น่าเห็นใจสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เหมือนกัน เพราะต้องออกคำเตือนนักลงทุนให้ระมัดระวังการซื้อขาย หรือทำธุรกรรมเงินสกุลดิจิทัล นับครั้งไม่ถ้วน และเมื่อต้นสัปดาห์นี้ ได้ประกาศเตือนการใช้บริการบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นตัวกลางการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินสกุล Cryptocurrency อีก
บริษัท Q EXCHANG จำกัด เปิดตัว แนะนำบริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ ชักชวนผู้ลงทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินสกุล Cryptocurrency หรือเหรียญดิจิทัล (คอยน์สกุลต่างๆ) โดยประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อหลายช่องทาง
แต่บริษัทแห่งนี้ ยังไม่ได้เป็นผู้ประกอบการสินทรัพย์ดิจิทัล ที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. ผู้ลงทุนจึงอาจไม่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย
พูดให้ชัด ๆ คือ บริษัท Q EXCHANG เข้าข่ายเป็นโบรกเกอร์เถื่อน ที่เปิดบริการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินสกุลดิจิทัล นักลงทุนจึงมีความเสี่ยงที่จะได้รับความเสียหาย
นอกจากประกาศเตือนประชาชนผู้ลงทุนโบรกเกอร์ซื้อขายเงินสกุลดิจิทัลแล้ว ก.ล.ต. ยังเตือนไปที่ Q EXCHANG โดยตรง ขอให้ยุติการประชาสัมพันธ์และชักชวนประชาชนเข้าไปใช้บริการ เพราะอาจถูกพิจารณาว่า กระทำความผิดตามพระราชกำหนดการประกอบสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ.2561
พฤติกรรมของ Q EXCHANG อยู่ในข่ายกระทำความผิดแล้ว ซึ่ง ก.ล.ต. สามารถดำเนินคดีตามกฎหมายได้
แต่ทำไมบริษัทแห่งนี้จึงโฆษณาประชาสัมพันธ์อย่างโจ่งแจ้ง ชักชวนนักลงทุนใช้บริการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินสกุลดิจิทัล ทั้งที่ยังไม่ได้รับอนุมัติอย่างถูกต้องจาก ก.ล.ต. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่กำกับดูแลเงินสกุลดิจิทัลโดยตรง
กระแสการลงทุนเงินสกุลดิจิทัล เงียบลงไประยะหนึ่งแล้ว หลังจากมีเสียงเตือนถึงความเสี่ยงจากหลายฝ่าย นอกจากนั้นยังมีข่าวการโกงเงินสกุลดิจิทัลในรูปแบบต่าง ๆ และเงินดิจิทัลทั่วโลก มีการรวบรวมข้อมูลระบุชัดว่า ส่วนใหญ่เป็นของปลอม
มีเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ที่ประสบความสำเร็จ เป็นคอยน์ที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุน
นอกจากนั้น เงินสกุลดิจิทัลตัวแรกของประเทศไทย ซึ่งออกโดยบริษัทในเครือ บริษัท เจมาร์ท จำกัด (มหาชน) ชื่อ JFINCOIN ก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า เพราะหลังจากเข้าซื้อขายในตลาดรอง ไม่ได้รับความสนใจ ราคารูดลงกว่า 50 % จากราคาที่เสนอขายครั้งแรก 6.60 บาท นักลงทุนที่จองซื้อไว้ขาดทุนกันถ้วนหน้า
ความล้มเหลวของ JFINCOIN ทำให้บริษัทที่วางแผนที่จะระดมทุน โดยเสนอขายเงินสกุลดิจิทัลต่อประชาชนเป็นครั้งแรก หรือ ICO ต้องถอยกรูด เพราะออกมา คงไม่ได้รับความสนใจ เนื่องจากนักลงทุนเข็ดขยาดจากกรณีของ JFINCOIN
ช่วงต้นปีกระแสการตื่นตัว การเก็งกำไรเงินสกุลดิจิทัลมาแรงมาก แรงจนทุกฝ่ายหวั่นวิตกว่า จะสร้างความเสียหายรุนแรงต่อระบบการเงิน และนักลงทุนในวงกว้าง แต่หลังจากบริษัทในเครือ JMART ออก JFINCOIN ตีกินเงิน 660 ล้านบาทไปแล้ว กระแสการเก็งกำไร COIN สกุลต่าง ๆ ก็ดับวูบลง
นักลงทุนที่ซื้อ JFINCOIN ค้างอยู่ยอดดอยเป็นแถว ขณะที่ บริษัท เจ มาร์ท เองก็ไม่ดีนัก ราคาหุ้นที่เคยขึ้นไปทะลุ 23 บาท ในช่วงที่ประกาศออก JFINCOIN ปัจจุบันรูดลงมาเคลื่อนไหวแถวระดับ 4 บาทเศษ ๆ เท่านั้น
ความกลัวที่นักลงทุนจะแห่เก็งกำไรเงินสกุลดิจิทัลจนกลายเป็นเหยื่อคลี่คลายลงไปแล้ว แต่ยังมีกลุ่มคน ที่หาช่องทางทำมาหากินกับสกุลเงินในโลกยุคใหม่อยู่ ทั้งบนดินและใต้ดิน
บริษัทโบรกเกอร์ COIN นอกกฎหมายนี่แหละอันตราย พลัดหลงเข้าไปใช้บริการถูกโกงได้ง่าย ๆ เช่นเดียวกับบริษัท Q EXCHANG ที่มีฐานะเป็นโบรกเกอร์เงินดิจิทัลเถื่อน
