xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นรับแรงกดดันจากเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่า และ Bond Yield พุ่ง ขณะที่ราคาน้ำมันย่อตัวลง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


หุ้นปิดเช้าลบ 7.30 จุด ตามตลาดในต่างประเทศ รับแรงกดดันจากเงินดอลลาร์ฯแข็งค่า และ Bond Yield พุ่ง ขณะที่ราคาน้ำมันย่อตัวลง แนวโน้มภาคบ่ายคาดดัชนีฯ จะแกว่งตัว Sideway ถึง Sideway Down จากปัจจัยกดดันภายนอกที่เข้ามากระทบ ซึ่งคาดว่าจะยังกดดันต่อเนื่องตลอดทั้งวันนี้

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าที่ผ่านมาปรับตัวลดลงสอดคล้องกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียในช่วงเช้านี้ที่ลดลงตามกัน หลังจากที่เมื่อคืนนี้ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลดลง รับแรงกดดันของการคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯในการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในเดือน ธ.ค. ที่จะถึงนี้ ซึ่งมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้น แม้ว่าการประชุมเฟดเมื่อคืนนี้ไม่ได้มีเซอร์ไพร์สอะไรใหม่ออกมาก็ตาม แต่มีการคาดการณ์ว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯในการประชุมครั้งต่อไป ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้น และทำให้ค่าเงินในตลาดเกิดใหม่อ่อนค่าลง อีกทั้งยังทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ (Bond Yield) ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น กดดันต่อการลงทุนในตลาดหุ้นวันนี้

ขณะเดียวกัน ยังมีปัจจัยกดดันจากราคาน้ำมันที่ย่อตัวลงหลังจากที่สหรัฐฯ อนุญาตให้ 8 ประเทศนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน แม้ว่าจะมีการคว่ำบาตรเป็นรอบที่ 2 แล้ว อีกทั้งปริมาณซัปพลายน้ำมันของกลุ่มโอเปก ยังเพิ่มสูงสุด และสต๊อกน้ำมันของสหรัฐฯ ที่ประกาศออกมาก็เพิ่มขึ้นด้วย ส่งผลกดดันต่อราคาน้ำมัน และหุ้นกลุ่มพลังงาน ในช่วงเช้าวันนี้ ที่ปรับตัวลดลงกดดันภาพรวมของดัชนีฯ ให้ย่อตัวได้อย่างมีนัยสำคัญ

ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดตลาดครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,674.43 จุด ลดลง 7.30 จุด หรือเเปลี่ยนแปลง -0.43% มูลค่าการซื้อขาย 15,261.53 ล้านบาท

สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายณัฐชาต คาดว่า ดัชนีฯ จะแกว่งตัว Sideway ถึง Sideway Down จากปัจจัยกดดันภายนอกที่เข้ามากระทบ ซึ่งคาดว่าจะยังกดดันต่อเนื่องตลอดทั้งวันนี้ พร้อมให้แนวต้าน 1,685 จุด แนวรับ 1,665 จุด


กำลังโหลดความคิดเห็น