xs
xsm
sm
md
lg

ความวิตกกังวลยูโรโซนหนุนราคาทองคำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ความวิตกกังวลต่อเศรษฐกิจในยูโรโซน หนุนราคาทองคำปรับตัวเพิ่ม อีกทั้งได้รับแรงผลักดันจากผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ภาพรวมราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวแกว่งตัวอยู่ในกรอบ จับตาแรงซื้อบริเวณ 1,188-1,180 เหรียญ ว่าจะสามารถพยุงราคาทองคำได้หรือไม่ เพื่อเข้าซื้อ และทยอยแบ่งขายทำกำไร

"วรุต รุ่งขำ" ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูลเลียน แอนด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวถึงทิศทางราคาทองคำช่วงที่ผ่านมาว่า ราคาทองคำยังแกว่งตัวในกรอบแคบ โดยได้รับแรงหนุนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเมื่อยอดขาดดุลงบประมาณของอิตาลีสูงกว่าที่กลุ่มสหภาพยุโรป หรือยูโรโซนยอมรับได้ สร้างความวิตกกังวลต่อแนวโน้มการขยายตัวต่อปัญหาเศรษฐกิจที่อาจลุกลามไปยังประเทศอื่นๆ ในกลุ่ม จนทำให้เกิดแรงซื้อเข้ามาในทองคำ

ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่มีการทะยานขึ้นต่อเนื่อง ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยต่อการวิตกกังวลในการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง และทิศทางการปรับตัวเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยที่เป็นไปอย่างรวดเร็วอาจส่งผลเชิงลบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ รวมถึงผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นต่างๆ

"ความวิตกกังวลนี้สร้างแรงขายในสินทรัพย์เสี่ยง ส่งผลให้ตลาดหุ้นในหลายภูมิภาคปรับตัวลดลง เพราะมีแรงซื้อกลับเข้ามาในทองคำเพิ่มเติม"

แต่ท่าทีการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับนานาประเทศ ซึ่งล่าสุด ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีการเพิ่มอินเดีย และบราซิล ที่ถูกมองว่ามีการค้าที่ไม่เป็นธรรมกับทางฝั่งสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่าอาจมีการมุ่งเป้าไปยังทั้ง 2 ประเทศเพิ่มเติม นำมาซึ่งความตึงเครียดทางการค้าที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นได้ต่อ และถือเป็นอีกปัจจัยที่กดดันให้ราคาทองคำขยับตัวเพิ่มขึ้นได้อย่างจำกัด

โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม เนื่องจากตลาดเงินตลาดทุนของจีนกลับมาเปิดทำการ จึงต้องติดตามว่าแรงซื้อในฝั่งจีนจะเข้ามาหนุนราคาทองคำเหมือนเช่นที่ผ่านมาหรือไม่ เพราะหากมีแรงซื้อเข้ามาจากฝั่งจีน จะทำให้แนวโน้มราคาทองคำมีทิศทางค่อนข้างสดใส

อย่างไรก็ตาม ปริมาณการซื้อขายทองคำในฝั่งสหรัฐฯ อาจเบาบาง เนื่องจากภาคธนาคารจะมีการหยุดทำการ 1 วัน ขณะที่ตลาดหุ้นและตลาดทองคำยังเปิดทำการปกติ รวมทั้งต้องติดตามการเปิดเผยข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจในฝั่งสหรัฐฯ เช่น ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ประจำเดือนกันยายน เช่นเดียวกับการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งทั้งสองถือเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งหากเงินเฟ้อมีการขยายตัวสูงขึ้น จะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ส่งผลกดดันต่อทิศทางราคาทองคำ

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน "วายแอลจี" มองว่าราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวแกว่งตัวอยู่ในกรอบ ประเมินกรอบด้านบน 1,214 เหรียญ และด้านล่างที่ 1,180 เหรียญ หากมีการปรับฐานหรืออ่อนตัวลงอาจจับตาดูแรงซื้อบริเวณ 1,188-1,180 เหรียญ ว่าจะสามารถพยุงราคาทองคำได้หรือไม่ โดยหากราคาไม่หลุดแนวรับดังกล่าวแนะนำให้เข้าซื้อ และทยอยแบ่งทองคำออกขายบริเวณแนวต้าน 1,214 เหรียญ แต่หากสามารถผ่านโซนดังกล่าวได้ สามารถชะลอการขายเพื่อทำกำไรที่บริเวณแนวต้าน 1,235 เหรียญ

กำลังโหลดความคิดเห็น