ในแต่ละปี สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สั่งลงโทษผู้ให้คำแนะนำการลงทุนหรือมาร์เก็ตติ้ง นับสิบ ๆ คดี โดยรายล่าสุด เป็นมาร์เก็ตติ้งที่ดูแลลูกค้ารายใหญ่ ถูกพักใบอนุญาตการเป็นผู้ให้คำแนะนำการลงทุน 1 ปี 3 เดือน
นางสาวสุชาดา กางถัน มาร์เก็ตติ้ง บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ MBKET และ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ถูกลงโทษในความผิดไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ โดยสั่งซื้อขายหุ้นให้ลูกค้า แต่ไม่แจ้งให้ลูกค้าทราบล่วงหน้า เมื่อสั่งซื้อขายแล้ว จึงแจ้งภายหลัง
พฤติกรรมความผิดเกิดขึ้น ระหว่างเดือนตุลาคม 2558 ถึงเดือนเมษายน 2560 โดยเป็นความผิดคาบเกี่ยวระหว่างที่เป็นมาร์เก็ตติ้งของ บล.เมย์แบงก์ ฯ และหลังจากย้ายมาอยู่ที่ บล.หยวนต้า
หุ้นที่สั่งซื้อขายโดยพละการครั้งแรก มูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท ขณะอยู่ที่ บล.เมย์แบงก์ และเมื่อย้ายมาอยู่ บล.หยวนต้า กระทำผิดซ้ำโดย
สั่งซื้อขายหุ้นโดยไม่แจ้งให้ลูกค้าทราบ วงเงินประมาณ 30 ล้านบาท จนลูกค้าแจ้งให้ระงับการสั่งซื้อขายแทน
แต่นางสาวสุชาดายังไม่หยุดพฤติกรรม สั่งซื้อขายหุ้นอีกประมาณ 20 ล้านบาท จนลูกค้าได้รับความเสียหาย และร้องเรียน ก.ล.ต. จนนำไปสู่การตรวจสอบและลงโทษ
นางสุชาดาเป็นหนึ่งในทีมมาร์เก็ตติ้ง จำนวนประมาณ 200 คนของ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ที่ถูกนางบุญพร บริบูรณ์ส่งศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.หยวนต้า และเป็นอดีตผู้บริหาร บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ยกเค้ามาอยู่ที่ บล.หยวนตา และเกิดการฟ้องร้อง ซึ่งศาลชั้นต้นตัดสินให้นางบุญพร ชดใช้ค่าเสียหายให้ บล.เมย์แบงก์ เป็นเงิน 578 ล้านบาท
ลูกค้าที่นางสาวสุชาดาสั่งซื้อขายหุ้นแทน เดิมเป็นลูกค้าของ บล.เมย์แบงก์ แต่เมื่อมาร์เก็ตติ้งย้ายมาอยู่ บล.หยวนตา จึงย้ายตามมา สะท้อนให้เห็นว่า นักลงทุน "ติด" มาร์เก็ตติ้งมากกว่า "ติดโบรกเกอร์"
ลูกค้ารายนี้ เป็นลูกค้ารายใหญ่ โดยช่วงแรกที่นางสาวสุชาดา สั่งซื้อขายหุ้นโดยพละการจำนวนนับพันล้านบาท อาจไม่ได้รับความเสียหาย จึงไม่โวยวาย แต่เมื่อเกิดความเสียหาย อาจยอมรับไม่ได้ และขอให้หยุดสั่งซื้อขายหุ้นแทน แต่นางสาวสุชาดาไม่หยุดพฤติกรรม
นักลงทุนรายใหญ่ที่เป็นลูกค้ามาร์เก็ตติ้งนาน ๆ มักจะสนิทสนมกัน เพราะเมื่อได้ลูกค้ารายใหญ่ มาร์เก็ตติ้งจะทุ่มเทดูแลเต็มที่ โดยถือว่าเป็นตัวทำเงินทำทอง ยิ่งมีวอลุ่มซื้อขายนับพันล้านบาท ยิ่งต้องดูแลให้ประทับใจ
มาร์เก็ตติ้งบางคน ดูแลลูกค้ารายใหญ่ดีกว่าภรรยาของลูกค้าเสียอีก เจ็บป่วยต้องเยี่ยมเยือน เอาใจใส่เหมือนพยาบาล หรือถึงขั้นจุดธูปจุดเทียน ขอให้ลูกค้าอย่าเพิ่งเป็นอะไรไป
เพราะถ้าลูกค้าเป็นอะไร รายได้จากค้านายหน้าหรือคอมมิชชั่นการซื้อขายหุ้น เดือนละนับแสนบาทจะหลุดลอยไปทันที
นักลงทุนจำนวนไม่น้อย มักจะมอบอำนาจการตัดสินใจสั่งซื้อขายหุ้นให้มาร์เก็ตติ้ง เนื่องจากไม่มีเวลาติดตามสถานการณ์การลงทุนอย่างใกล้ชิด โดยมีเงินลงทุนก้อนโต แต่ไม่มีเวลาบริหารเงิน
และคิดว่า มาร์เก็ตติ้งน่าจะเก่งกว่า ใกล้ชิดสถานการณ์มากกว่า เลือกซื้อหุ้นได้ดีกว่า เมื่อมีความไว้ใจ จึงมอบอำนาจการสั่งซื้อขายหุ้นแทน เปิดช่องให้มาร์เก็ตติ้งหาประโยชน์
นักลงทุนที่มอบอำนาจให้มาร์เก็ตติ้งสั่งซื้อขายหุ้นแทน จนเกิดความเสียหายตามมา เกิดขึ้นมานานแล้ว โดยในอดีต มาร์เก็ตติ้ง จะเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นในนามคนใกล้ชิด หุ้นที่ส่งซื้อขายในบัญชีลูกค้า ถ้าซื้อได้ในราคาต่ำมีกำไร จะย้ายเข้ามาในพอร์ตของคนใกล้ชิด
เช่นเดียวกัน หุ้นที่สั่งซื้อขายในพอร์ตคนใกล้ชิด ถ้าขาดทุน จะโยนรายการซื้อขาย ขายบัญชีลูกค้าแทนลูกค้า
นักลงทุนที่คิดจะมอบความไว้วางใจให้มาร์เก็ตติ้ง มอบอำนาจให้สั่งซื้อขายหุ้นแทน ต้องปรับทัศนะคติใหม่ เพราะเงินทองไม่เข้าใครออกใคร
ถ้าจะเสียหายจากการลงทุน ขอให้เสียหายจากการตัดสินใจหรือน้ำมือตัวเองดีกว่า ทำไมต้องปล่อยให้คนอื่นมาทำให้เสียหาย
(สั่งจองหนังสือ “หุ้นวายร้าย” ราคาเล่มละ 190 บาท จากราคาเต็ม 240 บาท โทร. 0-2629-2700 , 08-2782-8353 , 08-2782-8356 )
