xs
xsm
sm
md
lg

“ธนารักษ์” ผุด 8 โครงการนำร่องบ้านประชารัฐ กำหนดเงื่อนไขผ่อนจ่ายเดือนละ 2 พันบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


กรมธนารักษ์ เตรียมผุด 8 นำร่องโครงการบ้านประชารัฐตามหัวเมืองใหญ่รวม 2 พันยูนิต หนุนผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมีบ้านเป็นของตัวเอง โดยให้ผ่อน ธ.ก.ส. และออมสิน เดือนละ 2,000 บาท หากไม่ผ่านการพิจารณาเงินกู้จากแบงก์ กรมธนารักษ์ยังให้ผ่อนดาวน์ได้โดยการฝากเงินอย่างต่อเนื่อง 2,000 บาทต่อเดือน จนกว่าจะครบกำหนดผ่อนดาวน์ จึงจะเสนอให้แบงก์พิจารณาอนุมัติเงินกู้อีกครั้ง ส่วนราคาบ้านกำหนดไว้ที่ 3 แสนถึง 7.5 แสนบาท มีพื้นที่ใช้สอย 28 ตารางเมตร ระบุมีเอกชน 7 รายเสนอตัวเข้าประมูลทำโครงการ เปิดยื่นซองวันที่ 20 ก.ย.นี้ ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 1 ปี ในปี 2562 กรมธนารักษ์เตรียมเปิดประมูลโครงการบ้านคนไทยประชารัฐเพิ่มอีก 2 โครงการ คือ จ.ลำปาง และ จ.นครพนม ปัจจุบันอยู่ระหว่างรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่

นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมธนารักษ์ ได้ลงพื้นที่ตรวจโครงการบ้านคนไทยประชารัฐ จังหวัดเชียงราย หลังจากกำหนดพื้นที่นำร่อง 8 จังหวัด ซึ่งประกอบด้วย ชลบุรี, ประจวบคีรีขันธ์, เชียงใหม่, เชียงราย, ขอนแก่น, อุดรธานี, ลำปาง และนครพนม รวมกว่า 2,000 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,422 ล้านบาท เพื่อนำพื้นที่ทำเลดี ใจกลางเมืองมาจัดทำโครงการอยู่อาศัยให้กับชาวบ้านผู้มีรายได้น้อย หลังจากเปิดโครงการบ้านคนไทยให้ชาวบ้านจองสิทธิไปแล้วจังหวัดชลบุรี

ทั้งนี้ กรมธนารักษ์จึงเตรียมทยอยเปิดโครงการอาคารชุด อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย พื้นที่ 3.3 ไร่ จำนวน 350 ยูนิต ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไหลผ่านตัวเมือง โดยปัจจุบันมีเอกชน 7 ราย เสนอตัวเข้าร่วมประมูลโครงการฯ แล้ว โดยกรมธนารักษ์ กำหนดให้เปิดยื่นซองได้ในวันที่ 20 ก.ย.61 กำหนดใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 1 ปี ล่าสุด มีชาวบ้านสนใจมาลงทะเบียนจองแล้วกว่า 600 ราย นอกจากนี้ ในปี 2562 กรมธนารักษ์ยังเตรียมเปิดประมูลโครงการบ้านคนไทยประชารัฐเพิ่มอีก 2 โครงการ คือ ที่ จ. ลำปาง และ จ. นครพนม ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่

ส่วนสิทธิการจองที่อยู่อาศัยนั้น กรมธนารักษ์กำหนดไว้ 3 กลุ่ม คือ 1. ผู้มีรายได้น้อยในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ, 2. กลุ่มประชาชนที่มีรายได้ไม่เกิน 35,000 บาทต่อเดือน, และ 3. กลุ่มประชาชนทั่วไป อย่างไรก็ตาม อธิบดีกรมธนารักษ์ ย้ำว่าจะเน้นให้สิทธิการจองแกกลุ่มถือบัตรสวัสดิการฯ โดยกำหนดให้จองได้ 1 คนต่อ 1 สิทธิที่พักอาศัย แต่หากธนาคารพิจารณาปล่อยกู้ไม่ผ่าน กรมธนารักษ์ยังจะเปิดโอกาสให้ผ่อนดาวน์เพื่อฝากเงินต่อเนื่องสร้างนิสัยการออม 2,000 บาทต่อเดือน หากผ่อนดาวน์ครบตามกำหนด จากนั้น จึงจะนำข้อมูลไปเสนอธนาคารให้พิจารณาการปล่อยกู้อีกครั้ง และเปิดโอกาสให้เปลี่ยนมือได้หลังจากครอบครอง 5 ปี เพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยอยู่อาศัย แม้คนต่างจังหวัดยังสามารถมาลงทะเบียนสิทธิที่เชียงราย ได้ จึงคาดว่าจะสามารถผ่อนชำระได้โดยไม่มีปัญหากับรายได้ของผู้กู้

ด้าน น.ส.อมรรัตน์ กล่ำพลบ รองอธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวเพิ่มเติมถึงรูปแบบการก่อสร้างโครงการบ้านอยู่อาศัยดังกล่าวว่า กรมธนารักษ์ได้จัดทำรูปแบบบ้านไว้ 3 รูปแบบ คือ บ้านแฝด บ้านแถว และอาคารชุดพักอาศัย โดยมีขนาดพื้นที่ใช้สอยไม่น้อยกว่า 28 ตารางเมตร ส่วนราคาขายต่อหน่วยกำหนดไว้ตั้งแต่ 350,000-700,000 บาท โดยผู้ที่จะได้รับสิทธิเข้าโครงการฯ กำหนดให้นาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารออมสิน และกรมธนารักษ์ จะร่วมกันพิจารณา ส่วนมีแนวทางให้ความช่วยเหลือประชาชนที่มีรายได้น้อย และอาจไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาของธนาคารนั้น ธนาคารจะเปิดทางให้นำเงินฝากไว้ในบัญชีออมทรัพย์ของธนาคาร หรือการผ่อนดาวน์ เพื่อให้มีกำลังผ่อนชำระค่าเช่าอย่างน้อย 9 เดือน หรือตามที่ธนาคารกำหนด เพื่อแสดงถึงวินัยการออมเงิน และผ่อนชำระ และเมื่อผู้ได้รับสิทธิผ่านการอนุมัติเงินกู้จากธนาคารแล้วให้ถือว่าเงินฝากดังกล่าวนั้น เป็นเงินดาวน์ของผู้ประกอบการ และหากผู้ได้รับสิทธิกระทำผิดเงื่อนไขแล้วกำหนดให้ผู้ประกอบการสามารถริบเงินฝากดังกล่าวนั้นไว้ได้

สำหรับมาตรการสินเชื่อจาก ธอส. และธนาคารออมสิน ซึ่งพร้อมสนับสนุนวงเงินสินเชื่อสำหรับดำเนินโครงการดังกล่าวนั้น ได้ทำกรอบวงเงินปล่อยสินเชื่อโครงการ 4,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสินเชื่อเพี่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย (Pre Finance) โดยกำหนดอัตราดอกเบี้ยแบบผ่อนปรนที่ 3% ต่อปี สำหรับการกู้ในปี 1-3 จากนั้น จะคิดดอกเบี้ยอัตรา MLR-ไม่เกิน 1% ต่อปี โดยมีระยะเวลาการกู้ไม่เกิน 5 ปี เพื่อสนับสนุนสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการ หรือบริษัทธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด ที่จะเข้าร่วมพัฒนาโครงการ ส่วนสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Post Finance) ได้กำหนดอัตราดอกเบี้ยแบบผ่อนปรนปีละ 2.75% ในปีที่ 1-4 แต่หลังจากนั้นจะปรับคิดอัตราดอกเบี้ยใหม่ โดยในกรณีที่เป็นรายย่อยจะคิดอัตราดอกเบี้ย MRR-0.75% ต่อปี หรือกรณีสวัสดิการหักเงินเดือน MRR-1% ต่อปี กำหนดระยะเวลาการกู้ไม่เกิน 30 ปี และผ่อนปรนการกำหนดอัตราส่วนรายจ่ายในการชำระหนี้ต่อรายได้ต่อเดือน หรืออัตราส่วนภาระผ่อนชำระหนี้รวมต่อรายได้สุทธิแล้วแต่ที่ธนาคารจะกำหนด เนื่องจากการให้รายย่อยทดลองผ่านค่าเช่าแบบเช่าซื้อ หรือผ่อนดาวน์จะช่วยสร้างนิสัยการออม เพื่อให้ธนาคารพิจารณาปล่อยสินเชื่อได้


กำลังโหลดความคิดเห็น