจะส่งออกน้ำตาลทรายดิบไปจีนในปี 62 จำนวน 2 ล้านตัน ส่งผลให้ปริมาณสต๊อกน้ำตาลทรายในตลาดโลกลดลงไปบางส่วน

ส่วนยางพาราคาดว่า ราคายางพาราแผ่นดิบที่เกษตรกรขายได้จะเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 4.33-6.83% อยู่ที่ราคา 39.24-40.18 บาทต่อกก. โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการแก้ปัญหาราคายางของภาครัฐที่ลดพึ่งพาการส่งออก และเพิ่มสัดส่วนการใช้ยางพาราในประเทศมากขึ้น สำหรับสุกร คาดว่า ราคาจะเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.50-3.00% อยู่ที่ราคา 60.50-62.00 บาทต่อ กก. เนื่องจากความต้องการบริโภคเนื้อสุกรเพิ่มมากขึ้นจากการเข้าสู่ช่วงเทศกาลปีใหม่ และประชาชนเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้นในช่วงวันหยุดยาวสิ้นปี แม้ว่าสภาพอากาศที่เย็นลงจะเอื้ออำนวยให้สุกรเจริญเติบโตดี และอาจทำให้ปริมาณสุกรออกสู่ตลาดมากขึ้น

นอกจากนี้ ศูนย์วิจัย ธ.ก.ส. ยังได้คาดการณ์ถึงราคากุ้งขาวแวนนาไม ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.25-3.00% อยู่ที่ราคา 134.04-137.72 บาทต่อ กก. เนื่องจากความต้องการในการบริโภคเพิ่มมากขึ้นในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว และเทศกาลปีใหม่ ประกอบกับเป็นช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย

สำหรับสินค้าเกษตรที่คาดการณ์ว่าจะมีราคาลดลง ได้แก่ มันสำปะหลัง ซึ่งจะลดลงจากเดือนก่อน 0.40-4.07% อยู่ที่ราคา 2.36-2.45 บาทต่อ กก. เนื่องจากมีผลผลิตมันสำปะหลังทยอยออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยว แต่ระดับราคามันสำปะหลังยังอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และปาล์มน้ำมันลดลง 1.07-2.85% อยู่ที่ราคา 2.62-2.67 บาทต่อ กก. เนื่องจากภาวะการส่งออกที่ชะลอตัวจากการค้าน้ำมันปาล์มโลกที่ซบเซา และการคาดการณ์ปริมาณผลผลิตปาล์มทะลายที่เกษตรกรเก็บเกี่ยวออกสู่ตลาดยังเกินความต้องการใช้ปาล์มน้ำมันทั้งภายในประเทศ และการส่งออก ทำให้สต๊อกน้ำมันปาล์มดิบยังสูงขึ้นต่อเนื่อง เป็นปัจจัยกดดันราคาที่เกษตรกรได้รับให้ลดลง


กำลังโหลดความคิดเห็น