xs
xsm
sm
md
lg

“พลังงานบริสุทธิ์” ลงนาม LOI กับรัฐบาลไต้หวัน รุกอุตสาหกรรมไฟฟ้าและรถยนต์ไฟฟ้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“พลังงานบริสุทธิ์” ลงนามกับรัฐบาลไต้หวัน ในหนังสือแสดงเจตจำนง (Letter of Intent : LOI) ร่วมกับ “สมโภชน์ อาหุนัย” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร EA ในงาน 2018 Taiwan Business Alliance Conference ณ กรุงไทเป เป้าหมายเพื่อหนุน EA เดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีกักเก็บพลังงานรองรับอุตสาหกรรมไฟฟ้า และรถยนต์ไฟฟ้า ปูทางผู้ประกอบการไทยจับมือกับไต้หวันผงาดสู่เวทีโลก

ประธานาธิบดีประเทศไต้หวัน Tsai Ing-wen ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนง (Letter of Intent หรือ LOI) ความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไต้หวัน กับบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA โดยมี Mr. Jong-Chin Shen รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐการ, ไต้หวัน และนายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ร่วมลงนามในงาน 2018 Taiwan Business Alliance Conference ณ กรุงไทเป เมื่อวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา

นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยว่า ความร่วมมือดังกล่าว เกิดขึ้นจากการที่รัฐบาลไต้หวัน เล็งเห็นความสำคัญ และความตั้งใจจริงของ EA ที่เข้าลงทุนในอุตสาหกรรมกักเก็บพลังงาน (Energy Storage) หรือแบตเตอรี ด้วยการเข้าถือหุ้นบริษัท Amita Technologies Inc. ถึงร้อยละ 70 และผลักดัน Amita ขึ้นเป็นผู้นำในระดับโลก ด้วยการเตรียมลงทุนในโรงงานผลิตแบตเตอรีขนาด 50 กิ๊กะวัตต์ชั่วโมง ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของทั้งไทย และไต้หวัน ในระดับสากลได้ รัฐบาลไต้หวัน จึงมีความประสงค์ที่จะสนับสนุน อีกทั้งจะส่งผลต่อสัมพันธภาพอันดีในระยะยาวระหว่าง EA กับบริษัทในไต้หวัน อีกด้วย

โดย EA ได้ลงนามใน LOI เพื่อยืนยันเจตจำนงในการลงทุนในอุตสาหกรรมกักเก็บพลังงานในไต้หวัน และกระทรวงเศรษฐการ ไต้หวัน ได้ลงนาม เพื่อยืนยันเจตจำนงที่จะให้การสนับสนุนทั้งด้านข้อมูล การแก้ไขปัญหา และความช่วยเหลือในการดำเนินงานตามที่ EA ต้องการ การแนะนำโอกาสทางธุรกิจให้ EA ตลอดจนการอำนวยความสะดวกทั้งด้านเทคนิค และด้านธุรกิจระหว่าง EA และบริษัทในไต้หวัน

“นับเป็นเกียรติอย่างสูงที่รัฐบาลไต้หวัน เห็นถึงความสำคัญ และความตั้งใจจริงของ EA และเข้ามาสนับสนุนโครงการลงทุนอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการพัฒนาเทคโนโลยีกักเก็บพลังงาน ตลอดจนหยิบยื่นโอกาสทางธุรกิจต่างๆ ให้ในรูปแบบที่เป็นทางการ และจริงจัง ทำให้ผมยิ่งเชื่อมั่นในทิศทางที่เรากำลังมุ่งไป อุตสาหกรรมกักเก็บพลังงาน หรือแบตเตอรี จะเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญ

สำหรับการบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้าในอนาคตทุกภูมิภาคในโลก และจะทำให้การพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของทั้งสองประเทศเติบโตอย่างรวดเร็ว และเข้มแข็งได้ นี่คือโอกาสครั้งสำคัญที่จะทำให้ไทยเราก้าวขึ้นมาเป็นผู้ขายเทคโนโลยีได้” นายสมโภชน์ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น