xs
xsm
sm
md
lg

BGC เคาะราคาขาย IPO ที่ 10.20 บาทต่อหุ้น เปิดจอง 8-10 ต.ค. เข้าเทรด 18 ต.ค.นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


BGC เคาะราคาขาย IPO ที่ 10.20 บาทต่อหุ้น เปิดจอง 8-10 ต.ค.เข้าเทรด 18 ต.ค.นี้ พร้อมแต่งตั้ง บล. กสิกรไทย เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO โดยมี บล. เคที ซีมิโก้, บล. ไทยพาณิชย์, บล. บัวหลวง และ บล. ทิสโก้ เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

บมจ. บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส (BGC) กำหนดราคาเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) หุ้นละ 10.20 บาท โดยจะเปิดให้นักลงทุนจองซื้อในวันที่ 8-10 ต.ค. และคาดว่าจะนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 18 ต.ค.นี้ พร้อมแต่งตั้ง บล. กสิกรไทย เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO โดยมี บล. เคที ซีมิโก้, บล.ไทยพาณิชย์, บล.บัวหลวง และ บล. ทิสโก้ เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

นายพงศ์ศักดิ์ พฤกษ์ไพศาล รองกรรมการผู้จัดการ บล.กสิกรไทย เปิดเผยว่า BGC ได้สำรวจความต้องการจองซื้อหุ้น IPO จากนักลงทุนสถาบัน (Book Building) เมื่อวันที่ 3-4 ต.ค.ที่ผ่านมา พบว่า นักลงทุนสถาบันได้แสดงความต้องการจองซื้อที่ราคาสูงสุดหุ้นละ 10.20 บาท สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งและศักยภาพการเติบโตในอนาคต

BGC เป็นผู้จัดจำหน่าย ส่งออก และนำเข้าบรรจุภัณฑ์แก้ว รวมถึงลงทุนในบริษัทย่อยที่ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์แก้วรายใหญ่ของไทย เตรียมเสนอขายหุ้น IPO ไม่เกิน 194.44 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นไม่เกิน 28% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท ซึ่งมีการจัดสรรหุ้น จำนวนไม่เกิน 19,444,000 หุ้น หรือคิดเป็นไม่เกิน 10% ของจำนวนหุ้นสามัญที่เสนอขายครั้งนี้ให้แก่กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของกลุ่มบริษัท

ปัจจุบัน BGC มี บมจ. บางกอกกล๊าส เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ กลุ่มบริษัทมีกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์แก้ว 3,095 ตันต่อวัน ถือว่ามากที่สุดในประเทศไทย (อ้างอิงจากรายงาน GlobalData Plc วันที่ 2 ก.พ.61) เนื่องจากบรรจุภัณฑ์แก้วใช้กันอย่างแพร่หลาย และสามารถนำมารีไซเคิลได้ทั้งหมด แต่ปัจจุบันมีผู้ผลิตรายใหญ่ในประเทศไทยเพียงไม่กี่ราย การดำเนินธุรกิจของ บมจ. บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จึงมีความมั่นคง และมีกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง

นายศิลปรัตน์ วัฒนเกษตร กรรมการผู้จัดการ BGC กล่าวว่า บริษัทมีจุดแข็งด้านประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญในการผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์ที่หลากหลาย มีการปรับปรุงคุณภาพและประสิทธิภาพการผลิตอย่างสม่ำเสมอและมีความได้เปรียบด้านต้นทุนการผลิตที่ต่ำ รวมทั้งมีวิสัยทัศน์ก้าวเป็นผู้นำการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แก้วและบรรจุภัณฑ์ที่มีคุณภาพในภูมิภาคอาเซียน

ณ วันที่ 30 มิ.ย.61 BGC มีบริษัทย่อยที่ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์แก้วรวม 6 บริษัท มีเตาหลอมแก้วรวมทั้งสิ้น 10 เตา กำลังการผลิตรวม 3,095 ตันต่อวัน โดยมีโรงงานผลิตกระจายตัวอยู่ในหลายพื้นที่ที่เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญๆ เช่น จังหวัดปทุมธานี, ขอนแก่น, พระนครศรีอยุธยา, และปราจีนบุรี ส่งผลดีต่อการจัดหาแหล่งวัตถุดิบที่มีต้นทุนต่ำ การบริหารต้นทุนลอจิสติกส์ และการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในพื้นที่ต่างๆ ได้อย่างทั่วถึง

บริษัทอยู่ระหว่างดำเนินโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์แก้วและเตาหลอมแก้วแห่งใหม่ที่จังหวัดราชบุรี เพิ่มอีก 1 เตา เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ โดยใช้เงินลงทุนเบื้องต้นประมาณ 2,500 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาส 4/61 ซึ่งจะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 400 ตันต่อวัน รวมเป็นประมาณ 3,495 ตันต่อวัน

ขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-มิ.ย.61) มีกำไรสุทธิ 270.1 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 121.7 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 122% สาเหตุหลักมาจากต้นทุนคงที่ลดลงจากการย้ายฐานการผลิตจากโรงงานระยอง ที่ปิดตัว ไปยังเตาที่มีประสิทธิภาพการดำเนินงานเพิ่มขึ้น และการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ


กำลังโหลดความคิดเห็น