ซิตี้ฯ ยกเครื่องแอปฯ เจาะลูกค้าบัตร-เตรียมเฟสสองสินเชื่อบุคคลปีหน้า

ซิตี้แบงก์ โชว์ซิตี้โมบายล์ แอปพลิเคชัน แพลตฟอร์มใหม่ ชูฟีเจอร์หลักเน้นตอบโจทย์ผู้ถือบัตรเครดิต พร้อมเดินหน้าเฟส 2 กลุ่มสินเชื่อบุคคลในต้นปีหน้า ตั้งเป้ามีผู้ใช้แอปฯ 100% เต็มจากจำนวนผู้ถือบัตรใน 1-2 ปีข้างหน้า

นางวีระอนงค์ จิระนคร ภู่ตระกูล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบุคคลธนกิจ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย กล่าวว่า ปีนี้นับเป็นปีที่ดีของซิตี้ ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา เราได้ซื้อพอร์ตบัตรเครดิตจากธนาคารทิสโก้ รวมถึงเปิดตัวบัตรเครดิตซิตี้ พรีเมียร์ ที่ทำยอดสมัครบัตรเพิ่มขึ้นถึง 25%ในรอบ 3 เดือน ขณะที่กลุ่มลูกค้า Citi Gold ได้เปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์ของประเทศไทย ได้แก่ นางสู่ขวัญ บูลกุล รวมถึงเน้น 4 กลยุทธหลักในการดูแล ส่งผลให้ฐานลูกค้าบุคคลธนกิจปีนี้เพิ่มขึ้น 6% นอกจากนี้ ในอีกด้านที่ซิตี้แบงก์ ให้ความสำคัญและพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ ดิจิทัลแบงก์กิ้ง โดยล่าสุดได้เปิดตัว ซิตี้โมบายล์ แอปพลิเคชัน ภายใต้แนวคิด “Freedom to do more” ที่จะช่วยให้ลูกค้าใช้งานได้ง่าย สะดวก และรวดเร็ว

นายประทีป คามัคค ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายดิจิทัลแบงก์กิ้ง ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย กล่าวว่า แอปพิเคชันใหม่นี้ถือเป็นเฟสแรกที่จะมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าบัตรเครดิต เป็นหลัก โดยเฉพาะการชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ด ด้วยการตัดบัญชีบัตรเครดิต ซึ่งซิตี้แบงก์ เป็นธนาคารแรกๆ ที่ได้รับอนุมัติจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้ออกจาก Regulatory Sandbox รวมถึงการดูใบแจ้งยอดบัญชีย้อนหลังได้ถึง 12 เดือน การเพิ่มช่องทางการชำระบัตรเครดิตด้วยการให้ลูกค้าสามารถสร้างคิวอาร์โค้ดในซิตี้โมบายล์ แอปฯ และใช้คิวอาร์โค้ดดังกล่าวทำรายการชำระเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ ผ่านโมบายแอปพลิเคชันของธนาคารที่เข้าร่วม หรือคิวอาร์โค้ด หรือบาร์โค้ด ในการชำระเงินที่จุดรับชำระบัตรเครดิตต่างๆ การทำรายการเงินสดสั่งออนไลน์ที่เปลี่ยนวงเงินบัตรเครดิตเป็นเงิน และบริการระงับการใช้บัตรชั่วคราว และสามารถเปิดใช้ได้เองทุกที่ทุกเวลา

สำหรับเฟส 2 ของแอปพลิเคชันจะขยายไปยังกลุ่ม Retail Banking อาทิ บัตรกดเงินสด ลูกค้าสินเชื่อบุคคล เป็นต้น ซึ่งก็จะเป็นการเพิ่มเข้ามาในแอปฯ เดียวกัน แต่จะแยกหน้าออกไป โดยคาดว่าจะสามารถใช้ได้อีก 3-4 เดือนข้างหน้า และเฟสต่อไปก็จะเป็นเรื่องของ Digital ID แต่ส่วนนี้ต้องรอให้ ธปท.เริ่มโครงการก่อน ซึ่งเท่าที่ทราบ ในเฟสแรกจะเป็นธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่เข้าโครงการก่อน และซิตี้แบงก์จะเป็นเฟสสองที่คาดว่าจะเริ่มได้ภายในไตรมาส 3 ปีหน้า

“การปรับแอปพลิเคชั่นในครั้งนี้ เรามีเป้าหมายใน 3 ด้านหลักๆ ด้วยกัน คือ ใช้งานง่าย ทำงานได้รวดเร็ว และปลอดภัย ซึ่งในเรื่องนี้นอกจากใช้พินโค้ดทั้งของโทรศัพท์และธนาคารแล้ว เรายังระบบติดตามพฤติกรรมของลูกค้า ซึ่งหากระบบพบความผิดปกติก็จะมี SMS เตือนเพื่อให้ลูกค้ายืนยัน เป็นต้น โดยปัจจุบัน ซิตี้แบงก์ประเทศไทย มีลูกค้าที่ถือบัตรเครดิตอยู่ประมาณ 1 ล้านใบ มีลูกค้าที่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันแล้ว 50% โดยเราตั้งเป้าหมายที่จะให้ลูกค้าบัตรทั้งหมดเป็นผู้ใช้แอปพลิเคชันทั้ง 100% ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า”